เอ็นทีที ทรานฟอร์มองค์กรรับตลาดดิจิทัลเปลี่ยน รวม 28 บริษัทในเครือ เป็นบริษัทเดียว ชู แบรนด์ “เอ็นทีที” รุกตลาดไอซีที 4 ด้าน ครบวงจร พร้อมโยกผู้บริหาร ไดเมนชั่น ดาต้า “สุทัศน์ คงดำรงเกียรติ” นั่งซีอีโอ ดูแลตลาดประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ และ ลาว เผยเตรียมลงทุน 5 ล้านเหรียญ เปิดบริการคลาวด์ระดับโกลบอลแบบไฮบริด มัลติคลาวด์ปลายเดือน พ.ย.นี้
นายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ และ ลาว บริษัท เอ็นทีที จำกัด กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2562 ที่ผ่านมา บริษัทในเครือของเอ็นทีทีทั่วโลก 28 บริษัท ยกเว้นในประเทศญี่ปุ่น ได้ควบรวมเป็นบริษัทเดียว ภายใต้แบรนด์ เอ็นทีที เพื่อให้สะดวกในการเสนอบริการต่อลูกค้าเป็นโซลูชันเดียวกัน
เพื่อให้ทั้งลูกค้าและบริษัทลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อน รับตลาดดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากลูกค้าต้องการทรานฟอร์มองค์กรไปสู่ยุคดิจิทัลเช่นกัน ทำให้ต้องมองหาบริษัทที่สามารถนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจรได้ รวมถึงการใช้งานแบบเช่าใช้ เพื่อง่ายต่อการยืดหยุ่นเพิ่มหรือลดระบบที่ต้องการทำในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน
“ไดเมนชั่น ดาต้า เป็นบริษัทในเครือของเอ็นทีที ตนเองจึงได้รับโอกาสให้นั่งเป็นผู้บริหารของสำนักงานในประเทศไทย ซึ่งนอกจากดูแลตลาดในไทยแล้ว ต้องดูแลตลาดในประเทศเพื่อบ้าน คือ กัมพูชา เมียนมาร์ และ ลาว ที่นับเป็นตลาดที่มีโอกาสในการเติบโตสูงมากด้วย”
สำหรับแผนการตลาดในประเทศไทย ในช่วง 1 ปีแรก หลังควบรวม เป็นช่วงที่บริษัทต้องปรับองค์กร สร้างการรับรู้แบรนด์ไปยังลูกค้า และพัฒนาพนักงานกว่า 1,000 คน ให้มีทักษะในการทำงานแบบใหม่ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการทรานฟอร์มองค์กรไปสู่ผู้ให้บริการ 4 ด้าน ได้แก่
1.Intelligent Business (ธุรกิจอัจฉริยะ) โซลูชันสำหรับธุรกิจดิจิทัล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและปลดล็อกศักยภาพทางด้านข้อมูล รวมถึงการวิเคราะห์ และแอปพลิเคชันบนมัลติคลาวด์
2. Intelligent Workplace (สำนักงานอัจฉริยะ) สร้างสภาพแวดล้อมอันทันสมัยสำหรับองค์กร ผสานเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันที่เหมาะสม เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าในการสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือผ่านอุปกรณ์การสื่อสารใดภายใต้ความปลอดภัยมาตรฐานสากล
3.Intelligent Infrastructure (ระบบโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ) รองรับการบริการบนเครือข่าย ศูนย์ข้อมูล และโซลูชันสำหรับโครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้นด้วยกระบวนการอัตโนมัติ และบริการ Managed Service ที่สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่อยู่บนสภาพแวดล้อมของไฮบริดคลาวด์
4. Intelligent Cybersecurity (ระบบความปลอดภัยไซเบอร์อัจฉริยะ) ออกแบบความปลอดภัยสำหรับธุรกิจ โดยสร้าง ระบบรักษาความปลอดภัยที่เหนือกว่า สามารถทำการวิเคราะห์ คาดการณ์ ตรวจจับ และแจ้งเตือนภัยคุกคามทางไซเบอร์ รวมถึงตอบสนองต่อการโจมตีโดยอัตโนมัติอย่างชาญฉลาด เพื่อสนับสนุนการใช้นวัตกรรมในธุรกิจและบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยคุกคามไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายสุทัศน์ กล่าวว่า ภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ บริษัทจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีการลงทุนประมาณ 5 ล้านเหรียญ คือ บริการคลาวด์ ในลักษณะแบบไฮบริด มัลติคลาวด์ ที่ให้บริการในระดับโลกมาแล้ว เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย ที่มีการใช้งานคลาวด์ หลากหลายมากขึ้น
“ในอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้าเมื่อเทคโนโลยี 5G เกิด มีการใช้งานเทคโนโลยี AI และ IoT ตลาดดิจิทัลในประเทศไทยจะเปลี่ยนโฉมอย่างมาก การเตรียมความพร้อมด้วยการทรานฟอร์มและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้านคลาวด์แบบใหม่ของบริษัทจะช่วยให้องค์กรธุรกิจเตรียมรับมือกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างมากเหล่านี้ได้”
ส่วนการทำตลาดในประเทศเพื่อบ้าน บริษัทเพิ่งตั้งสำนักงานประจำประเทศเมียนมาร์ไปเมื่อวันที่ 1 ต.ค. นี้ ซึ่งแต่เดิมมีแต่สาขาของเอ็นทีที คอมมูนิเคชั่นส์ เท่านั้น ดังนั้นการควบรวมครั้งนี้ยิ่งทำให้บริษัทมีโอกาสเข้าไปรุกตลาดในบริการอื่นๆที่บริษัทมีอีกด้วย ส่วนประเทศกัมพูชาและลาวยังเป็นเพียงบริษัทสาขา ซึ่งกำลังดูแนวโน้มการเติบโตของตลาดก่อนตัดสินใจตั้งสำนักงานใหญ่ต่อไป ทั้งนี้ตลาดใน 3 ประเทศเพื่อนบ้านนี้บริษัทมีการให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์อยู่แล้วซึ่งทำงานร่วมกับบริษัทท้องถิ่นมีพนักงานรวมกัน 3 ประเทศ ประมาณ 50-60 คน