ตอนนี้ใครเจอ รมว.ดีอี “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” ที่ขอเพิ่มชื่อย่อกระทรวงเป็น ดีอีเอส ก็อดแซวไม่ได้ว่าเป็นรัฐมนตรีแอนตี้ เฟค นิวส์ ไปเสียแล้ว เพราะตั้งแต่รับตำแหน่งมาก็มีแต่ข่าว แอนตี้ เฟคนิวส์ แต่หารู้ไม่ว่า ที่กระทรวงเอง ก็มีเฟคเพจอยู่นะจ๊ะ
เรื่องนี้สร้างความสับสนให้กับคนที่มาเชคอินและเข้ามาสอบถามข้อมูลในเพจของกระทรวงเป็นอย่างยิ่งว่าอันไหนเป็นของกระทรวงตัวจริงกันแน่ ถามผิด ถามถูก เช็คอินกันมั่วไปหมด ถามข้อมูลอะไร ก็ไร้คำตอบ แม้ว่าเพจจริงที่สร้างทีหลังและมียอดคนติดตามกว่า 20,000 คน จะแอคทีฟอย่างต่อเนื่อง แต่กลายเป็นว่าเฟคเพจที่มีคนติดตาม 700 กว่าคน กลับสามารถตอบโต้กับคน (คนเดียว) ที่เข้ามาเช็คอินได้ดีกว่าเพจจริงของกระทรวงเสียอีก แต่คนอื่นๆถามข้อมูลที่ต้องการคำตอบ ดันตอบไม่ได้ อย่างนี้จะเรียกว่าสร้างความตื่นตระหนกได้หรือไม่
เมื่อสอบถามไปยังกระทรวงกลับได้คำตอบแบบ งงๆ ครั้งแรกบอกว่าเพจสร้างมานานแล้วตั้งแต่ปี 2557 พอเปลี่ยนทีมงานก็ไม่สามารถล็อคอินได้ จึงแก้ปัญหาด้วยการสร้างเพจใหม่ แจ้งเรื่องนี้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา คน ปอท.ก็มาดูแล้ว แต่ก็ยังจัดการอะไรไม่ได้ จึงทำได้แค่เพียงการกดรีพอร์ตว่าเป็นเพจปลอม พอมาวันจันทร์ที่ 16 เพจก็ยังไม่หายไปไหน เมื่อสอบถามกลับได้คำตอบที่น่าฉงน ว่าต้องไปเอาหมายศาลมาปิด และเพจนี้เป็นแค่เพจเชคอิน แต่การตอบโต้กับผู้คน (คนเดียว) นั้น เป็นเพราะระบบเอไอ ตั้งแต่สมัยทีมรมว.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ ทำไว้ และคนๆนั้นเป็นแฟนตัวยงของเพจดังกล่าว เอไอจึงเลือกตอบกับคนนี้คนเดียว
เรื่องนี้จึงเป็นการเชื่อยาก เหมือนจะปัดความรับผิดชอบ ทั้งๆที่ตัวเองเป็นกระทรวงดีอีเอส อันแสนไฮเทค แต่กลับปราบเรื่องเฟคๆในกระทรวงไม่ได้ และปล่อยให้เรื้อรังมานาน ขนาด รมว.ดีอีเอส คนปัจจุบันยังต๊กกะใจ และไม่ทราบเรื่องมาก่อน ถึงกับอุทาน “นี่เราโดนเฟค ชัดๆ” ร้อนถึง “พุทธิพงษ์” ต้องเดินทางไปแจ้งเรื่องที่ ปอท.เอง และไม่เชื่อว่า เอไอ จะทำได้บนหน้าวอลของเพจ และเรื่องนี้ไม่ต้องถึงขั้นขอหมายศาลแต่อย่างใด ....เรามาลองดูกันว่าเรื่องง่ายๆแค่นี้ กระทรวงทันสมัยจะใช้เวลากี่วันกันเอ่ย ขออย่าให้เสียยี่ห้อรมว.แอนตี้เฟคนิวส์นะเจ้าคะ