สำนักข่าวเทคครันช์ (TechCrunch) รายงานว่าพบข้อมูลหลุดล็อตใหญ่ที่มีผลกระทบต่อผู้ใช้มากกว่า 20% ของฐานสาวกเฟซบุ๊ก (Facebook) รวม 2.3 พันล้าน หนึ่งในฐานข้อมูลจำนวนมากที่ไม่มีการป้องกันจนถูกค้นพบได้บนโลกออนไลน์คือข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ผู้ใช้ Facebook มากกว่า 419 ล้านคน โดยรายงานระบุว่าฐานข้อมูลถูกพบบนเซิร์ฟเวอร์และไม่มีการป้องกันใดๆ สะท้อนว่าข้อมูลส่วนตัวนี้เปิดกว้างให้ใครก็ได้เข้าถึงได้อย่างอิสระผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
รายงานระบุว่า ในบรรดาฐานข้อมูลกลุ่มนี้เป็นข้อมูลของผู้ใช้ Facebook บนสหรัฐฯ 133 ล้านคน, ผู้ใช้ในอังกฤษอีก 18 ล้านคนและอีก 50 ล้านคนในเวียดนาม แต่ละบันทึกในฐานข้อมูลจะมีหมายเลขประจำตัวหรือ ID เฉพาะของผู้ใช้ Facebook แต่ละราย ซึ่งจะมีข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุในบัญชีแบบเฉพาะตัวตน
นอกจากเบอร์โทรศัพท์ บางฐานข้อมูลยังมีข้อมูลชื่อผู้ใช้ เพศ และสถานที่อยู่ในประเทศด้วย
ภาวะข้อมูลหลุดเหล่านี้ไม่ได้แปลว่า Facebook ถูกแฮ็กหรือเจาะระบบ แต่เป็นเพราะฐานข้อมูลเหล่านี้ถูกคัดลอกมาจากผู้ใช้ Facebook ซึ่งก่อนหน้านี้ Facebook เคยอนุญาตให้นักพัฒนาเข้าถึงหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้ จนมีการประกาศยกเลิกไปในปี 2018 ที่ผ่านมา
ขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าใครหรือบริษัทใดเป็นเจ้าของฐานข้อมูล แม้ว่าข้อมูลจะถูกดึงออกจากเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกเก็บไว้แล้วหลังจากที่มีการเปิดโปงและส่งเรื่องให้บริษัทเว็บโฮสติ้งดำเนินการ เบื้องต้น TechCrunch รายงานว่าโฆษก Facebook แสดงความคิดเห็นว่าข้อมูลในฐานข้อมูลที่ค้นพบนั้นเป็นข้อมูลชุดเก่า และเป็นข้อมูลที่ถูกเปลี่ยนแปลงเมื่อปีที่แล้ว
ปัจจุบัน Facebook ปิดความสามารถไม่ให้ผู้คนค้นหาผู้ใช้รายอื่นโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์ โดยโฆษกย้ำว่าชุดข้อมูลนี้ถูกลบแล้ว และบริษัทไม่พบเห็นหลักฐานว่าบัญชี Facebook ถูกโจมตี
ความเสี่ยงที่ผู้ใช้เจ้าของเบอร์โทรที่หลุดสู่โลกออนไลน์จำนวน 419 ล้านคนคือโอกาสในการถูกแฮ็คซิม ซึ่งสามารถขยายผลไปสู่การขโมยข้อมูลประจำตัว และอาชญากรรมดิจิทัลอื่นๆ อย่างน้อยที่สุด ผู้ใช้ทั้ง 419 ล้านคนที่ยังถือเบอร์โทรเดิม อาจจะต้องเดือดร้อนรำคาญกับอีเมลขยะหรือสแปมมากขึ้น.
