กสทช. สั่งค่ายมือถือเตรียมความพร้อม และดูแลการใช้งานลูกค้าในภาคอีสาน เอไอเอส - ดีแทค ร่วมเข้าพื้นที่ดูแลสัญญาณ และเยียวยาลูกค้าด้วยการขยายระยะเวลาคำระค่าบริการให้สามารถสื่อสารได้ต่อเนื่อง หลังจากที่ไปรษณีย์ไทย และทรูมูฟ เอช เข้าไปร่วมดูแลแล้วก่อนหน้านี้
จากสถานการณ์อิทธิพลพายุโซนร้อนโพดุลที่ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องหลายชั่วโมง จนส่งผลให้มีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของไทย โดยเฉพาะภาคอีสาน ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและการใช้ชีวิตของประชาชนจนถึงปัจจุบันนั้น
AIS และ กสทช. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง จึงยังคงเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเตรียมความพร้อมทั้งด้านเครือข่าย อุปกรณ์ปั่นไฟ น้ำมัน และบุคลากร เพื่อดูแลเครือข่ายให้ยังคงพร้อมให้บริการติดต่อสื่อสารได้อย่างดีที่สุด พร้อมระดมทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากส่วนกลางและภูมิภาคเข้าดูแลสถานีฐานในพื้นที่ประสบภัยอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นสถานการณ์พายุจนถึงปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นเป็นลำดับ
อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนสำหรับลูกค้าเอไอเอส ที่ได้รับผลกระทบใน 8 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด, สกลนคร, มุกดาหาร, อุดรธานี, นครพนม, อำนาจเจริญ, กาฬสินธุ์ และยโสธร เอไอเอสจึงดำเนินการขยายระยะเวลาชำระค่าบริการสำหรับลูกค้ารายเดือนออกไปจนถึงวันที่ 8 กันยายน 2562 ส่วนลูกค้าระบบเติมเงินจะได้รับการขยายเวลาการใช้งานให้เพิ่มอีก 7 วัน โดยลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวจะได้รับ SMS ยืนยันอีกครั้ง และไม่จำเป็นต้องกด USSD ลงทะเบียนให้ยุ่งยาก
นอกจากนี้ นับตั้งแต่เริ่มต้นสถานการณ์อุทกภัย เอไอเอสได้เข้าไปร่วมดูแลประชาชนในพื้นที่ พร้อมส่งมอบน้ำดื่มและถุงยังชีพให้กับหน่วยงาน และศูนย์ดูแลประชาชนในแต่ละพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง
***ดีแทคเข้าพื้นที่ดูแลสัญญาณ-เยียวยาลูกค้า
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เร่งรับมือผลกระทบจากพายุโพดุลที่พัดกระหน่ำเข้าไทย ทำให้ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันหลายจังหวัด โดยจัดทีมดูแลโครงข่ายเข้าป้องกันสถานีชุมสายหลักและแก้ไขสถานีฐานที่ได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ใช้งานโดยเฉพาะภาคอีสาน
ดีแทคยังร่วมมือกับ กสทช. บรรเทาความเดือนร้อนผู้ใช้งาน 8 จังหวัดประสบภัย โดยลูกค้าเติมเงิน เพิ่มวันใช้งาน ฟรี 7 วัน กด *170# โทรออก เพื่อรับสิทธิ์ เริ่มรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 2 – 4 กันยายน 2562 สำหรับลูกค้ารายเดือนขยายเวลาชำระค่าบริการ 7 วัน จนถึงวันที่ 8 กันยายน 2562 ทั้งนี้ ดีแทคยังจัดเตรียมทีมดูแลสถานีฐานเพิ่มเพื่อเร่งรับมือดีเปรสชันใหม่ที่จ่อเคลื่อนเข้าไทยและอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องภาคอีสาน
นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า จากกรณีพายุโพดุลที่เคลื่อนเข้าไทยส่งผลให้ฝนตกหนักและน้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคอีสาน ดีแทคได้ส่งทีมงานลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน
โดยเฉพาะจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุโพดุลทำให้มีผลกระทบต่อการสื่อสาร เช่น อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ หนองคาย อำนาจเจริญ นครพนม อุดรธานี ยโสธร มุกดาหาร สกลนคร และร้อยเอ็ด ซึ่งทีมงานดีแทคได้เข้าพื้นที่ดูแลอย่างรวดเร็วตามแผนรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉินจากฝนตกหนัก
เบื้องต้นได้นำเครื่องปั่นไฟฟ้าฉุกเฉิน และเตรียมน้ำมันสำรองไว้สำหรับกรณีพื้นที่น้ำท่วมที่มีการตัดกระแสไฟฟ้า โดยสถานีฐานดีแทคจะสามารถให้บริการต่อเนื่องได้หลังจากที่มีการตัดกระแสไฟฟ้า ทำให้บางพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบในช่วงแรกกลับมาใช้งานสื่อสารได้เป็นปกติ
นอกจากนี้ ดีแทคได้เตรียมแผนรองรับฉุกเฉินเพื่อดูแลสถานีฐานเพิ่มมากขึ้น เช่น จัดเตรียมรถโมบายล์ บีทีเอส พาหนะเคลื่อนที่เร็วสำหรับลงพื้นที่เข้า-ออกประจำสถานีฐานเพื่อดูแลและซ่อมแซมในภาวะฉุกเฉิน เช่น รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ และเรือท้องแบนสำหรับพื้นที่น้ำท่วมสูง พร้อมทั้งจัดเตรียมอะไหล่สำรองในการซ่อมบำรุงสำหรับกรณีฉุกเฉินจากพายุและน้ำท่วม โดยทีมงานในภูมิภาคต่างๆ ของดีแทคจะประสานความช่วยเหลือร่วมกันในสถานการณ์เร่งด่วนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกค้าใช้งานมือถือติดต่อสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีผลกระทบน้อยที่สุดในภาวะฉุกเฉิน
“ดีแทคยังเฝ้าระวังดีเปรสชันใหม่ที่อาจเคลื่อนเข้าไทยซึ่งคาดว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคอีสานอีกครั้ง ดีแทคพร้อมสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เข้าช่วยเหลือและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของผู้ประสบภัยในพื้นที่ พร้อมประสานงานและร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ กสทช. รวมทั้งสถานีตำรวจและโรงพยาบาลในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ”