“พุทธิพงษ์” ยังไม่นำวาระควบควมทีโอที-กสท โทรคมนาคม เข้า ครม. เหตุขอศึกษาข้อมูลรอบด้าน ยันต้องไม่กระทบพนักงาน ชี้ไม่ควรนับถอยหลังวันควบรวม หวั่นสร้างความแตกแยก
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า กระทรวงดีอียังไม่ได้นำวาระการควบรวมของ 2 รัฐวิสาหกิจ คือ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เป็น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่เป็นสิ่งที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) รายงานให้ครม.รับทราบ เท่านั้น
เนื่องจากตนเองต้องการหารือร่วมกับ 2 บริษัท รวมถึงสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจก่อนนำเข้าครม. ว่าการควบรวมมีแผนในการบริหารจัดการบุคลากรอย่างไร ซึ่งต้องรับประกันว่าจะไม่มีการปลดพนักงานแบบฟ้าผ่า แต่ควรมีแผนในการบริหารจัดการระยะ 5 ปี ว่าจะมีแผนการลดพนักงาน หรือ เพิ่มทักษะเพื่อให้พนักงานสามารถเปลี่ยนไปทำงานในตำแหน่งอื่นได้อย่างไร
ส่วนเรื่องทรัพย์สินของทั้ง 2 บริษัท แม้ว่าสำนักงานอัยการสูงสุด แจ้งว่าเมื่อมีการควบรวมกันแล้วจะไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด แต่ก็ต้องการเห็นข้อมูลของทรัพย์สินดังกล่าวให้ชัดเจนก่อน นอกจากนี้ยังมีเรื่องสัญญาของคู่สัญญาเอกชนที่ทั้งสองบริษัทต่างมีสัญญาอยู่ จึงต้องดูให้รอบคอบว่าจะมีผลกระทบต่อคู่สัญญาหรือมีข้อจำกัดของสัญญาที่แต่ละบริษัททำหรือไม่
นายพุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนเองนั้นไม่มีกรอบเวลาชัดเจนว่าควรจะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ เพราะหากเร่งให้เกิด โดยที่ไม่มีการศึกษาให้รอบคอบ ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่ประโยชน์ การตั้งเงื่อนไขเวลาอาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้ การรีบจึงไม่เป็นประโยชน์ หากมีคนต่อต้าน ทั้งนี้ตนเองได้เชิญสหภาพฯ กสท โทรคมนาคม และ สหภาพฯ ทีโอที เข้าร่วมหารือและชี้แจงข้อมูลในเรื่องดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากมีการควบรวมจริงทั้งสองบริษัทก็ต้องตั้งคณะกรรมการร่วมกันในการศึกษาและวางแผนหลายคณะไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัพย์สิน บุคลากร ตลอดจนเรื่องสัญญากับพันธมิตร เบื้องต้นทราบว่าทั้ง 2 บริษัท ก็มีบริษัทที่ปรึกษาอยู่แล้ว การควบรวมก็มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน จุดแข็งคือมีการนำธุรกิจที่เป็นจุดแข็งมารวมกัน แต่จุดอ่อนคือการทำงานของคนที่ซ้ำซ้อน