สแนป (Snap) บริษัทแม่ของสแนปแชต (Snapchat) ไม่ยอมแพ้กับธุรกิจแว่นกันแดดอัจฉริยะ เปิดตัวแว่นสเปกทาเคิลส์ 3 (Spectacles 3) รุ่นใหม่โดยยังคงฐานะแว่นกันแดดที่บันทึกวิดีโอได้ รุ่นล่าสุดถูกปรับเพิ่มเอฟเฟกต์ 3 มิติใหม่ พร้อมกับเพิ่มราคาขายให้เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าราว 2 เท่า ตัวแว่นพร้อมจัดส่งในไตรมาส 3 ปีนี้
การเปิดตัวแว่น Spectacles 3 รุ่นใหม่เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 3 ปีหลังจากการเปิดตัวรุ่นแรกที่วางจำหน่ายผ่านเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ ที่ผ่านมา แว่นนี้กลายเป็นไวรัลที่ถูกพูดถึงวงกว้าง สาวก Snapchat หลายรายยอมรอหลายชั่วโมงเพื่อซื้อแว่นนี้ ทำให้มีการนำแว่นไปจำหน่ายบนร้านออนไลน์อย่างอีเบย์ (eBay) ในราคามากกว่า 900 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 27,000 บาท แต่ด้วยต้นทุนที่สูง ทำให้ Snap บันทึกงบการเงินว่ามีค่าใช้จ่ายราว 40 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับสินค้าคงคลังส่วนเกิน
จนปีที่แล้ว Snap เปิดตัวแว่นรุ่น 2 ซึ่งดูคล้ายกับรุ่นแรก แต่มีขนาดเล็กกว่าและกันน้ำได้
ปีนี้เน้น 3D
ล่าสุด Spectacles 3 กลับมาพร้อมกับรูปลักษณ์เพรียวบางกว่าเดิม ตัวเลนส์ทรงกลมติดไว้ใต้กล้อง 3 มิติ เช่นเดียวกับ 2 รุ่นแรก Spectacles 3 ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพและวิดีโอโดยการแตะที่ปุ่มบนแว่นและส่งไฟล์ไปยังแอป Snapchat โดยตรง กล้อง HD ทั้ง 2 ตัวของ Spectacles 3 จะจับความลึกและมิติของภาพเป็นแบบ 3D ในแบบเดียวกับที่สายตามนุษย์มองเห็น
Snapchat บริการโซเชียลดาวรุ่งที่มีผู้ใช้ 200 ล้านคนต่อวัน ได้โชว์วิดีโอสาธิตเอฟเฟกต์ AR เสมือนจริงที่ชาว Snapchat สามารถเพิ่มลงในวิดีโอที่ถ่ายจาก Spectacles เช่น ภาพนกสีชมพูสดใสที่สามารถเพิ่มในวิดีโอได้ง่ายดาย รวมถึงอีกหลายลูกเล่น AR ที่จะซ้อนทับกับโลกรอบตัวผู้ใช้มากขึ้นในอนาคต
แว่น Spectacles รุ่นเก่านั้นแจ้งเกิดด้วยสีสดใส เช่น สีส้มและสีน้ำเงิน แต่รุ่นใหม่ Spectacles 3 มาในสีดำและสีทองชมพู จุดนี้สื่อมองว่า Snap อาจเรียนรู้จากความผิดพลาดใน Spectacles รุ่นก่อนๆ และย้ำว่า Spectacles 3 จะเป็นผลิตภัณฑ์จำนวนจำกัด
ผลิตน้อยลง
Spectacles 3 จะถูกผลิตในจำนวนที่น้อยลงกว่าเดิม สนนราคา 380 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 11,700 บาท ราคาที่สูงขึ้นและจำนวนการผลิตที่น้อยลงตอกย้ำความล้มเหลวของสินค้ากลุ่มแว่นอัจฉริยะที่ไม่สามารถเจาะตลาดแมสได้ เช่นเดียวกับยักษ์ใหญ่ "กูเกิลกลาส" (Google Glass) ที่ไม่ประสบความสำเร็จในผู้บริโภค แต่ก็ยังคงลงทุนต่อเนื่องเพื่อไม่ให้โครงการนี้หายไป และปรับเปลี่ยนมาเป็นแว่นตาเสมือนจริงสำหรับธุรกิจแทน
อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือว่าแอปเปิล (Apple) จะพัฒนาแว่นตาเสมือนจริง ขณะที่บริษัทในวงการอินเทอร์เน็ตเช่นเฟซบุ๊ก (Facebook) และอะเมซอน (Amazon) ก็ส่งสัญญาณเข้าสู่ตลาดฮาร์ดแวร์ด้วยอุปกรณ์เพื่อการทำวิดีโอแชต ซึ่งถือเป็นอีกรูปแบบของแว่นตาอัจฉริยะที่อาจแจ้งเกิดในอนาคตข้างหน้า
สำหรับ Snap ข้อมูลระบุว่าในไตรมาสล่าสุด Snapchat สามารถเพิ่มผู้ใช้รายใหม่ 13 ล้านคนต่อวัน ผลักดันให้ฐานผู้ชมรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นเกิน 200 ล้านคนต่อวันเป็นครั้งแรก.