xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มสามารถเริ่มฟื้น สร้างกำไรหลังปิดไตรมาส 2

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กลุ่มสามารถ กลับมาทำกำไร หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 มีรายได้รวม 4,420 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56 ล้านบาท โดยเติบโตในธุรกิจไอซีที และลดการขาดทุนจากกลุ่มสามารถดิจิตอล ส่วนไตรมาส 3 รอยื่นไฟล์ลิ่ง สามารถ ทรานส์โซลูชั่น แก่กลต.

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 62 บริษัทฯ มีรายได้รวม 4,420 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 56 ล้านบาท โดยสายธุรกิจ ICT Solution มีรายได้ไตรมาส 2 ถึง 3,169 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท

โดยบริษัทได้ลงนามสัญญาโครงการใหม่รวมมูลค่า 5,793 ล้านบาท ประกอบด้วย งานรับจ้างออกแบบ จัดหา พัฒนา ติดตั้งและดูแลบำรุงรักษาระบบคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสำหรับธุรกิจหลักของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โครงการของกระทรวงมหาดไทย รวมถึง บมจ.ทีโอที ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2562 บริษัทมีมูลค่างานคงค้างรวม 9,274 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ในขณะที่สายธุรกิจดิจิตอล ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตั้งโครงข่ายวิทยุคมนาคมระบบดิจิตอลและเสาโทรคมนาคมในกรมอุทยานแห่งชาติ ก็เริ่มทยอยรับรู้รายได้แล้วและจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาสสาม

ส่วนธุรกิจ Contact Center โดย บมจ.วันทูวันคอนแทคส์ มีรายได้ 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน 5 เปอร์เซนต์ ปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดราว 27 เปอร์เซนต์ และมีมูลค่างานในมือทั้งสิ้น 828 ล้านบาท มีองค์กรผู้ใช้บริการในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มประกัน กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสายการบิน รวมแล้วกว่า 80 รายในปัจจุบัน

ปิดท้ายที่สายธุรกิจ U-TRANS ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านพลังงานและสาธารณูปโภค มีรายได้รวม 761 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจบริหารและควบคุมการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชาโดย บริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด (CATS) นอกจากนี้ บริษัทย่อยคือ เทด้า ก็มีผลการดำเนินธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เซ็นสัญญาโครงการจัดหาและจ้างก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูง 115 kV สิงห์บุรี กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มูลค่า 358 ล้านบาท

นายวัฒน์ชัย กล่าวถึงแนวทางในการรุกธุรกิจของกลุ่มสามารถในช่วงครึ่งปีหลังว่า เนื่องด้วยรัฐบาลมีนโยบายผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรมและเร่งด่วน ผ่านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ช่วยส่งผลดีต่อภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการสื่อสารคมนาคม

ที่ผ่านมากลุ่มสามารถเทลคอมก็เริ่มต้นครึ่งปีหลังได้สวย สามารถชนะประมูลงานสำคัญ อาทิ โครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมทหารกับกองบัญชาการกองทัพไทย มูลค่า 598 ล้านบาท, โครงการจัดหาพร้อมติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) บริเวณสวนสาธารณะ กับกรุงเทพมหานคร มูลค่า 168 ล้านบาท และยังมีงานรอประมูลในครึ่งปีหลังอีกกว่า 9 พันล้านบาท

คาดว่าสิ้นปี 62 จะมีงานในมือมากกว่า 12,000 ล้านบาท ในขณะที่ สายธุรกิจดิจิตอลก็อยู่ในช่วงพลิกฟื้นและทยอยรับรู้รายได้ใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นรายได้ประจำต่อไป ส่วนสายธุรกิจ ยูทรานส์ ก็มีรายได้ประจำที่แข็งแกร่ง จากธุรกิจควบคุมการจราจรทางอากาศในปัจจุบัน โดยล่าสุด คณะกรรมการบริษัทได้ลงมติให้ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น นำบริษัทย่อย คือ บริษัท สามารถ ทรานส์โซลูชั่น จำกัด (STR) ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจการจราจรทางอากาศ หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการจราจรทางอากาศ เข้าระดมทุนโดยการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และจะนำหุ้นสามัญทั้งหมดของ STR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดยจะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ ปัจจุบัน STR ได้ถือหุ้น 100% ในบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด (CATS) และเมื่อ บริษัท สามารถ ทรานส์โซลูชั่น จำกัด แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเปลี่ยนเป็นชื่อ “บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน)”

“การนำบริษัท สามารถ ทรานส์โซลูชั่น จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของกลุ่มสามารถที่จะขยายธุรกิจ รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยี ด้านการจราจรทางอากาศให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อต่อยอดและสร้างโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งไม่เพียงเท่านั้นเรายังมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชั่นรอบด้าน โดยผลักดันให้เกิดความคิดสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับกลุ่มสินค้าและบริการ เพื่อสร้างความคุ้มค่าสูงสุดให้กับลูกค้าของเรา”


กำลังโหลดความคิดเห็น