เอไอเอส ต่อยอดธุรกิจ IoT สู่ประกันภัย ใช้ควบคุมประกันเติมเงินอัตโนมัติ

เอไอเอส ขยาย NB-IoT สู่ธุรกิจประกันภัยด้วยการจับมือกับประกันภัยไทยวิวัฒน์นำอุปกรณ์ตรวจจับมาใช้งานร่วมกับประกันเปิด-ปิดได้ พร้อมเตรียมขายอุปกรณ์เซ็นเซอร์ให้ผู้ใช้งานทั่วไปเพื่อใช้ติดตามรถยนต์

นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการขยายธุรกิจ IoTที่เป็นนวัตกรรมซึ่งเอไอเอส มีการวางโครงข่ายครอบคลุมทั่วประเทศและปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงที่ธุรกิจเริ่มนำไปใช้ โดยล่าสุดได้ร่วมกับทางประกันภัยไทยวิวัฒน์ในการนำ NB-IoT Motor Tracker for ในรูปแบบของ UBI (Usage Based Insurance) หรือในธุรกิจประกันภัยที่นำอุปกรณ์ NB-IoTเข้าไปติดตั้งให้ลูกค้าที่ใช้ประกันภัยรถยนต์ของไทยวิวัฒน์

เมื่อสตาร์ทรถยนต์ระบบจะทำการแจ้งเตือนไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเพื่อทำการเปิดความคุ้มครอง ตามรูปแบบในการให้บริการของประกันรถเติมเงินตามแนวคิดในการคุ้มครองเฉพาะเวลาที่ขับรถยนต์

นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลเสริมว่า ที่ผ่านมาทางไทยวิวัฒน์พยายามหาเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยตอบสนองให้ลูกค้าไม่ต้องกังวลในการเปิดปิดใช้งานประกันภัย

โดยก่อนหน้านี้มีการนำเทคโนโลยีอย่าง Beaconที่ใช้การส่งสัญญาณบลูทูธไปยังสมาร์ทโฟน เมื่อเปิดใช้งาน แต่พบว่าทำให้เกิดความยุ่งยากแก่ผู้ใช้ พอเห็นเทคโนโลยีอย่าง NB-IoTทำให้เห็นว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้

ทั้งนี้ ลูกค้าที่สมัครใช้งานประกันภัยรถเติมเงิน ในระยะเวลา 4เดือนขึ้นไป จะได้รับอุปกรณ์ NB-IoT Motor Tracker for UBIพร้อมอินเทอร์เน็ตเพื่อใช้งานตลอดระยะเวลาเอาประกัน ซึ่งจากข้อมูลแล้วการใช้ประกันภัยเติมเงินจะช่วยลดค่าใช้จ่ายประกันภัยได้ราว 40%

นอกจากนี้ เอไอเอส ยังได้นำเสนอ NB-IoT Motor Trackerเพื่อนำไปใช้ในการติดตามยานพาหนะด้วยเครือข่าย NB-IoT ผ่าน AIS Shop และAIS Online Store ในราคา 1,490 บาท เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย