เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) รายงานรายได้และข้อมูลสำคัญประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 ยิ้มแฉ่งมีรายได้เพิ่มขึ้น 26% คิดเป็นมูลค่า 4,900 ล้านเหรียญสหรัฐ บนรายได้จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 53% จากไตรมาสที่ 2 ของปีที่แล้ว น่าเสียดายที่ยอดผู้ใช้ในสหรัฐฯลดลงครั้งแรกในรอบ 10 ปี โยนบาปว่าเป็นผลจากจำนวนรายการที่ให้บริการน้อยกว่าแผนที่วางไว้
ในภาพรวม Netflix เผยว่าจำนวนการสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบัญชีเป็น 151 ล้านบัญชี (60% มาจากนอกสหรัฐอเมริกา) ถือว่าเพิ่มสูงขึ้น 24% จากปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ 5 ล้านบัญชี
เบื้องต้น Netflix ยืนยันว่าการคาดการณ์คาดเคลื่อนเกิดขึ้นในทั่วทุกภูมิภาค แต่จะมากเป็นพิเศษในภูมิภาคที่มีการขึ้นราคาค่าสมาชิก นอกจากนี้ Netflix ยืนยันว่าคู่แข่งทางการค้าไม่ใช่ปัจจัยสำคัญเนื่องจากในไตรมาสที่ 2 นี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากคู่แข่ง อีกทั้งการแข่งขันยังแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ในขณะที่การคาดการณ์คาดเคลื่อนนั้นเกิดขึ้นในทุกภูมิภาค
สำหรับคอนเทนต์ในไตรมาสที่ 2 Netflix พบว่าสามารถกระตุ้นการเติบโตของการสมัครสมาชิกน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ความสำเร็จในไตรมาสแรก (การสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้น 9.6 ล้านบัญชี) อาจส่งผลต่อการเติบโตของการสมัครสมาชิกมากกว่าที่ประเมินไว้เช่นกัน โดยในไตรมาสก่อนหน้า การคาดการณ์คาดเคลื่อนไม่ได้ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว และการยึดมั่นในหลักการพื้นฐานจะช่วยส่งผลดีต่อธุรกิจ
ในส่วนซีรีส์ดัง Stranger Things ซีซัน 3 พบว่ามีผู้ชมมากกว่า 40.7 ล้านบัญชีในเวลา 4 วันตั้งแต่การออกอากาศในวันที่ 4 กรกฎาคม และมีผู้ชมถึง 18.2 ล้านบัญชีที่ดูจบครบซีซันแล้ว ตัวเลขนี้ถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์
สำหรับคอนเทนต์ในช่วงครึ่งปีหลังที่น่าติดตาม ได้แก่ ซีซันใหม่ของ La Casa de Papel (Money Heist), The Crown ซีซันสุดท้ายของ Orange is the New Black และหนังฟอร์มยักษ์อย่าง The Irishman กำกับโดย Martin Scorsese รวมถึงหนัง แอคชั่นอย่าง 6 Underground (กำกับโดย Michael Bay และนำแสดงโดย Ryan Reynolds)
ในทวีปเอเชีย Netflix จะเปิดตัวคอนเทนต์ออริจินัลเกาหลีจำนวน 6 เรื่อง ซีรีส์ออริจินัลอินเดียจำนวน 5 เรื่อง และ 6 คอนเทนต์ภาษาจีนซึ่งจะออกอากาศก่อนการเปิดตัวซีรีส์ออริจินัลจีนจำนวน 3 เรื่อง
นอกจากนี้ การผลิตซีรีส์ออริจนัลยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เช่น Murder Mystery นำแสดงโดย อดัม แซนด์เลอร์และเจนนิเฟอร์ อนิสตัน มีผู้ชมถึง 73 ล้านบัญชีภายใน 4 สัปดาห์แรกเมื่อออกอากาศ เช่นเดียวกับซีรีส์วัยรุ่นโรแมนติกอย่าง The Perfect Date ก็โด่งดังไปทั่วโลกด้วยยอดการชมกว่า 48 ล้านบัญชีใน 4 สัปดาห์แรกของการออกอากาศ Always Be My Maybe ที่ได้ แอลลี หว่องและแรนดัล พาร์ค มาร่วมแสดงก็ได้รับการรับชมถึง 32 ล้านบัญชีภายใน 4 สัปดาห์แรกของการออกอากาศ
ขณะเดียวกัน คอนเทนต์นานาชาติก็ยังคงถูกผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง ซีรีส์สัญชาติเดนมาร์กอย่าง The Rain ซีซัน 2 คือซีรีส์ออริจินัลที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่ได้กลับมาออกอากาศต่อทางเน็ตฟลิกซ์ ส่วนซีรีส์เรื่องใหม่จากสวีเดนอย่าง Quicksand ก็มีผู้ชมจำนวนมากทั้งในระดับท้องถิ่นและในระดับโลก
"ภายใน 12 เดือน Disney, Apple และผู้ประกอบการรายอื่นๆ จะเข้ามาร่วมธุรกิจสตรีมมิ่งเช่นเดียวกับเรา ถือเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค นวัตกรรมการบริการสตรีมมิ่งทำให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการดูโทรทัศน์แบบเดิมมาเป็นการใช้บริการสตรีมมิ่ง ในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดที่พัฒนาที่สุด ณ ขนาดนี้ สัดส่วนในการรับชมบริการของเรา เมื่อเทียบกับเวลาในการชมทีวีทั้งหมดจากผู้บริโภค เท่ากับ 10% เอง และยิ่งน้อยกว่านั้น เมื่อเทียบกับเวลาทั้งหมดที่พวกเขาใช้บนมือถือ นั่นหมายความว่าเน็ตฟลิกซ์ยังคงมีพื้นที่ในการเติบโตทางธุรกิจอีกมาก" Netflix กล่าวทิ้งท้ายในแถลงการณ์.