แอปเปิล (Apple) บรรลุข้อตกลงซื้อแผนกโมเด็มสมาร์ทโฟนของอินเทล (Intel) แล้วในราคา 1 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 30,900 ล้านบาท ทั้งสองบริษัทประกาศปรับโครงสร้างโดย Apple จะรับพนักงาน 2,200 คนของ Intel เข้ามาอยู่ในชายคาพร้อมกับทรัพย์สินทางปัญญาและอุปกรณ์บางส่วน ด้านแอปเปิลยืนยัน พนักงานและทรัพย์สินทางปัญญาที่ Apple ซื้อมาจะช่วยผลิตภัณฑ์แบรนด์ Apple แน่นอนในอนาคต
การประกาศซื้อขายกิจการนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่ Intel ประกาศผลประกอบการ โดยหลังการประกาศข้อตกลงว่า Apple จะซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของแผนกสมาร์ทโฟนของ Intel หุ้นของยักษ์ใหญ่บริษัทชิปก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 6% ขณะที่หุ้นของ Apple ยังค่อนข้างคงที่ไม่บวกหรือลบ
ตามแถลงการณ์ พนักงานทั้ง 2,200 คนของ Intel จะถูกโอนเข้ากับบริษัท Apple ซึ่งเม็ดเงินที่ Apple เหมาจ่าย 1 พันล้านเหรียญสหรัฐจะถือเป็นค่าซื้อตัวพนักงาน รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญาและอุปกรณ์อื่นจาก Intel โดยดีลนี้คาดว่าจะปิดได้สมบูรณ์ในไตรมาสที่ 4 ปี 2019
ขายธุรกิจโมเด็ม 5G ให้ Apple
บ็อบ สแวน (Bob Swan) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CEO ของ Intel ระบุว่าสิ่งที่ Apple จะได้รับจากดีลครั้งนี้คือธุรกิจโมเด็มสมาร์ทโฟน 5G โดยย้ำว่าข้อตกลงนี้ช่วยให้ Intel สามารถทำกำไรจากโอกาสบนเครือข่าย 5G ได้มากขึ้นจากสิทธิบัตรเทคโนโลยีที่บริษัทได้พัฒนาไว้ สำหรับกรณีของ Apple การซื้อโมเด็มของ Intel สำหรับใช้ใน iPhone จะช่วยให้อินเทลเชื่อมต่อกับเครือข่ายของผู้ให้บริการเช่นเวอไรซอน (Verizon) และเอทีแอนด์ที (AT&T) ได้ดีกว่าเดิม
คำแถลงนี้ถือว่าต่างจากข้อมูลเดือนเมษายน ซึ่ง Intel ประกาศว่ามีแผนจะลาตลาดโมเด็มสมาร์ทโฟน เนื่องจาก Intel “ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจนในการทำกำไรและผลตอบแทนที่เป็นบวก”
ที่ผ่านมา Apple ถือเป็นลูกค้ารายเดียวที่สั่งซื้อโมเด็มจาก Intel จุดที่น่าสนใจคือรายละเอียดของข้อตกลงระบุว่า Intel จะสามารถพัฒนาโมเด็มสำหรับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนได้ต่อไป ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ Intel จะยังมุ่งหน้าพัฒนาชิปสำหรับพีซี อุปกรณ์ออนไลน์อื่น รวมถึงยานพาหนะขับเคลื่อนตัวเองอัตโนมัติ
หุ้น Qualcomm หล่นฮวบ
การซื้อธุรกิจชิป 5G ของ Apple แปลว่า Apple จะซื้อชิปโมเด็มจาก Qualcomm ในระยะสั้นเท่านั้น โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Apple เพิ่งตกลงจ่ายค่าเสียหายเพื่อจบคดีความกับ Qualcomm พร้อมกับยอมทำสัญญาสั่งซื้อชิปต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี โดยบอกว่า Qualcomm จะเป็นผู้ผลิตชิปสำหรับ iPhone หลายรุ่นในอนาคต ซึ่งจะรวมถึง iPhone รุ่น 5G ด้วย
ผลคือ Qualcomm กำลังอยู่ในภาวะมูลค่าหุ้นลดลง 1% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนยังเชื่อว่า Apple ยังต้องซื้อชิปเซ็ต 5G ต่อไปเพราะการจะพัฒนาได้เองยังต้องใช้เวลาหลายปี อย่างไรก็ตาม การเทเงินพันล้านซื้อกิจการชิปก็สะท้อนว่า Apple ทราบดีถึงความจำเป็นในการเป็นเจ้าของสิทธิบัตรเทคโนโลยีชิปด้วยตัวเองเพื่อการขยายไปสู่อุปกรณ์กลุ่มอื่น โดยขณะนี้ Apple เป็นเจ้าของสิทธิบัตรเทคโนโลยีไร้สายมากกว่า 17,000 รายการทันทีที่มีการซื้อกิจการกับ Intel
