xs
xsm
sm
md
lg

อิริคสันพบคนไทยส่วนใหญ่ยินดีจ่ายเงินเพิ่ม 30% เพื่อใช้ 5G

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

วุฒิชัย วุติอุดมเลิศ รองประธานและหัวหน้าฝ่ายเน็ตเวิร์กโซลูชัน บริษัท อิริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด

อิริคสันพบคนไทยส่วนใหญ่ยินดีจ่ายเงินเพิ่ม 30% เพื่อใช้ 5G เผยครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคไทยจะย้ายค่ายไปหาโอเปอเรเตอร์ที่มี 5G ภายใน 6 เดือนหากโอเปอเรเตอร์เดิมไม่มี 5G คาดปริมาณการใช้ข้อมูลเฉลี่ยในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น 10 เท่า เป็น 70 กิกะไบต์ต่อเดือนบนอุปกรณ์ที่รองรับ 5G โดยผู้ใช้สมาร์ทโฟนจริงจังจะใช้ข้อมูลบนเครือข่าย 5G เกิน 130 กิกะไบต์ต่อเดือนภายในปี 2025 ด้านฐานผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลกทะลุ 100% แล้วเมื่อเทียบกับประชากรรวมทุกประเทศ


วุฒิชัย วุติอุดมเลิศ รองประธานและหัวหน้าฝ่ายเน็ตเวิร์กโซลูชัน บริษัท อิริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศข้อมูลจากรายงานอิริกสัน โมบิลิตี้ ฉบับล่าสุดเดือนมิถุนายน 2019 พบว่าจนถึงไตรมาส 1 ปี 2019 โลกมีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 7,900 ล้านรายแล้ว ตัวเลขนี้นับจากซิมการ์ด ซึ่งรวมอุปกรณ์ IoT ด้วย คิดเป็นเกิน 100% ของฐานประชากรโลกที่มีราว 7,600 ล้านคน อัตราการเติบโตผู้ใช้รายใหม่ในเอเชียแปซิฟิกคือ 12 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วนเกิน 20% จากทั้งหมด 44 ล้านรายที่เป็นผู้ใช้รายใหม่ทั่วโลก โดยตลาดหลักที่เพิ่มในเอเชียมาจากฟิลิปปินส์


อย่างไรก็ตาม อินเดียกลายเป็นตลาดที่มีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ติดลบ เพราะโอเปอเรเตอร์ในประเทศหยุดการแจกซิมฟรี และหยุดให้บริการดาต้าไม่อั้น ทำให้อัตราการเติบโตผู้ใช้รายใหม่ในอินเดียลดลง


จาก 4G สู่ 5G


การสำรวจพบว่าสัดส่วนบริการ 4G ครองพื้นที่ 47% ของจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดทั่วโลก แต่สัดส่วนนี้กำลังจะเปลี่ยนไปเพราะโอเปอเรเตอร์ที่ประกาศการให้บริการ 5G รายใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จุดนี้จะเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ผู้ใช้ 5G เพิ่มขึ้น หลักใหญ่ที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือโครงข่าย 4G จะถูกเปลี่ยนไปเป็น 5G ทั้ง 4 ทวีป ปัจจุบัน อิริคสันมีสัญญา 24 ฉบับกับโอเปอเรเตอร์ทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนี้ 14 รายให้บริการ 5G แล้ว


“เมื่อเมษายนที่ผ่านมา มีการเปิดให้บริการ 5G แล้วในเกาหลี ตัวเลขที่น่าสนใจคือ หลังเปิดให้บริการช่วงต้นเดือน พบว่าจำนวนผู้ใช้ 5G แตะ 1 ล้านรายในเวลา 69 วัน แปลว่าผู้ใช้ตื่นตัวมากเมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีที่แล้วที่เปิด 4G ต้องใช้เวลา 80 วันกว่าจะทำยอดผู้ใช้เกิน 1 ล้านราย”


จากการคาดการณ์ พบว่า 5G จะสามารถครองตลาดได้เร็วมาก ภายใน 5 ปีข้างหน้า จำนวนผู้ใช้ 5G ทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 1,900 ล้านราย คิดเป็น 20% ของจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่รวมในปี 2024 โดยระบบ 2G หรือ GSM จะเริ่มถอยห่างออกจากตลาดไป
ร้อยโท ดร. เจษฎา ศิวรักษ์ หัวหน้างานฝ่ายรัฐกิจและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท อิริกสัน (ประเทศไทย) จำกัด

หากเทียบจำนวนการเติบโตของผู้ใช้ 5G ในช่วง 6 ปีแรก 1.9 พันล้านราย การสำรวจพบว่าจะเหนือกว่า 4G ที่มีผู้ใช้น้อยกว่า คาดว่าปี 2024 จะเป็นปีที่ผู้ใช้ 5G เพิ่มเป็น 45% ของประชากรโลก จาก 4G ที่มีผู้ใช้ 30% เท่านั้น เหตุผลเพราะในยุค 4G โอเปอเรเตอร์ต้องเปลี่ยนเทคโนโลยีโครงข่ายใหม่ทั้งหมด แต่ 5G ต่างไปเพราะยังใช้แกนเทคโนโลยีเดิม บนความถี่และอุปกรณ์ที่ต่างกัน ทำให้เทคโนโลยีการแชร์สเปกตรัมผ่านซอฟต์แวร์อัปเดท จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด 5G ได้เร็วขึ้น


“ที่ผ่านมา อิริกสันมีการอัปเดทซอฟต์แวร์โครงข่ายให้เปิดบริการ 5G แล้วกว่า 3 ล้านยูนิตทั่วโลก” แม้จะไม่สามารถเปิดเผยว่า 3 ล้านหน่วยนี้คิดเป็นสัดส่วนเท่าใดจากเครือข่ายรวมของอิริกสัน แต่ผู้บริหารย้ำว่ามีการอัปเดทในประเทศไทยแล้วที่ดีแทคและทรู


ประเดิมหน่วย Exabyte


จากที่นับเป็นกิกะไบต์ เทราไบต์ ล่าสุดหน่วยนับปริมาณข้อมูลในรายงานของอิริกสันคือ “เอกซาไบต์” ซึ่งมีค่าเท่ากับ 1 พันล้านกิกะไบต์ (เพิ่มศูนย์อีก 9 ตัว) หมายความว่าจำนวนดาต้าที่มีการใช้งานจะเติบโตปีละ 80% คาดว่าปี 2024 ชาวโลกจะใช้งานข้อมูลมากกว่า 131EB จากปัจจุบันที่ต่ำกว่า 40EB


“หากเฉลี่ยประชากรโลก 7.66 พันล้านราย ที่จะเพิ่มเป็น 8 พันล้านในปี 2024 คาดว่าข้อมูล 131EB จะเท่ากับประชากรโลกทุกคนแบบรวมลูกเล็กเด็กแดงจะดูวิดีโอความละเอียดสูงราว 11 ชั่วโมงต่อวัน”


ปัจจุบัน การสำรวจพบว่าการบริโภคข้อมูลเกิดจากการใช้แอปพลิเคชันแตกต่างกัน ส่วนใหญ่เป็นวิดีโอ (60%) ซึ่งคาดว่าต่อไปจะเพิ่มอีก (เป็น 74%) ในปี 2024 คาดว่าแอปพลิเคชันกลุ่มโซเชียลจะยังมีปริมาณการใช้งานคงที่ไม่ลดหรือเพิ่ม แต่อาจจะมีแอปพลิเคชันใหม่ขึ้นมาเพิ่มเช่น แอปรับส่งลิงก์เพื่อให้ชมวิดีโอบนคลาวด์ คาดว่าจะทำให้การชมแตกต่างไปจากปัจจุบัน ส่วนที่ลดลงคือการเรียกดูเว็บไซต์ผ่านเบราว์เซอร์ เพราะผู้ใช้จะไปออนไลน์บนแอปพลิเคชันแทน


คนไทยพร้อมย้ายค่าย


รายงานรอบล่าสุดของอิริกสันมีการทำผลสำรวจระดับโลกในประเทศไทยด้วย โดยไทยเป็น 1 ใน 22 ประเทศที่ถูกสุ่มกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้สมาร์ทโฟน 35,000 ราย ตั้งแต่อายุ 15 ถึง 69 ปี ประเทศอาเซียนที่ถูกดึงเข้ามาในการสำรวจคืออินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย โดยกลุ่มตัวอย่างไทย 1,500 คนถูกประเมินว่าจะสะท้อนความจริงของมุมมองผู้ใช้ได้มากกว่า 19 ล้านคน ปรากฏว่าเกิน 50% ของกลุ่มเป้าหมายระบุว่าพร้อมย้ายค่ายไปหาโอเปอเรเตอร์ที่มีบริการ 5G


การสำรวจพบว่าความคิดของคนไทยและผู้บริโภคในแต่ละประเทศค่อนข้างแตกต่างกัน ประเด็นนี้น่าแปลกใจเพราะชาวเยอรมนีบอกว่าไม่ต้องรีบ และคิดว่าอีก 2 ปีกว่า 5G จะเกิด ระยะเวลานี้ตรงกับคนไทยที่เชื่อว่า 5G จะมาใน 2 ปี ขณะที่ชาวตะวันออกกลางและจีนคิดว่า 5G กำลังจะใกล้มาแล้ว โดยเฉลี่ยรวมพบว่า 7 ใน 10 คนตื่นเต้นและรอการมของ 5G


“พฤติกรรมผู้บริโภคไทยที่จะเกิดในยุค 5G คือการย้ายค่าย ซึ่งแปลว่าโครงสร้างเป็นส่วนสำคัญ เพราะสะท้อนความพร้อมของโครงข่ายและความคาดหวังของผู้บริโภค การสำรวจพบว่าคนไทยหวังว่าจะใช้ 5G ในพื้นที่กลางเมือง ตามแนวขนส่งสาธารณะ ย่านช็อปปิ้ง พื้นที่สำนักงาน และสนามกีฬาหรือสถานที่จัดคอนเสิร์ต”


ผู้บริหารอิริกสันชี้ว่าเหตุที่กว่า 60% ของคนไทยหวังให้เกิด 5G ในพื้นที่ “hot zone” เพราะอาจนำไปเปรียบเทียบกับ Wi-Fi ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่คนไทยมองว่าควรให้บริการ 5G ก่อน


นอกจาก hot zone ยังมีส่วนของฟิกซ์บรอดแบนด์ ซึ่งรวมบริการ FTTX ที่พบว่าคนไทย 52% ยังไม่พอใจบริการบรอดแบนด์เมืองไทย โดยบอกว่าปัญหาส่วนใหญ่คือเรื่องความเสถียร (40%)​ ราคาที่แพงเกินไป (32%) และความอยากใช้บริการกับค่ายเดียวกับโอเปอเรเตอร์มือถือ (29%) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 95% อยากเปลี่ยนค่ายบรอดแบนด์ไปใช้บริการเน็ตไร้สาย 5G สำหรับบ้าน ประเด็นนี้แปลว่าคนไทยไม่ได้เชื่อว่า “อินเทอร์เน็ตมีสาย” จะดีกว่าแบบไร้สายอีกต่อไปแล้ว


ยอมจ่ายเพิ่ม 175 บาทต่อเดือน


การสำรวจพบว่าวันนี้ผู้บริโภคพร้อมไป 5G แบบไม่ต้องรอ โดยส่วนใหญ่หวังเห็น 5G เข้ามามีส่วนร่วมกับหลายอุตสาหกรรม เช่น บริการบรอดแบนด์บ้าน eMBB ที่เป็น 5G รองลงมาคือสมาร์ทโฮม, อุตสาหกรรมรถยนต์, ความบันเทิง และเกมวีอาร์ ทั้งหมดนี้ผู้บริหารอิริกสันย้ำว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่คิดว่าผู้บริโภคไทยไม่อยากจ่ายเงินเพิ่มเพื่อรับบริการ 5G เพราะการสำรวจพบว่าคนไทยยอมจ่ายเงินเพิ่ม 30% โดยส่วนใหญ่ยอมจ่ายเพิ่ม 150 บาทต่อเดือน ขณะที่คนที่อยากใช้ 5G ก่อน จะยอมเสียค่าบริการเพิ่ม 175 บาทต่อเดือน


การสำรวจที่ระบุว่าผู้บริโภคไทยยอมจ่ายนั้นสอดคล้องกับในเกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกาที่ประเดิม 5G ไปก่อนใคร พบว่าผู้ใช้ในประเทศกลุ่มนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 15-30%


การสำรวจยังพบว่าแม้จะยังใช้สมาร์ทโฟน แต่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 76% ระบุว่าจะเลือกสวมแว่น AR ในปี 2024 สะท้อนว่าผู้บริโภคจะปรับใช้เทคโนโลยีได้เร็วกว่าผลการพยากรณ์จากข้อมูลปัจจุบัน โดย 88% ของคนไทยคิดว่า 5G จะมีผลโดยตรงกับเรื่องวิดีโอ และจะใช้เทคโนโลยี 3D Hologram ในการทำวิดีโอคอลล์ทุกสัปดาห์ ซึ่ง 13% จะใช้ 3D Hologram แทนวิดีโอคอลล์ปกติไปเลย


จากปี 2018 ที่ข้อมูลระบุว่าคนไทยดูวิดีโอเฉลี่ย 9 ชั่วโมง เชื่อว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 3 ชั่วโมงในปี 2022-2025 คาดว่า 1 ชั่วโมงในนี้จะเป็นวิดีโอ VR หรือ AR แนวโน้มนี้ทำให้การบริโภคข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนไทยจะเพิ่ม 10 เท่าจาก 7 เป็น 70 กิกะไบต์ต่อเดือน ซึ่งคนไทยที่ใช้ข้อมูลจริงจังจะมีการใช้งานเฉลี่ย 130GB ต่อเดือนในยุค 5G
“จากที่คาดการณ์ว่า 5G จะเกิดในอีก 2 ปีข้างหน้า เราได้เห็นว่า 5G มาเร็วกว่าที่เราคิด แต่หากดูจากประวัติศาสตร์ในอดีต จะพบว่าการเปลี่ยนผ่านจาก 2G ไป 3G และ 4G นั้นมีรูปแบบที่ไม่ต่างกันมาก นั่นคือการใช้เวลาเฉลี่ย 10 ปี แต่ที่ต่างกันคือการเข้าถึง 5G ที่จะเร็วขึ้นกว่ายุค 2G, 3G หรือ 4G ในอดีต เชื่อว่าถ้าเทคโนโลยีมา ผู้บริโภคก็พร้อมจ่าย”


สำหรับประเทศไทย ร้อยโท ดร. เจษฎา ศิวรักษ์ หัวหน้างานฝ่ายรัฐกิจและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท อิริกสัน (ประเทศไทย) จำกัด เชื่อว่าอุตสาหกรรมไทยที่จะตื่นตัว 5G มากที่สุด คือภาคการผลิต สาธารณูโภค และระบบรักษาความปลอดภัยสาธารณะ ซึ่งใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ เนื่องจาก 5G สามารถตอบโจทย์และเสริมแกร่งให้อุตสาหกรรมเหล่านี้ได้ชัดเจน เห็นได้ชัดจากประเทศเยอรมนี ที่ผู้ประกอบการโรงงานรวมตัวขอโลคอลไลเซนส์ 5G เพราะไม่ต้องการรอจนโอเปอเรเตอร์ขยายโครงข่ายมาครอบคลุมพื้นที่โรงงาน


ในมุมผู้บริโภค ผู้บริหารยอมรับว่าเป็นไปได้ยากที่จะประเมินว่า 5G ไทยจะปักธงที่บริการใดก่อน โดยระบุว่าแต่ละประเทศมีขอบเขตการให้บริการ 5G ที่หลากหลายมาก เช่นในสหรัฐอเมริกาที่เริ่มด้วยบริการ fixed wireless access เพราะต้องการแก้ปัญหาขาดแคลนอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกล ยังมีเกาหลีใต้ที่เริ่มด้วยตลาด eMBB ที่เน้นทำให้เกิดบริการ 5G ก่อน เพื่อให้ผู้บริโภคเดินตามมา


“สำหรับไทย พยากรณ์อย่างไรก็ไม่ถูก ก่อนนี้คิดว่าสมาร์ทโฟน 5G จะไม่แพร่หลาย แต่ตอนนี้เริ่มออกมาแล้ว กลายเป็นเซกเมนต์ใหม่ซึ่งเป็นไปได้หมดทุกอย่าง แม้แต่ hot zone หากโอเปอเรเตอร์มี high band ก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องอยู่ที่สมาร์ทโฟนด้วย ถ้าสมาร์ทโฟนไม่มา ยูสเคสก็ไม่เกิด”.


กำลังโหลดความคิดเห็น