เอไอเอส ตั้งหน่วย NEXT ปลุกพนักงานสร้างนวัตกรรมปั้นรายได้ เปิดนวัตกรรมแรก School Van Clever จากผลงานพนักงานเอไอเอสภาคใต้ ติดตั้งกล้องบนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน สอดส่องลูกหลาน พร้อมรุกตลาดร.ร.ภาคใต้ พ.ย.นี้ ก่อนจะขยายสู่รถตู้รับจ้างในพื้นที่อื่นต่อไป ลุ้นอีก 10 นวัตกรรมกำลังจะออกตลาดเร็วๆนี้
นายอราคิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายงานขับเคลื่อนนวัตกรรม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้จัดตั้งหน่วยงานพัฒนา อินโนเวชั่นภายในองค์กรขึ้น ซึ่งปัจจุบันคือ Novel Engine Execution Team (NEXT) โดยการรวบรวมพนักงานด้านนวัตกรรม,ไอที ที่กระจายอยู่ในแต่ละแผนกเข้าด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานอยู่ในทีมเกือบ 200 คนแล้ว เพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางที่จะกระตุ้นให้เกิดการนำแนวคิด อินโนเวชั่น เกิดการคิดค้นไอเดียใหม่ๆ ผ่านหลากหลายโครงการ เช่น InnoJump เพื่อให้พนักงานทุกระดับชั้น มีช่องทางในการสร้างสรรค์ไอเดีย สร้างบรรยากาศ Innovation Culture อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการจัดทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เวิร์กช้อป โดยผู้เชี่ยวชาญจากบุคลากรภายในและภายนอก อาทิ กิจกรรม Tech Tasteเป็นต้น
นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็น Internal VC และ Incubator จากไอเดียพนักงานในองค์กรที่นำเสนอและเข้าสู่กระบวนการ Pitching ที่เมื่อผ่านการพิจารณาบริษัทก็มีงบประมาณสนับสนุนให้สร้างเป็น Prototype ประมาณ 600,000 บาท เพื่อต่อยอดเป็น Beta Product และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เวอร์ชั่นจริง (Production) จากนั้น เอไอเอสก็จะสนับสนุนเงินในการทำการตลาดต่อไปด้วย
นายอราคิน กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีพนักงานส่งผลงานเข้าร่วมพิจารณากว่า 200 ไอเดีย โดยมีโครงการที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับทุนไปขยายผลต่อ จำนวน 11 โครงการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโครงการ School Van Clever ที่มองเห็น Pain Point ในวิถีชีวิตของครอบครัวในปัจจุบัน จากการที่บุตรหลานต้องเดินทางไปโรงเรียนด้วยรถตู้รับ-ส่งทุกวัน จึงต้องการสร้างเครื่องมือสำหรับสอดส่องดูแลความปลอดภัยของบุตรหลานขณะกำลังเดินทางไปโรงเรียน
โดยทีม School Van Clever เป็นการรวมตัวกันของพนักงานเอไอเอสจากภาคใต้ ในการร่วมกันต่อยอดแนวคิดเรื่องรถตู้รับ-ส่งนักเรียน มาเป็นนวัตกรรมที่ผู้ปกครองสามารถสอดส่องดูแลบุตรหลานได้อย่างเรียลไทม์ ผ่านเทคโนโลยีกล้องมองภาพในรถยนต์ พร้อมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์ต่างๆ รวมทั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว โดยทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันที่ช่วยควบคุมการรับ-ส่ง นักเรียนอย่างเป็นระบบจากการทดลองนำไปใช้ในโรงเรียน พบว่าได้รับการยอมรับจากทั้งครู ผู้ปกครอง เด็ก และคนขับรถตู้โดยสาร ว่าเป็นนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจ ความปลอดภัย และช่วยป้องกันการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยครั้ง รวมถึงยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับ-ส่งนักเรียนได้อีกด้วย
ทั้งนี้ นวัตกรรมของ School Van Clever คาดว่าจะออกสู่ตลาดภายในเดือน พ.ย.นี้ โดยตั้งเป้ารุกตลาดโรงเรียนในภาคใต้เฟสแรก 250 คัน จากนั้นเฟสที่สองจะขยาย 400 คัน และจะต่อยอดรุกตลาดรถตู้รับจ้างซึ่งเจ้าของรถตู้ก็มีความต้องการในการสอดส่องพฤติกรรมคนขับรถตู้ด้วย ซึ่งในอนาคต ทีม School Van Clever จะถูกแยกตัวออกมาเป็นเหมือนบริษัทย่อย หรือ Internal Startup และตั้งเป้าที่จะเติบโตเป็น New Business ของเอไอเอสในอนาคต