xs
xsm
sm
md
lg

Nokia คลอด 5 รุ่นใหม่ขายไทยเฉพาะออนไลน์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

จูโฮ ซาร์วีกาส
เอชเอ็มดี โกลบอล (hmd) ต้นสังกัดผู้พัฒนาและจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์โนเกีย (Nokia) เปิดตัวสมาร์ทโฟน 5 รุ่นใหม่โหมโรงตลาดไทยคึกคักครึ่งปีหลัง พระเอกเด่นที่สุดใน 5 ขุนพลใหม่คือสมาร์ทโฟนกล้องหลัง 5 ตัว ”Nokia 9 Pureview” ซึ่งวางจำหน่ายที่ไทยก่อนประเทศอื่นในภูมิภาค ปูพรมทุกรุ่นจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์ผ่านพันธมิตรรายหลักเจ้าเดียวคือ Shopee ตามเทรนด์โลกที่ Nokia สามารถดันยอดขายทางออนไลน์ได้มากกว่า มั่นใจ 3 ปีสามารถขึ้น Top 5 แบรนด์ที่มียอดขายในไทยมากที่สุด บนสถิติโลกที่ฐานผู้ใช้ Nokia พุ่งสูง 300% ในปีที่ผ่านมา

จูโฮ ซาร์วีกาส (๋Juho Sarvikas) ผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ เอชเอ็มดี โกลบอล กล่าวว่าแม้สถิติปี 2018 จะชี้ว่ายอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนทั่วโลกอยู่ในภาวะซบเซา แต่ยอดผู้ใช้ Nokia กลับเติบโตขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า การเติบโตอย่างแข็งแกร่งทำให้ Nokia เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่อยู่ในกลุ่ม 5 อันดับแรกหรือ Top 5 ที่สามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้มากที่สุดในตลาดยุโรป ตะวันออกกลาง อเมริกาเหนือ รัสเซีย และแอฟริกา ทำให้ปี 2019 บริษัทหวังจะทุ่มเทเต็มที่เพื่อขยายฐานผู้ใช้ที่มีเกิน 10 ล้านคนทั่วโลกแล้วในขณะนี้

“การสำรวจพบว่ามากกว่า 90% ของผู้ใช้ไทย พึงพอใจโทรศัพท์มือถือ Nokia ขณะเดียวกันแบรนด์ Nokia ก็เป็นที่รู้จัก เราจึงพร้อมเอามือถือรุ่นใหม่มาเปิดตัวในไทย ไม่เฉพาะรุ่นท็อป แต่เราจะเน้นเปิดตัวให้ครบทุกช่วงราคา เพราะไทยเป็นตลาดที่ Nokia ให้ความสำคัญ”

จูโฮย้ำว่าไทยเป็นประเทศที่มีทิศทางการขายเหมือนกับต่างประเทศ ซึ่ง Nokia สามารถทำยอดขายออนไลน์ได้แรงกว่าออฟไลน์ เช่นในอินเดีย และยุโรปบางประเทศ จุดนี้ทำให้ Nokia เริ่มจำหน่ายสินค้ารุ่นใหม่เฉพาะบนช่องทางออนไลน์ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเจรจาเพื่อขยายการจำหน่ายไปยังออฟไลน์ด้วย

5 รุ่นใหม่ขายเฉพาะ Shopee

สำหรับสมาร์ท 5 รุ่นใหม่ที่ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยเมื่อ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 2 รุ่นใหม่แกะกล่อง Nokia 9 PureView สมาร์ทโฟนกล้องหลัง 5 ตัวเครื่องแรกของโลก เปิดราคา 18,900.- (จากปกติ 21,900.-) ตามมาด้วย Nokia 2.2 สมาร์ทโฟนกล้อง AI ถ่ายภาพแสงน้อยได้ดีมีเลือกได้ทั้งรุ่น 2/16 ราคา 2,990.- และ รุ่น 3/32 ราคา 3,590 บาท

ยังมี 3 รุ่นใหญ่จุใจยิ่งขึ้นอย่าง Nokia 3.2 รุ่น 3/32 ราคา 4,790.- และ Nokia 4.2 รุ่น 3/32 ราคา 5,290.- รวมถึง Nokia 8.1 รุ่น 6/128 ราคา 11,490.- ทั้งหมดนี้วางจำหน่ายช่องทางออนไลน์เท่านั้นที่ Nokia Official Shop และ Shopee
ธนเดช ช่วงแก้ววิเศษ
ลุ้นว่าขาดตลาดไหม?

Nokia 9 Pureview เป็นอีกรุ่นที่ถูกจับตาว่าจะขาดตลาดหรือไม่ ก่อนหน้านี้ Nokia 8.1 อยู่ในภาวะสินค้าขาดตลาดตั้งแต่ช่วงแรกที่เริ่มวางจำหน่าย รวมถึงช่วงที่ 2 ที่เปิดจำหน่ายเพิ่มแบบเป็นล็อตจำนวนจำกัดบนออนไลน์ สำหรับ Nokia 9 Pureview แม้จะเป็นรุ่นหลักที่มีจุดยืนวางจำหน่ายทั่วโลก แต่ก็มีความพิเศษเพราะไม่ได้วางจำหน่ายในทุกตลาด โดยไทยได้สิทธิ์จำหน่าย Nokia 9 Pureview ก่อนใคร ท่ามกลางตลาดหลักของโนเกียในอาเซียนคืออินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย ซึ่งหากฟีดแบคดี บริษัทก็อาจขยายตลาดออกไป

จุดเด่น Nokia 9 Pureview อยู่ที่การเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่จัดเต็มกล้องหลัง 5 ตัว ทั้งหมดร่วมกันเก็บความละเอียดภาพโดยที่กล้อง 2 ตัวเป็นเซ็นเซอร์สีอาร์จีบี ขณะที่อีก 3 ตัวเป็นเซ็นเซอร์ภาพขาวดำหรือโมโนโครม ทำให้เก็บแสงได้มากกว่าปกติ 5 เท่า กล้องจะนำภาพมารวมกันทำให้ได้ไฟล์ขนาดใหญ่ สูงสุด 12 พิกเซล เมื่อ 5 กล้องทำงานแยกกันจะทำให้ระบบประมวลภาพหน้าชัดหลังเบลอได้สมจริงมากกว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาพที่ได้จะมีความละเอียดสูงสุด 1,200 เลเยอร์ จากปกติที่ทำได้ 10 เลเยอร์เท่านั้น ประเด็นนี้จะตอบโจทย์ตากล้องนิยมภาพขาวดำ เพราะสามารถให้แสงมากขึ้น 2.9 เท่า ทำให้ได้ภาพขาวดำที่ดีกว่าภาพสีซึ่งถูกปรับเป็นขาวดำ

นอกจาก Nokia 9 Pureview ยังมีรุ่น Nokia 2.2 รุ่นเล็กที่ Nokia โชว์จุดขายนานเป็นพิเศษในอีเวนท์ล่าสุด แม้จะมีราคาไม่ถึง 3,000 บาท แต่ก็จัดเต็มทั้งระบบภาพ HDR และระบบ AI เพื่อการถ่ายภาพที่สมบูรณ์กว่าเดิม สามารถถ่ายภาพแสงน้อยได้ดีเพราะระบบ AI ที่ทำให้ภาพถ่ายกลางวันก็ไม่มีแสงจ้าเกินไป สามารถปรับหน้าใสได้ รองรับ Google Lens ครบในกล้อง มีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้าที่ตรวจจับได้ว่าเป็นรูปภาพหรือคนตัวจริง ที่สำคัญคือระบบปฏิบัติการจะอัปเดทใหม่ได้อย่างน้อย 2 ครั้งหลังซื้อไปใช้งาน และการมีปุ่มผู้ช่วยที่ทำให้การเสิร์ชด้วยเสียงทำได้ง่ายขึ้น

เป้าหมายของการเปิดสมาร์ทโฟน 5 รุ่นใหม่ในไทย ธนเดชระบุว่าคาดหวังในทุกเซกเมนต์ เนื่องจากสินค้าที่เปิดตัวครอบคลุมครบ ทั้งฟีเจอร์เพื่อการถ่ายภาพและ AI ตอบโจทย์ในส่วนนวัตกรรมทั้งกล้อง ซึ่งหากไม่มีงบก็สามารถจับจองรุ่นรองลงมาได้อีก ทั้งหมดนี้ทำให้เป้าหมายเพิ่มยอดขายจนขึ้น Top 5 ของไทยนั้นสามารถทำได้ภายใน 2-3 ปี.




กำลังโหลดความคิดเห็น