xs
xsm
sm
md
lg

อีเบย์โชว์ "เม็ดพลอยไทย" ขายดีติด Top 5

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"เม็ดพลอย" ขึ้นแท่นสินค้าไทยขายดีที่สุด 5 อันดับแรกของอีเบย์ (eBay) ส่งให้ไทยเป็น 1 ใน 3 ตลาดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สร้างเงินได้มากที่สุดบนแพลตฟอร์ม ผู้บริหารยืนยันจัดเต็มกลยุทธ์ดันผู้ขายไทยต่อเนื่องหลังเริ่มมาแล้ว 2 ปีจนผู้ขายไทยได้รับอบรมแล้วกว่า 200 ราย มั่นใจเป็นจิ๊กซอว์เสริมแกร่งให้ธุรกิจ "การค้าปลีกส่งออกข้ามประเทศ" หรือ Cross Border Trade ของอีเบย์แข็งแกร่งขึ้น ในวันที่ตลาด CBT ส่อแววมีมูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปีหน้า

นางเจนนี หุย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเบย์ ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน กล่าวว่าการค้าปลีกส่งออกข้ามประเทศ (Cross Border Trade: CBT) เป็นหนึ่งใน 4 กลยุทธ์หลักที่อีเบย์ยุคใหม่ให้ความสำคัญ ส่วนหนึ่งเนื่องจากอีเบย์มีรายได้จากต่างประเทศสูง 60% จึงเชื่อว่าจะเป็นส่วนช่วยให้ธุรกิจของอีเบย์เติบโต นอกเหนือจากธุรกิจ B2C, C2C และโมบายล์

"วันนี้อีเบย์สร้างอีโคซิสเต็มส์เพื่อหนุนให้ CBT เติบโตอย่างจริงจัง" ผู้บริหารอีเบย์กล่าว "CBT ในยุคก่อนหน้านี้ การซื้อออนไลน์ข้ามประเทศมักเริ่มที่สินค้าน้ำหนักเบา แต่ปัจจุบันลอจิสติกส์พัฒนาจนรองรับสินค้าชิ้นใหญ่ การก็แข่งขันสูงขึ้น CBT ขยายไปสู่สินค้าแบรนด์เนมราคาแพง คุณภาพดี ทำให้ผู้ขายพัฒนาตัวเองให้เป็นระบบมากขึ้น ขณะที่ผู้ซื้อก็คาดหวังมากขึ้นกว่าเดิม"

CBT แข่งดุ

การค้าปลีกส่งออกข้ามประเทศ (Cross Border Trade: CBT) มีสัญญาณเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก เพราะวันนี้ชาวออนไลน์นิยมซื้อสินค้าจากผู้ผลิตในต่างประเทศโดยตรง ทำให้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซพร้อมใจกันดึงดูดให้ SME ผู้ผลิตสินค้าหันมาจำหน่ายออนไลน์จนทำให้ตลาด CBT ขยายตัวชัดเจน โดยไม่เพียงอีเบย์ แต่อะเมซอน (Amazon) ก็พร้อมรบในสมรภูมินี้เช่นกัน

ความร้อนแรงของ CBT เห็นได้ชัดจากการประเมินว่า CBT จะมีส่วนแบ่งตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลก 20% ภายในปี 2022 โดยเอเชียแปซิฟฟิกจะเป็นภูมิภาคที่ CBT ขนาดใหญ่ที่สุดในตลาดอีคอมเมิร์ซทั้งในด้านการนำเข้าและการส่งออก ในปี 2018 ที่ผ่านมา ตลาดอีคอมเมิร์ซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่ารวม 23.2 พันล้านเหรียญ คาดว่าจะเติบโตเป็น 102,000 ล้านเหรียญภายในปี 2025

งานวิจัยของ Accenture ยังพบว่า CBT มีอัตราเติบโตมากกว่าอีคอมเมิร์ซ คาดว่ามูลค่าตลาด CBT จะโตทะลุ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020

การเติบโตนี้ทำให้อีเบย์วางกลยุทธ์ 3 ข้อใหญ่ ตั้งแต่การช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายเชื่อมต่อกัน และใช้เครื่องมือได้ทัั่วถึงด้วยการเปิด API ร่วมกับการเปิดอบรม และการจัดที่ปรึกษาทางธุรกิจ เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่เกิดในมาร์เก็ตเพลส

ปัจจุบัน วิธีการทำงานของมาร์เก็ตเพลสอีเบย์ เริ่มเมื่อผู้ขายลงประกาศขายสินค้า ด้านผู้ซื้อก็ลงมือเลือกสินค้า ก่อนจะตัดสินใจชำระเงิน สิ่งที่อีเบย์ทำคือการเพิ่มทางเลือกให้บริจาคเงินแก่สังคมทั้งฝั่งผู้ซือและผู้ขาย มีการเคลียร์ภาษีให้ ทั้งสองฝ่ายสามารถให้ฟีดแบคกันได้ และหากมีกรณีสินค้าไม่พอใจ ก็รับประกันคืนเงิน

"กลยุทธ์หลักคือโครงสร้างข้อมูล ทำให้หาสินค้าได้ง่าย เกิดการขายได้ง่าย ในประเทศอื่น เราทำ API ทำไว้ต้อนรับเทรนด์ในอนาคต เช่น SEAPaSS เชื่อมกับลอจิสติกส์หลายเจ้า ตอนนี้ทำกับ ปณท DHL เปิดใช้ฟรีเพื่อลดข้อผิดพลาดในการส่่ง"

ผู้ขายไทย 70% อยู่ กทม.

สำหรับไทย ผู้บริหารเผยว่าผู้ขายไทยราว 70% อยู่ในเขตกทม. อีก 20% อยู่ในเมืองใหญ่ เช่่น เชียงใหม่ เขตภาคเหนือ ที่เหลือ 10% อยู่ในพื้นที่อื่น ขณะที่ 5 สินค้าเด่นของไทยคือ เครื่องประดับ เม็ดพลอย รองลงมาคือสินค้าสุขภาพความงาม

สินค้าเด่นอันดับ 3 ของไทยคือชิ้นส่วน อะไหล่รถ ตามมาด้วยเครื่องใช้ในบ้าน และอันดับ 5 คือของสะสม ตลาดหลักที่ซื้อสินค้าเหล่านี้คือสหรัฐอเมริกา คิดเป็นสัดส่วน 50% รองลงมาเป็นตลาดอังกฤษ ออสเตรเลีย เยอรมัน และรัสเซีย

สินค้ายอดนิยมเหล่านี้จะต่างไปตามประเทศ เช่น สินค้าเด่นของผู้ค้าฮ่องกงคือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ผู้ขายจากไต้หวันจะเด่นที่อะไหล่รถ ต่างจากสินค้าจากผู้ขายญี่ปุ่นที่เด่นเรื่องสินค้ากลุ่มตัวการ์ตูนของเล่น กระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่เชื่อถือได้ และกระโปรงฟูหวานสไตล์ Lolita

สำหรับไทย สินค้าที่เติบโตมากที่สุดคือกลุ่มเครื่องประดับ คนไทยนิยมขายเม็ดพลอย ที่ได้รับความนิยมมากเพราะสวย ขณะที่สินค้าเกษตรแปรรูปถือว่ามีโอกาสขายหากสอดคล้องกับตลาดผู้ซื้อ เช่น กลุ่ม ชา สมุนไพร เมล็ดกาแฟ ซึ่งจะมีตลาดรองรับ แต่จะไม่มีจำหน่ายสินค้าสดเช่น ทุเรียน

"เอเชียแปซิฟิกถือเป็นตลาดออนไลน์ที่เติบโตมากที่สุดบนอีเบย์ เนื่องจาก 3 ปัจจัยคือ 1. สินค้าของผู้ผลิต APAC เป็นที่ต้องการ 2. มีระบบโครงสร้างข้อมูลทำให้สินค้าหาง่ายขายคล่อง และ 3. ราคาสินค้าอยู่ในระดับแข่งขันได้ การเติบโตนี้ทำให้อีเบย์เห็นโอกาสที่ธุรกิจ CBT จะเติบโตเป็นพิเศษในเอเชีย จึงลงทุนและจัดสรรทีมงานเพิ่มขึ้นเพื่อดูแลส่วนของ CBT ทั้งเอเชีย"

อย่างไรก็ตาม อีเบย์ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลว่าจัดสรรบุคลากรด้าน CBT มากขึ้นเท่าใด แต่ยืนยันว่าเตรียมบุคลากรไว้เพียงพอต่อความต้องการ และมีการพัฒนาศักยภาพพนักงานให้สามารถรองรับงานหลากหลาย

สัดส่วนรายได้ของอีเบย์จาก APAC นั้นยังไม่ชัดเจน แต่ไทยเป็นตลาด 1 ใน Top 3 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอีเบย์ สะท้อนว่ามีโอกาสเติบโตสูง โดยตัวเลขยอดขายรวมทั้งตลาดของอีเบย์ประจำปี 2018 คือ 95,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ไม่หวั่นคู่แข่ง

ผู้บริหารอีเบย์ไม่ได้มองความท้าทายที่บริษัทคู่แข่งรายอื่น แต่จะเน้นการบริการที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะสินค้าที่มีจำหน่ายในอีเบย์ แต่ไม่มีในแพลตฟอร์มอื่น เช่นของสะสมหายาก เหรียญรุ่นพิเศษ การ์ดเบสบอลหรือการ์ดดารา ทั้งหมดนี้เป็นการต่อยอดจากเดิมที่อีเบย์เป็นแพลตฟอร์มประมูลสินค้า ซึ่งปัจจุบันพฤติกรรมของผู้ซื้อมักไม่รอการประมูล ทำให้อีเบย์เน้นทำธุรกิจในรูปแบบกำหนดราคา Fixed Price มากขึ้น

ปัจจุบัน 89% ของผู้ซื้อบนอีเบย์ นิยมซื้อสินค้าทันที ไม่รอการประมูล โดย 79% ของสินค้าที่ขายดีเป็นสินค้าใหม่ 62% ของผู้ซื้อกดสั่งสินค้าบนสมาร์ทโฟน 70% เป็นสินค้าแบบจัดส่งฟรี จำนวนผู้ซื้อสินค้าบนอีเบย์มีจำนวน 180 ล้านคนทั่วโลก.


กำลังโหลดความคิดเห็น