xs
xsm
sm
md
lg

Facebook โชว์สกุลเงินดิจิทัล Libra ลุยสร้างระบบชำระเงินใหม่ระดับโลก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เชื่อว่าผู้ใช้ Facebook จำนวน 2 พันล้านคนจะใช้สกุลเงินใหม่เพื่อซื้อสิ่งของหรือส่งเงินไปต่างประเทศเป็นประจำ
เฟซบุ๊ก (Facebook) พร้อมรบในสังเวียนธุรกิจการเงิน เปิดตัวโครงการลิบรา (Libra) ด้วยฐานะก้าวที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในโลกสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนที่กำลังตั้งไข่ คาดสกุลเงินดิจิทัลพร้อมใช้อย่างเป็นทางการในปีหน้า (2020) ส่งให้มูลค่าเงินบิตคอยน์พุ่งกระฉูดเกินระดับ 9,195 เหรียญสหรัฐต่อ 1 บิตคอยน์แล้วในขณะนี้

นับเป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหวที่ร้อนแรงที่สุดของ Facebook ในธุรกิจอื่นที่นอกจากธุรกิจโฆษณาดิจิทัล สำหรับครั้งนี้ Facebook เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรชื่อสมาคมลิบรา ”Libra Association” องค์กรใหม่นี้ตั้งอยู่ในเจนีวา หน้าที่หลักคือการดูแลสกุลเงิน Libra แม้จะได้รับการสนับสนุนจากความเชี่ยวชาญของ Facebook แต่จะถูกควบคุมดูแลโดยพันธมิตรอีก 28 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีองค์กรใหญ่ด้านบริการชำระเงิน “วีซ่า” (Visa) และมาสเตอร์การ์ด (Mastercard) รวมถึงบริษัทอินเทอร์เน็ตชื่อดังอย่างอีเบย์ (eBay), สปอติฟาย (Spotify) และอูเบอร์ (Uber)

เบื้องต้น Facebook ระบุว่าต้องการให้สกุลเงินเริ่มให้บริการในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า และเชื่อว่าผู้ใช้ Facebook จำนวน 2 พันล้านคนจะใช้สกุลเงินใหม่เพื่อซื้อสิ่งของหรือส่งเงินไปต่างประเทศเป็นประจำ

เน้นง่ายโอนคล่อง

ดันเต้ ดิสพาร์เต้ (Dante Disparte) หัวหน้าฝ่ายนโยบายและการสื่อสาร สมาคม Libra Association เชื่อว่าแรงผลักดันให้เงินสกุล Libra แพร่หลายคือการเป็นสกุลเงินและโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินระดับโลกที่ง่าย ซึ่งให้อำนาจแก่ผู้คนหลายพันล้านคน จุดหลักของโครงการคือการนำสกุลเงินดิจิทัลเวอร์ชันใช้ง่าย มาสู่สมาร์ทโฟนทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนสามารถโอนเงิน สร้างเครดิต และชำระค่าใช้จ่ายได้ง่ายแบบไม่มีค่าธรรมเนียมราคาสูง

นอกจากนี้ Libra ยังสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีโอเพนซอร์ส ซึ่งหมายความว่าบริษัทหรือบุคคลใดก็สามารถสร้างธุรกิจที่เข้ากับกรอบการทำงานของเงิน Libra ได้เสรี ตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคสามารถซื้อเงิน Libra โดยใช้เงินดอลลาร์แล้วเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล เงิน Libra นี้สามารถถูกส่งไปยังสมาชิกในครอบครัวผ่านแอปพลิเคชันสื่อสารอย่างว็อตสแอป (WhatsApp) หรือจะใช้จ่ายบิลในต่างประเทศได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนหรือค่าเงินแข็งค่า
คาดว่า Libra จะเป็นหนึ่งคมเล็บใน WhatsApp และ Messenger ที่จะเป็นหัวใจสำคัญของอนาคต Facebook
โครงการ Libra ถูกมองเป็นก้าวใหม่ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์สกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งทำให้หลายฝ่ายมั่นใจว่าการทดลองเพื่อคิดหาการชำระเงินดิจิทัลรูปแบบใหม่นั้นจะเกิดขึ้นได้จริงและยั่งยืน บนประโยชน์ของ Blockchain ที่กระจายอำนาจให้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเครือข่ายมีส่วนร่วมในการบันทึกข้อมูลที่มาของเงินแบบสาธารณะ ทำให้เกิดธุรกรรมที่ปลอดภัยโดยที่ไม่มีใครมีอำนาจเหนือเงินนั้นแบบเบ็ดเสร็จ

Libra ไม่เหมือน bitcoin

แม้จะเป็นสกุลเงินดิจิทัลเหมือน bitcoin และอื่นๆ แต่ Libra มีความแตกต่างที่สำคัญคือการถูกดูแลโดยหน่วยงานกลาง และมูลค่าของมันจะผูกติดอยู่กับสินทรัพย์อื่น ทั้งหมดนี้ Facebook กล่าวว่ามีแผนจะให้บริการทางการเงินอื่นร่วมด้วย ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าในอนาคต Facebook อาจให้บริการสินเชื่อกู้ยืมผ่านบริการในเครือ

ล่าสุด ราคาของ bitcoin ปรับตัวสูงขึ้นเกิน 9,000 เหรียญสหรัฐในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยในช่วง 30 มูลค่า bitcoin เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% ถือเป็นตัวเลขสูงที่สุดในรอบ 1 ปีหลังจาก bitcoin ตกต่ำ อานิสงส์สำคัญคือรายงานข่าวเกี่ยวกับแผนการเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของ Facebook ซึ่งทำให้เกิดความคาดหวังว่าสกุลเงินดิจิทัลจะเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในอนาคต

เบื้องต้นนักวิเคราะห์มองว่าสกุลเงินที่มีความผันผวนต่ำสามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินสำหรับประชาชนในประเทศที่มีความขัดแย้ง ขณะเดียวกันก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับประชาชนที่ไม่ต้องการใช้สกุลเงินที่อยู่ในภาวะเงินเฟ้อรุนแรงระดับวิกฤต ทำให้ Libra ถูกมองว่ามีอนาคตสดใส แม้ว่ายังมีผู้บริโภคบางรายอาจไม่ต้องการเก็บเงินไว้ในสกุลเงินนอกประเทศ

แจ้งเกิด Calibra ส่งเงินเร็วเหมือนส่งข้อความ

เพื่อให้บริการส่งเงิน Libra ที่จะแจ้งเกิดในปีหน้า Facebook ใช้วิธีแจ้งเกิดแอปพลิเคชันชื่อคาลิบรา (Calibra) หน้าที่หลักคือการเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถส่งเงิน Libra ด้วยค่าธรรมเนียมราคาต่ำมากถึงฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเควิน วีล (Kevin Weil) รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Calibra กล่าวว่าบริษัทต้องการให้การส่งเงินเป็นเรื่องง่ายเหมือนกับการส่งข้อความ
แอปพลิเคชันชื่อคาลิบรา (Calibra) หน้าที่หลักคือการเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถส่งเงิน Libra ด้วยค่าธรรมเนียมราคาต่ำมากถึงฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
Calibra จะรวมอยู่ในบริการ WhatsApp และ Messenger ของ Facebook ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายที่มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) วางแผนให้ WhatsApp และ Messenger เป็นหัวใจสำคัญของอนาคต Facebook ซึ่ง Mark ก็พยายามเปลี่ยนแปลงให้สาวกใช้เวลากับโพสต์ฟีดข่าวสาธารณะน้อยลง มาเน้นการส่งข้อความส่วนตัวมากขึ้น

ผู้บริหาร Calibra บอกว่าขณะนี้ต้นทุนเฉลี่ยในการส่งเงินไปทั่วโลกอยู่ที่ 7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากลดต้นทุนการทำธุรกรรมลงได้ ราคาค่าใช้บริการออนไลน์ เช่น การเรียกรถผ่าน Uber ก็อาจต่ำลงด้วย เบื้องต้น เป้าหมายใหญ่ของบริษัทคือการผลักดันให้ Libra เป็นที่ยอมรับ หากประสบความสำเร็จก็จะมีโอกาสอื่น ในการให้บริการทางการเงินแก่ผู้ที่อยู่ในแพลตฟอร์มธุรกิจของ Facebook

Disparte กล่าวว่าสมาคม Libra ต้องการเพิ่มจำนวนพันธมิตรให้ถึงระดับ 100 องค์กร ก่อนที่สกุลเงินดิจิทัล Libra จะเปิดตัว โดยในเอกสารยืนยันว่าพันธมิตรแต่ละรายจะมีอำนาจการโหวตเท่ากัน แม้ว่า Facebook อาจจะรักษาบทบาทความเป็นผู้นำในสกุลเงิน Libra จนถึงปี 2019

การเลือกชื่อ Libra นั้นมีหลายเหตุผล นอกจากความหมายที่เป็นหน่วยวัดน้ำหนักโรมันที่เกี่ยวข้องกับเหรียญแล้ว ชื่อนี้ยังมาจากเครื่องหมายทางโหราศาสตร์รูปตาชั่งที่แสดงถึงความสมดุล และอีกส่วนหนึ่งมาจากคำภาษาฝรั่งเศส "libre" ซึ่งหมายถึงอิสรภาพ รวมกันเป็นเงินที่ผู้ถือจะได้รับความยุติธรรมและอิสระ ตามแนวคิดหลักของโครงการนี้

ขณะนี้ Facebook เสนอให้พนักงานที่ทำงานกับโครงการ Libra รับเงินเดือนเป็นสกุลเงิน Libra แล้ว ตามการรายงานของสื่อไอที “ดิอินฟอร์เมชัน” (The Information) ที่ระบุไว้ตั้งแต่ต้นเดือน.


กำลังโหลดความคิดเห็น