2C2P ลุยเพิ่มบริการด้าน e-payment บุกตลาดโอนเงินระหว่างประเทศ ย้ำฐานให้แน่นขึ้นอีกหลังจากรายได้และกำไรปี 61 ขยายตัวเพิ่ม 2 เท่าต่อเนื่อง 5 ปีที่ผ่านมา ปัจจัยบวกคือการเติบโตของตลาดการค้าออนไลน์และการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยปีนี้ขีดแผนจะไปตั้งสำนักงานที่เวียดนามแบบเต็มที่ คาดรายได้รวมปี 62 จะเพิ่มขึ้น 30% จาก 1,700 ล้านบาท เป็น 2,000 ล้านบาท
ปิยชาติ รัตน์ประสาทพร กรรมการบริหาร บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการการเงินที่การันตีว่าครบวงจรทั้งการรับเงินและการชำระเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่า 3 บริการใหม่ของ 2C2P ที่จะเริ่มเปิดตลาดในปีนี้ได้แก่บริการโอนเงินระหว่างประเทศ, e-tax/e-bill และระบบความปลอดภัยการใช้บัตรออนไลน์ 3D Secure เวอร์ชันใหม่ กลุ่มเป้าหมายคือตลาดร้านค้าออนไลน์ทั้งในและนอกกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA)
“เชื่อว่า 2C2P ยังโตได้อีกเยอะ นอกจากอาเซียน เราเริ่มไปไต้หวัน อินเดีย รัสเซีย มีคุยพันธมิตรในตะวันออกกลาง เป็นอีกโอกาสที่จะไปทำมาหากิน ท่ามกลางตลาด SEA ที่มหาศาลมาก”
กลุ่มบริษัท 2C2P มีรายได้จากการให้บริการรวม 1,700 ล้านบาทในปี 61 เพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 60 มีธุรกรรมการเงินออนไลน์ผ่านระบบของบริษัทกว่า 20 ล้านรายการต่อปี มูลค่ารวม 1 แสนล้านบาท
สำหรับประเทศไทย 2C2P ทำรายได้ 700 ล้านบาทในปี 61 โดยในช่วงไตรมาสแรกปี 62 ที่เพิ่งจบไป 2C2P มีรายได้กว่า 280 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นเกือบ 100% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 61
รายได้หลักของ 2C2P ในช่วงปีที่ผ่านมามาจากธุรกิจสายการบิน และตัวแทนจำหน่ายตั๋วออนไลน์ (OTA) 70% รองลงมาเป็น Market Place และร้านค้า Retail ขนาดใหญ่ทั้งร้านสัญชาติต่างประเทศและสัญชาติไทย
การเติบโตนี้มีผลจากตลาดอีคอมเมิร์ชที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศไทย 2C2P พบว่ามูลค่าธุรกิจ B2C (Business to Consumer) จะอยู่ที่ราว 3 แสนล้านบาท ซึ่ง 2C2P มั่นใจว่าบริษัทครองสัดส่วนมูลค่า B2C ไทยราว 70% แล้ว
ปีนี้ลุย 3 บริการผ่าน 4 แบรนด์หลัก
สำหรับปีนี้ 2C2P จะเน้นให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมในการทำธุรกรรมออนไลน์ อาทิ การออกบัตรพรีเพด กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ การโอนเงินระหว่างประเทศ ระบบความปลอดภัย 3DS ระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ในหลายประเทศ และ QR Payment
ปัจจุบันบริการของบริษัทมี 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ PGW, 123, 2C2P Plus และ easyBills ครอบคลุมบริการหลากหลายที่ไม่ได้มีเพียงบริการรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต ตัดเงินจากบัญชีธนาคาร วอลเล็ต หรือชำระเงินสดที่เคาน์เตอร์รับชำระเงิน แต่ยังมีการออกบัตร Prepaid MasterCard บัตร Gift Card วอลเล็ต การให้บริการ e-Tax Invoice โดยกลุ่มเป้าหมายจะมุ่งเน้น ร้านค้าขนาดกลางและขนาดใหญ่ ที่ต้องการระบบชำระเงินแบบครบวงจรและมีความปลอดภัยสูงสุด
ทั้ง 4 แบรนด์หลักของ 2C2P บริษัทระบุว่าจะมุ่งเน้นการให้บริการกับกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อน รวมถึงทุกประเทศที่ 2C2P จัดตั้งออฟฟิศ ได้แก่ ประเทศไทย เมียนมา สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และฮ่องกง ผ่านการเชื่อมต่อกับธนาคารหรือพาร์ทเนอร์ด้านการชำระเงินท้องถิ่นแล้วในทุกประเทศ
ตลอดปีนี้ ผู้บริหาร 2C2P เผยว่าจะสนับสนุนให้เกิดการชำระเงินแบบท้องถิ่นมากขึ้น เช่น บริการพร้อมเพย์ เพื่อลดภาระด้านต้นทุนร้านค้า และเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น รวมถึงยังมีการจับมือกันระหว่างประเทศในอาเซียนเพื่อให้มีการใช้ช่องทางชำระเงินนี้ข้ามประเทศด้วย ทางด้านการชำระเงินด้วยบัตรเองก็มีการปรับปรุงวิธีการชำระเงินออนไลน์แบบใหม่เพื่อความสะดวก ปลอดภัย และรวดเร็วมากขึ้น โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยี 3DS Version 2 ให้ธนาคารผู้ออกบัตรและผู้ให้บริการรับบัตรผ่าน Payment Gateway โดย 2C2P เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับการรับรองจากเครือขายบัตรเครดิตขั้นนำ ในการให้บริการนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเน้นการพัฒนาบริการใหม่ เช่น บริการโอนเงินระหว่างประเทศ การออกอิเล็กทรอนิกส์ Tax Invoice/Receipt อีกด้วย ที่สำคัญคือระบบความปลอดภัยการใช้บัตรออนไลน์ หรือ 3D Secure ของ 2C2P ที่สามารถรองรับการทำรายการออนไลน์ผ่านบัตรเครดิตชั้นนำ เช่น Visa MasterCard UnionPay American Express และ JCB ที่พัฒนาขึ้นเพิ่มความปลอดภัยในการซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์ สามารถป้องกันผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของบัตร นำบัตรฯไปใช้ผ่านทางออนไลน์ ทำให้ร้านค้าหมดกังวลสำหรับการปฏิเสธรายการบัตรจากเจ้าของบัตร โดยในเวอร์ชั้นล่าสุดนั้น ได้มีการปรับปรุงให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และปลอดภัยขึ้นด้วย การโอนเงินระหว่างประเทศ ทาง 2c2p ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย สามารถให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ เพิ่มความสะดวกให้ชาวต่างประเทศที่อาศัยในประเทศไทยในการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
e-Tax / e-Bill เป็นบริการออกใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี ในรูปแบบดิจิทัล โดยจัดส่งทางอีเมล ในรูปแบบไฟล์ PDF เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดส่งใบเสร็จและใบกำกับภาษี บริษัทฯ คาดว่าในปี 2562 เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมาจากการสนับสนุนของภาครัฐ การลงทุนของเอกชนในระบบออนไลน์ที่สูงขึ้น การเข้ามาของร้านค้าต่างประเทศขนาดใหญ่ และความต้องการในไลฟ์สไตล์ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในการเดินทาง ทำให้ความต้องการซื้อสินค้าออนไลน์มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน
โตได้อีกแม้มีความเสี่ยง
2C2P เชื่อมั่นว่าปัจจัยบวกเหล่านี้จะส่งผลให้ภาพรวมของตลาดการค้าออนไลน์ในปี 2562 มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น แม้จะยอมรับว่ายังมีปัจจัยลบเรื่องนโยบายของหน่วยงานรัฐที่อาจทำให้พ่อค้าแม่ขายออนไลน์ไทยหันกลับไปใช้เงินสดเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบเรื่องภาษี ซึ่งถือว่ายังเป็นเรื่องที่ต้องให้ความรู้กับสังคมไทยโดยรวม
ในปีนี้ 2C2P คาดว่ารายได้จากผลการดำเนินงานน่าจะเติบโตเป็นเท่าตัวเหมือนเช่นเคย โดยรายได้ในตลาดไทยมีแนวโน้มเติบโตจากปี 2018 ที่ทำได้ 700 ล้านบาท มาเป็น 1,200 ล้านบาทได้สำเร็จในปีนี้ บนรายได้รวมทุกตลาดที่เพิ่มจาก 1,700 ล้านบาท เป็น 2,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเติบโตประมาณ 30%.
