xs
xsm
sm
md
lg

ซัมซุงมอง 5G /AI ทางออกท่ามกลางตลาดอิ่มตัว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ซัมซุงวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในตลาดนับจากนี้อีก5 ปีข้างหน้าความต้องการผู้บริโภคจะเป็นปัจจัยหลักให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบสนอง ท่ามกลางตลาดอิ่มตัว ความต้องการในกลุ่มไฮเอนด์ลดลง 5G และAI จะเป็นความหวังใหม่ พร้อมชูกลยุทธ์ ซัมซุงจะไม่หยุดที่สมาร์ทโฟนแต่ซัมซุงจะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภคบน 5G / AI ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆของซัมซุง เพื่อความเป็นผู้นำในไทยและอาเซียน


ในโอกาสเปิดตัว 'กาแลคซี่ เอ ซีรีส์' สมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบไลฟ์ ดีเจ โกห์ (DJ Koh) ประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เดินทางเข้าร่วมงานเปิดตัว นับเป็นครั้งแรกที่ทางซัมซุง เลือกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานเปิดตัวนวัตกรรมสมาร์ทโฟนระดับโลกสำหรับเจเนอเรชั่นใหม่อย่าง 'ซัมซุง กาแลคซี่ เอ ซีรี่ส์ ปี 2019'


ดีเจ โกห์ ให้มุมมองตลาดโทรศัพท์มือถือในเมืองไทยว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะนับจากนี้ต่อไปอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายจาก LTE ไปสู่ยุค 5Gจะเกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป


'5G จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ถ้าเทียบกับ ยุค LTE ความเร็วจะเร็วกว่า 20เท่า ในเซลเดียวกันรองรับดีไวซ์ได้ประมาณ 10 เท่า เรียกได้ว่าเป็นยุคของความเร็วเป็นหลัก'


ซัมซุงมีการเตรียมการเพื่อเข้าสู่ยุค 5G มานานแล้วโดยเห็นความสำคัญของการนำเทคโนโลยี AIเข้าร่วมกับ 5G ซัมซุงมีทั้งชิปเซ็ท และเน็ตเวิร์ก ตลอดจนดีไวซ์ และอีโคซิสเต็มส์ เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้บริโภคเข้าสู่ยุค 5G ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทุกวันนี้การแข่งขันในตลาดมีมากในขณะที่ซัมซุงมีโรดแมปของตัวเอง ไม่ว่าจะอีก5ปี หรือ 10 ปี ข้างหน้า ซัมซุงก็จะโฟกัสผู้บริโภคของซัมซุงมากยิ่งขึ้น โดยจะเป็นไปตามโรดแมปของซัมซุงเอง



จากปัจจุบัน สมาร์ทโฟนมีการพัฒนาไปสู่รูปแบบนาฬิกา โดยมีการผนวกเอากล้อง หรืออุปกรณ์อื่นๆ อนาคตอาจพัฒนาไปสู่อุปกรณ์ที่เล็กลงไปอีกอย่างเช่นแหวน ผู้บริหารซัมซุงมองว่า อนาคตเป็นเรื่องของการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ด้วยกันเอง โดยในยุค 5G จะเกิดการสื่อสารระหว่างเครื่องผ่านทางเสียงของผู้ใช้งาน ทั้งนี้จะต้องมีเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก



*** มองตลาดไทย



ผู้บริหารซัมซุงมองว่า ทุกวันนี้เสียงของผู้บริโภค และความต้องการของตลาดเป็นประเด็นหลัก ผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลาย ผลิคภัณฑ์ที่ออกมาต้องตอบโจทย์ Gen Z และกลุ่ม มิลเลนเนียล ให้ได้


'นับจากนี้ต่อไปอีก 5 ปีข้างหน้าประสบการณ์ของผู้บริโภคจะเป็นประเด็นหลักที่จะทำให้เราพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปในทิศทางไหน สมาร์ทโฟนแต่ละเครื่องต้องมีความเป็นอินเทลลิเจนท์ ตอบโจทย์การใช้ของแต่ละบุคคล'


ในแง่เทคโนโลยี แม้ซัมซุงจะเป็นแอนดรอยด์ แต่ก็สามารถนำไมโครซอฟท์มาผนวกการใช้งานได้ รวมทั้งเห็นความสำคัญของการเชื่อมโยงกับแบรนด์อื่นว่าเป็นเรื่องจำเป็น โดยมีสมาร์ทโฟนเป็นตัวหลักในการเชื่อมโยง ขณะที่ระบบรักษาความปลอดภัยก็เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญ


ทั้งนี้ประเทศไทย เป็นตลาดที่สำคัญของซัมซุง ที่ผ่านมาซัมซุงเป็นผู้นำในตลาด ขณะเดียวกันแบรนด์อื่นก็พยายามเข้ามาเบียดในกลุ่มไฮเอนด์ โดยเชื่อว่าอีก 2-3 ปีข้างหน้ากลุ่มมิลเลนเนียลจะเป็นตลาดใหญ่ของไทย โดยมีส่วนแบ่งถึง 50 % ของตลาดทั้งหมด ซัมซุงต้องรักษาความเป็นผู้นำในตลาดไทยให้ได้ เพื่อซัมซุงจะได้เป็นผู้นำในเซาส์อีสต์เอเซียให้ได้ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ ดีเจ โกห์ เข้ามาเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตลาดไทย



ด้วยความชอบแชท /แชร์ ผู้บริหารซัมซุงมองว่า ต้องเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆในเมืองไทยเพื่อให้กลุ่มผู้ชื่นชอบซัมซุง เหล่านั้นเกิดความว้าว และแชร์ข้อมูลให้เพื่อนๆได้รับรู้ จึงเลือกเปิดตัว A70 /A 80 ในเมืองไทย โดยหลังจากนี้จะไปเปิดตัวที่ บราซิล และ อิตาลี


*** กลยุทธ์ และโอกาสทางการตลาด ฝากไว้กับ 5 G



ผู้บริหารซัมซุงมองว่า 2 ปัจจัยหลักของการวางกลยุทธ์ทางการตลาด คือต้องเข้าใจเทรนด์ของเทคโนโลยี ทั้งในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรบ้าง ตามมาด้วยเรื่องผู้บริโภค โดยผลิตภัณฑ์ต้องตอบสนองการยอมรับของผู้บิโภคให้ได้


ในแง่โอกาสทางการตลาด ปัจจุบันตลาดอยู่ในภาวะอิ่มตัว ตลาดไม่โตขึ้นเลย ความต้องการผู้บริโภคลดลงในกลุ่มไฮเอนด์เซกเมนท์ แต่ก็ยังมี 5G เป็นความหวังใหม่ที่เริ่มในปี 2019 นี้ ตลอดจน AI เทคโนโลยีที่จะเป็นตัวหลักสำคัญเช่นกันโดยรวมแล้วซัมซุงมองว่าโอกาสทางการตลาดอยู่ที่ 5G และ AIในยุค5G กับ AI กลยุทธ์ที่สำคัญคือใครเข้าใจเทคโนโลยีของ 5G และ AI ได้เร็วกว่า และดีกว่า กับความพร้อมในการเตรียมการสู่ 5G และ AI ได้พร้อมกว่าก็จะเป็นผู้นำในตลาด ซึ่งซัมซุงก็อยู่ในจุดนั้นอยู่แล้ว โดยมีการวิจัยและพัฒนา 7 แห่งใน 7 ประเทศ


'ซัมซุงจะไม่หยุดที่สมาร์ทโฟนแต่ซัมซุงจะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้ผู้บริโภคบน 5G และ AI ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆของซัมซุง'


เกี่ยวกับมุมมองของแบรนด์อื่นและการเติบโตของแบรนด์จีน ผู้บริหารซัมซุง ยอมรับว่า 4 แบรนด์จีนมีการเติบโตในช่วงที่ผ่านมาและมียอดขายที่ดีในตลาด ซึ่งซัมซุงก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า ทั้ง4 แบรนด์เป็นคู่แข่ง แต่ซัมซุงก็มีโรดแมปของตัวเองว่า อีก5 ปี 10 ปีข้างหน้าจะมีการพัฒนาไปในทิศทางไหน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ใหม่ๆและนวัตกรรมใหม่ๆของซัมซุง ขณะเดียวกันก็เปิดรับที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ที่เกิดจากแบรนด์อื่น เพื่อให้เป็นประโยชน์ในการเรียนรู้กับซัมซังในอนาคต


พร้อมกันนี้ ซัมซุงเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ล่าสุด BLACKPINK ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอตระดับโลก และหนุ่มหล่ออย่าง เป๊ก ผลิตโชค


*** ซัมซุง กาแลคซี่ A 80



ซัมซุง กาแลคซี่ A 80 มาพร้อมกล้องที่หมุนได้ครั้งแรกของซัมซุง (Rotating Camera) ให้ผู้ใช้สามารถบันทึกทุกสิ่งรอบตัวได้อย่างไร้ขีดจำกัด เมื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่นกล้องในโหมด Selfie กล้องทั้ง 3 ตัวจะป๊อปอัพขึ้นจากด้านหลังของโทรศัพท์โดยอัตโนมัติและหมุนกลับเพื่อทำงานเป็นกล้องหน้า


กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพที่มีสีสันสดใสทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน เลนส์ 3D Depth ที่มาพร้อมโหมด Live Focus ที่ไม่เพียงแต่ถ่ายภาพนิ่งเท่านั้น แต่ยังสามารถถ่ายวิดีโอ Live Focus ได้ด้วยเทคโนโลยี ToF (Time of Flight) ของกล้อง 3D Depth ซึ่งสามารถรับรู้ระยะความห่างของวัตถุ ด้วยระยะเวลาในการสะท้อนกลับของแสง นอกจากนี้ยังมีเลนส์ Ultra Wide เปิดมุมมองภาพให้กว้างราวกับตาเห็น


พร้อมบันทึกวิดีโออย่างง่ายดายด้วยโหมด Super Steady ลดการสั่นไหว ช่วยเก็บภาพบรรยากาศได้อย่างมืออาชีพระดับ Action Camera และด้วยฟีเจอร์กล้องอัจฉริยะ อาทิ Scene Optimizer สามารถจดจำและปรับแต่งภาพได้สูงสุด 30 ฉาก และฟีเจอร์ Flaw Detection ตรวจจับข้อบกพร่องโดยอัตโนมัติก่อนกดบันทึก ให้ผู้ใช้ไม่พลาดช็อตที่สมบูรณ์สุดในทุก ๆ การถ่ายภาพ


*** ฟีเจอร์มัลติมีเดียใหม่



ด้วยนวัตกรรมกล้องหมุนได้ หรือ Rotating Camera ผู้ใช้สามารถสัมผัสประสบการณ์การรับชมแบบเต็มเปี่ยมจากจอแสดงผลที่เต็มตา ด้วยดีไซน์หน้าจอแบบใหม่ New Infinity Display ครั้งแรกของซัมซุง โดดเด่นด้วยหน้าจอ FHD+ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ให้ภาพสีสันสดใส รายละเอียดเต็มตา ให้ผู้ใช้ดื่มด่ำกับเกมโปรด วิดีโอ ภาพถ่าย และคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ กาแลคซี่ A 80 มาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางแบบ 360 องศาเมื่อใช้หูฟังหรือลำโพงบลูทูธ


นอกจากนี้ ยังมีแบตเตอรี่ขนาด 3,700 mAh ของกาแลคซี่ A 80 และระบบชาร์จเร็ว Super-Fast Charging สูงสุดถึง 25 วัตต์ มาพร้อมฟีเจอร์แบตเตอรี่อัจฉริยะที่เรียนรู้การใช้งานประจำวันและรูปแบบการใช้แอปพลิเคชั่นของผู้ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้แบตเตอรี่ของเครื่อง ด้วยระบบ Intelligent Performance Enhancer ของกาแลคซี่ A 80 มีซอฟต์แวร์ทรงประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งปรับการทำงานแบตเตอรี่ ซีพียู หน่วยความจำหลัก และอุณหภูมิของอุปกรณ์ตามการใช้งานของผู้ใช้ ช่วยให้สมาร์ทโฟนในมือเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่นได้รวดเร็วยิ่งขึ้น


ยังมี Bixby Routines ติดตามการใช้งานด้วยการเรียนรู้รูปแบบการใช้แอปพลิเคชั่นและวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้ จดจำว่าฟีเจอร์ไหนและเวลาใดที่ผู้ใช้ต้องการ Bixby Routines ตอบสนองการใช้งานประจำวันและการใช้แอปพลิเคชั่นโดยอัตโนมัติตามพฤติกรรมที่ทำเป็นประจำ เช่น เวลาขับรถหรือเวลาอยู่ในที่ทำงาน


พร้อมเสริมเกราะความปลอดภัยด้วย Samsung Knox แพลทฟอร์มระบบความปลอดภัยของซัมซุง ที่ออกแบบมาเพื่อรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ชิปเซ็ตจนถึงซอฟต์แวร์ ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับอิสระแห่งการเชื่อมต่ออย่างปลอดภัย อีกทั้งเปิดโอกาสให้ผู้คนได้ใช้ Samsung Pass เพื่อเข้าถึงแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ต่าง ๆ ด้วยการใช้ระบบยืนยันตัวตน (Biometric Authentication) และเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ยังมีระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเพื่อให้ผู้ใช้สามารถปลดล็อกโทรศัพท์ของตนเองได้อย่างง่ายดาย


กาแลคซี่ A 80 มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีทอง (Angel Gold) สีขาว (Ghost White) และสีดำ (Phantom Black) โดยตัวเครื่องสีทองมีส่วนผสมของสีชมพู ขณะที่สีขาวมีเฉดของสีฟ้า โดยสีต่าง ๆ ของโทรศัพท์จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับทิศทางและการสะท้อนของแสง


กำลังโหลดความคิดเห็น