เลิกทำเซฟตี้รีมูฟ (safely remove) ได้แล้วสำหรับผู้ใช้วินโดวส์ 10 เพราะวันนี้ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ประกาศว่าได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่จนทำให่การทำ safely remove ไม่จำเป็นอีกต่อไป โดยผู้ใช้สามารถดึงยูเอสบีแฟลชไดร์ฟออกได้เมื่อไม่มีการใช้งานข้อมูล
หลายปีมาแล้วที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์พีซีต้องยึดมั่นในคำแนะนำว่าก่อนจะถอดอุปกรณ์กลุ่มยูเอสบีแฟลชไดร์ฟบน Windows ควรต้องคลิกที่ safely remove เท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับข้อมูลภายในไดร์ฟ แต่ล่าสุด Microsoft ยืนยันว่าผู้ใช้ Windows 10 ไม่จำเป็นต้องคลิก safely remove แล้ว เนื่องจากฟังก์ชั่นใหม่ “ควิก รีมูฟวอล” (Quick Removal) ซึ่งถูกเพิ่มเข้าไปใน Windows 10 เวอร์ชั่น 1809 ที่อัปเดทล่าสุดเมื่อตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา
ฟังก์ชั่นใหม่ใน Windows 10 จะทำให้ผู้ใช้สามารถดึงยูเอสบีแฟลชไดร์ฟออกได้โดยไม่ต้องคลิก safely removal เพราะรูปแบบการดึงข้อมูลภายในที่เปลี่ยนไป แถมยังมีระบบป้องกันความเสียหายของข้อมูลจากการถูกถอดออกอย่างกระทันหัน เชื่อว่าผู้ใช้ Windows 10 ส่วนใหญ่จะได้รับประโยชน์จากฟังก์ชัน Quick Removal เพราะฟังก์ชันถูกตั้งเป็นค่าเริ่มต้นหรือ Default ที่เปิดมาแต่แรกเริ่ม
อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนอเมริกันยังแนะนำว่าเพื่อความปลอดภัย การถอดแฟลชไดร์ฟควรจะทำเมื่อไม่มีการอ่านเขียนข้อมูลจะดีที่สุด
การยืนยันเรื่อง safely remove นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Microsoft ประกาศทดสอบเบราว์เซอร์เอดจ์ (Edge) ซึ่งพัฒนาบนเทคโนโลยีเบราว์เซอร์โครเมียม (Chromium) ของกูเกิล โดยจะเปิดกว้างให้ทุกคนทดสอบได้แบบไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกกลุ่ม Windows Insider ก็ได้
จุดเด่นของเบราว์เซอร์ Chromium-based Edge คือการสนับสนุนการชมวิดีโอความละเอียด 4K บนบริการเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ขณะเดียวกันก็จะมีระบบแนะนำข้อความหรือ Text suggestions คาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อไปเพื่อให้ผู้ใช้เวอร์ชันต่ำกว่า Windows 10 ได้ใช้งานจริงจัง