อินฟินิกส์ สมาร์ทโฟนอินเตอร์แบรนด์ ประกาศจุดยืนขอเป็นผู้นำตลาดเอนเทอร์เทนเมนต์โฟน ชูจุดขาย แบต ทน/อึด ไม่ต้องพก แบตสำรอง จับมือ ทรูจัดโปรโมชันฟรีเน็ตดูทรูไอดี จำนวน 600 GB มูลค่า 2,700 บาท ฟรีตลอดปี ตั้งเป้าโต 100%
นางสาวจุลลดา ทรัพย์สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินฟินิกซ์ ไทยแลนด์ กล่าวว่า ทามกลางความไม่มั่นใจของแวดวงไอทีทั้งหลายว่าตลาดรวมปี 62 จะขยายตัวหรือไม่ กำลังซื้อจะมาจากไหน แต่อินฟินิกส์มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายให้เติบโตไ้ด้อีกเท่าตัวภายใต้ความโดดเด่นของตัวโปรดักส์ที่มีจุดขายในตัวเอง ทั้งยังมีพาร์ทเนอร์ที่ร่วมธุรกิจด้วยอย่างบริษัท เทเลทัช จำกัด
ผู้บริหารอินฟินิกส์กล่าวถึง แนวทางการทำตลาดว่าจะมีการวางกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการตลาดที่แตกต่าง จากแบรนด์อื่นๆ เพื่อสร้างการเป็นอันดับหนึ่งในตลาดเอนเตอร์เทนเมนต์โฟน โดยจะชูจุดขายเน้นฟังก์ชันเด่นของอินฟินิกซ์ ที่ตอบสนองความต้องการใช้สมาร์ทโฟนที่เปลี่ยนแปลงไปในการดูหนัง ละคร กีฬา ซีรีส์ MV และรายการต่างๆ ออนไลน์บนสมาร์ทโฟน โดยพบว่าปัจจุบันปริมาณการโหลดเอนเตอร์เทนเมนต์ แอปพลิเคชัน พุ่งขึ้นสูงมาก
จุดเด่นของอินฟินิกซ์ทุกรุ่นอยู่ที่หน้าจอใหญ่ คุณภาพความละเอียดสูงในระดับ HD และ Full HD ระบบเสียงไดเรคสเตอริโอ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 3,000 mAh ขึ้นไป ทำให้ใช้งานได้นานตลอดวัน ไม่ต้องพก แบตสำรองเพื่อการใช้งานระหว่างวัน
โดยอินฟินิกส์จัดโปรโมชันรับฟรีเน็ต ดูทรูไอดี ให้ผู้ใช้เชียร์บอล ดูหนังฟังเพลงและช่องทีวีออนไลน์ ได้อย่างจุใจ นาน 12 เดือน จำนวน 600 GB มูลค่า 2,700 บาท และอีกโปรโมชันที่ไม่เหมือนใครคือ ฟรีประกันจอแตกทุกรุ่น นาน 1 ปี
โดยในปี 2562 นี้จะมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ถึง 6-8 รุ่น ครอบคลุมความต้องการในทุกเซกเมนต์ ทั้ง S-Series, Smart-Series, Hot-Series และ Note-Series ในระดับราคา 2,000 - 8,000 บาท โดยเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ ที่มีฐานลูกค้ากว้างที่สุดในช่วงราคา 2,000 - 4,000 ซึ่งเป็นช่องว่างในการทำตลาดสมาร์ทโฟน ในปัจจุบัน โดยอินฟินิกซ์ ได้ครองใจกลุ่มเป้าหมายในกลุ่มนี้อย่างเหนี่ยวแน่น และรุ่นเรือธงอีก 1-2 รุ่น ที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการแรมระดับสูง และรุ่นที่รองรับการใช้งานร่วมกับปากกา โดยตั้งเป้ายอดจำหน่าย 400,000 เครื่อง ทั่วประเทศ นับเป็นเป้าหมายเติบโต 100%จากปีที่ผ่านมา
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ อินฟินิกซ์ Smart 3 Plus ซึ่งจะวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 6.2 นิ้ว แบบดร็อปน็อช (หยดน้ำ) ที่ถือเป็นอาวุธสำคัญ ทำตลาดในราคา 3 พันกว่าบาท
และอินฟินิกซ์ S4 ที่มาพร้อมกับความสุดยอดของกล้องหน้า ที่เป็นเอกลักษณ์ของ S-Series ขนาด 32 ล้านพิกเซล กล้องหลังถึง 3 ตัว การใช้ AI ในการประมวลผลและปรับแต่งให้การถ่ายภาพง่ายและสวยงามมากยิ่งขึ้น Ram ที่ให้มามากถึง 6 GB ตอบสนองการใช้งานแบบ Multitasking การใช้งาน 2 หน้าจอ รวมไปถึงการเล่นเกม โดยคาดว่าก็จะทำให้อินฟินิกส์สามารถขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการในการใช้งานในระดับสูง ทำตลาดในราคา 6 พันกว่าบาท โดยมีรุ่น HOT 7 ที่เปิดตัวเดือนกุมภาพันธ์ทำตลาดในราคา 3,190 บาท
อินฟินิกส์มองว่าการรับประกันจอแตก 1 ปีเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่ทำให้อินฟินิกส์ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน มีการแอดไลน์ไอดีกับลูกค้า เพื่ออำนวยความละดวกในการไปรับเครื่องจากลูกค้ามาส่งซ่อมโดยรับการซ่อมเสร็จส่งคืนภายใน 7วัน
“การไม่มีศูนย์บริการตามต่างจังหวัดไม่ได้เป็นปัญหา เพราะเรามีเคอร์รี่ที่จะรับสินค้ามาส่งซ่อมได้ตลอดเวลา”
ในด้านการบริหารช่องทางการจัดจำหน่าย อินฟินิกซ์ ไทยแลนด์ แต่งตั้งให้ บริษัท เทเลทัช จำกัด ซึ่งคร่ำหวอดในตลาดมือถือมามากกว่า 20 ปี เป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่าย โดยปัจจุบันสามารถเปิดจุดจำหน่ายได้แล้วกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ และตั้งเป้าขยายที่ 4,000 แห่ง ในปี 2562
สำหรับแผนการตลาดในปี 2562 นี้ได้วางงบประมาณไว้ 50 ล้านบาท (จาก ปี 61 ที้ประมาณ 30 ล้านบาท) เพื่อครอบคลุมกิจกรรมการตลาดอย่างครบวงจร ทั้งโฆษณา ประชาสัมพันธ์ อีเว้นท์ สื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดีย รวมถึงรายการส่งเสริมการขายเต็มรูปแบบ โดยมีแผนร่วมกับสื่อทีวีดิจิตอลช่องเวิร์คพอยท์ ในการโปรโมทแบรนด์อินฟินิกซ์ในปีนี้อีกด้วย
สุรพงษ์ พงษ์พิสุทธา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เทเลทัช จำกัด กล่าวว่าการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ส่วนใหญ่เน้นแข่งขันเรื่องราคา ทำให้เสียราคา มีการตัดราคากันเอง แต่ เทเลทัช เน้นให้ตัวแทนทุกรายทำราคาในระดับเดียวกัน ไม่ว่าจะซื้อจากตัวแทนรายไหนก็จะไม่มีการตัดราคากันเด็ดขาด
“เรามีความชัดเจนที่จะไม่เห็นความจำเป็นของการมีพรีเซ็นเตอร์ หรือศูนย์บริการ เพราะสินค้าเราดีแทบไม่มีปัญหา จะมีแต่เรื่องจอแตก ที่เราจะมีบริการไปรับเครื่องมาซ่อมถึงที่บ้าน”
อินฟินิกส์เปิดตัวทำตลาดในเมืองไทยตั้งแต่ปี 2560 มียอดขายรวมประมาณ 2 แสนเครื่อง ภายใต้การทำตลาด 7 รุ่น โดยภายในปีนี้จะมีสินค้าเข้ามาทำตลาดอีก ประมาณ 8 รุ่นสินค้าที่นำเสนอเน้นการตอบโจทย์ความต้องการสมาร์ทโฟน จอใหญ่ แบตอึด คุณภาพดี เสริมความมั่นใจด้วยบริการหลังการขายที่สะดวกและรวดเร็ว พร้อมกับเคมเปญฟรีประกันจอแตกที่เป็นจุดขายหลัก จึงได้รับความไว้วางใจจากตัวแทนจำหน่าย และลูกค้าอย่างรวดเร็ว และด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งยังจับมือกับพันธมิตร อาทิ ทรูมูฟเอช เพื่อนำเสนอสิทธิประโยชน์เพิ่มให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
โดยตั้งเป้าว่า ในปี 62 จะมียอดขายเติมขึ้นเท่าตัวคือประมาณ 4 แสนเครื่อง พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งตลาดที่มีอยู่ประมาณ 1% ให้เพิ่มมากขึ้น