xs
xsm
sm
md
lg

จาก "Mobile Expo" สู่แพลตฟอร์มรถไฟฟ้า (Cyber Weekend)

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

โอภาส เฉิดพันธุ์
นับเป็นเวลา 1 ปี จากการที่ เอ็ม วิชั่น (MVP) มองเห็นอนาคตของวงการสมาร์ทโฟนที่จะเกิดขึ้นภายในช่วงเวลา 2-3 ปีข้างหน้า จากการที่ตลาดสมาร์ทโฟนเริ่มอิ่มตัว ผู้บริโภคในประเทศไทยส่วนใหญ่มีสมาร์ทโฟน พร้อมไปกับการเชื่อมต่อ 3G 4G ใช้งานกลายเป็นเรื่องปกติ

ในมุมของการเป็นผู้จัดงานมหกรรมโทรศัพท์มือถือ "Thailand Mobile Expo" ทำให้ เอ็ม วิชั่น ต้องออกตัวก่อนที่ผู้บริโภคจะรับรู้ เพื่อปรับรูปแบบงานให้เข้ากับยุคใหม่อย่างทันท่วงที เพราะรู้อยู่แล้วว่าการจัดงานให้แบรนด์มาจำหน่ายมือถือ หรือเทรดแฟร์เพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอ

โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลถึงสภาพการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนเวลานี้ว่า เป็นตลาดที่แข่งขันกันดุเดือดมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา จากการบุกตลาดของแบรนด์จีนไม่ว่าจะเป็นหัวเว่ย ออปโป้ วีโว่ และเสียวมี่ ทำให้ตลาดเกิดการแข่งขันต่อเนื่อง

เพียงแต่ว่าด้วยการที่ผู้บริโภคเริ่มอิ่มตัว โดยเฉพาะในตลาดกลุ่มไฮเอนด์ ที่พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากเดิมจะเปลี่ยนเครื่องรุ่นใหม่ทุก 12-18 เดือน กลับลากยาวมาเป็น 24 เดือน หรือ 2 ปี ทำให้การแข่งขันในตลาดกลุ่มนี้ ทำได้ยากมากขึ้น

สิ่งที่เกิดขึ้นคือแต่ละแบรนด์ต่างโฟกัสไปที่กลุ่มระดับกลาง-บน ซึ่งเป็นช่วงราคาที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มองหาแบรนด์ที่ให้ความคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด จนทำให้ส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมากที่สุด


นอกจากนี้ ยังมองว่า สถานการณ์ตลาดสมาร์ทโฟนอิ่มตัวน่าจะเกิดขึ้นไปอีกสักพักจนกว่าจะมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาในยุคของ 5G ที่ผู้บริโภคบางกลุ่มจะเริ่มกลับมาให้ความสำคัญกับการซื้อเครื่องรุ่นใหม่ ที่รองรับการใช้งาน 5G แต่ก็จะไม่เกิดภาวะรุนแรงเหมือนช่วงเปลี่ยนผ่านจาก 2G มา 3G 4Gประกอบกับในงานครั้งนี้ จะเป็นช่วงปล่อยของของแบรนด์ผู้ผลิตมือถือ ที่นำเครื่องรุ่นเก่ามาลดราคา เพื่อเตรียมรับกับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่จะทยอยเปิดตัวในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ทำให้เชื่อว่าการแข่งขันลดราคา และแจกของแถมในงานครั้งนี้จะดุเดือดกว่าหลายๆครั้งที่ผ่านมา

ด้วยเหตุนี้ จึงสอดคล้องกับการที่ Thailand Mobile Expo เริ่มนำเสนอรูปแบบของงาน "Mobile Related Expo" ขึ้นมา เพื่อให้เกิดทางเลือกของทั้งแบรนด์ และผู้บริโภคในการเข้าถึงเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เกิดขึ้น เพื่อให้การใช้ชีวิตสะดวกขึ้นโดยจะเห็นได้ว่า ในช่วงการจัดงาน 2-3 ครั้งที่ผ่านมา จะเริ่มมีการสอดแทรกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นเข้ามาพ่วงด้วย ไม่ได้มีแค่การจำหน่ายสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตเพียงอย่างเดียว แต่ขยายไปถึงรถยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์ IoT ระบบสมาร์ทโฮม โดรน และแก็ตเจ็ทต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น

***ประเดิมด้วยรถ EV ใส่ซิมการ์ด

หนึ่งในขาที่ขยายออกไปของ Mobile Related Expo คือการจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้าต่างๆ ที่เริ่มมีการนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เพียงแต่ว่าช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทย ยังไม่ได้เกิดการตื่นตัวในเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากนัก จนมาเจอเรื่องของฝุ่น PM 2.5 ในช่วงเดือนที่ผ่านมา

ส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้า เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้น จากกรณีศึกษาที่ในประเทศจีน หลายๆเมืองที่มีปัญหาภาวะสภาพอากาศเลวร้าย ทำให้รถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า กลายเป็นพาหนะที่ถูกใช้สำหรับการเดินทางหลักในประเทศจีน ประกอบกับที่ผ่านมา MVP เล็งเห็นโอกาสของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV : Electric Vehicle) ทำให้มีแนวคิดในการจัดงาน Bangkok EV Expo ขึ้นมาเพื่อจัดแสดงรถไฟฟ้า โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากครั้งที่ผ่านมา จึงเตรียมที่จะจัดงานใหญ่ของ EV โดยเฉพาะขึ้นมาในช่วงกลางปีนี้

พร้อมไปกับการแบ่งพื้นที่ส่วนหน้างานของ Thailand Mobile Expo 2019 มาประเดิมแนะนำแพลตฟอร์มยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle Connectivity Platform) ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่าง 3 พันธมิตรสำคัญคือ dtac FSMART และ MVP

โดยทาง MVP จะเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มกลางให้ผู้จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า สามารถนำรถเข้ามาเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มดังกล่าว โดยตามปกติรถไฟฟ้าแต่ละรุ่นจะมี Dashboard ไว้สั่งงานภายในอยู่แล้ว เมื่อเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มนี้ก็จะทำให้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อไว้ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆของรถได้

ส่วนทางฝั่งของดีแทค จะให้บริการซิมการ์ดที่ไว้ติดตั้งในรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อใช้ในการส่งผ่านข้อมูลต่างๆ ทาง FSMART หรือที่รู้จักกันคือตู้บุญเติม ก็จะเป็นผู้ให้บริการในส่วนของจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะเริ่มทยอยติดตั้งให้บริการเพิ่มเติมจากที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานของผู้บริโภคมากที่สุด


ทั้งนี้ มีโอกาสที่ภาครัฐจะให้ความสำคัญกับการลดภาษีนำเข้ารถไฟฟ้า หลังจากที่ประเทศไทย เจอปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพื่อเป็นอีกตัวช่วยในการลดมลภาวะ พร้อมกับออกนโยบายสนับสนุนให้เกิดการใช้งานที่แท้จริง

***ส่องธุรกิจ MVP

ปัจจุบัน นอกเหนือไปจากงาน Thailand Mobile Expo และงาน Bangkok EV Expo ที่กำลังจะจัดขึ้นแล้ว MVP ยังมีธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมงานวิ่งในต่างจังหวัด ที่กลายเป็นว่าปัจจุบันทุกๆ สัปดาห์จะมีการจัดขึ้นพร้อมๆกัน ต่อเนื่องเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นทั้งปี

ประกอบกับได้มีการลงทุนเพิ่มในส่วนของ MV CARAVAN บริการที่พักรถคาราวานที่นำไปใช้กับกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงเปิดให้ผู้จัดกิจกรรมคอนเสิร์ต หรือสถานที่พักผ่อน เช่าขบวนรถไปใช้งาน เช่นเดียวกับกีฬาอีสปอร์ต ที่กลายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่เติบโตในเวลานี้ ทาง MVP ก็จะเข้าไปร่วมสนับสนุนในการจัดกิจกรรมการแข่งขันในประเทศ โดยมีแผนที่จะเป็นพันธมิตรกับทางผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเร็วๆนี้

ความท้าทายที่เกิดขึ้นในเวลานี้ จึงไม่ได้หยุดอยู่ที่ตลาดโทรศัพท์มือถืออีกเพียงอย่างเดียว แต่ยังขยายธุรกิจไปจับเทรนด์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ทั้งเรื่องของสุขภาพ การท่องเที่ยว เกม และรถยนต์ไฟฟ้า ที่เชื่อว่าจะสามารถเติบโตได้อีกมากในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้




กำลังโหลดความคิดเห็น