อาลีบาบา (Alibaba) ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจีน รับสภาพการเติบโตชะลอตัวในไตรมาสที่ผ่านมา โยนบาปโทษพิษเศรษฐกิจในประเทศจีนชะลอตัวเช่นเดียวกับแบรนด์อื่น
ตลอด 3 เดือนปลายปี 2018 ซึ่ง Alibaba ถือเป็นไตรมาส 3 ปีการเงิน 2019 บริษัทพบว่ามีรายรับเพิ่มขึ้นเป็น 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้จะคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 41% จากปีที่แล้ว แต่ก็ถือเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016
Joe Tsai ผู้บริหาร Alibaba อธิบายว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสดังกล่าวเป็นผลมาจากการเติบโตของหน่วยธุรกิจ e-commerce หลักของบริษัท แต่เป็นธุรกิจเน้นบริการในท้องถิ่นที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ โดยร่วมมือกับบริษัท Koubei และ Ele.me นอกจากนี้ ยังมีแรงดันจากธุรกิจคลาวด์ที่เติบโตร้อนแรง เพราะความต้องการสูงจากตลาดจีน (มากกว่า 50% ของยอดขายคลาวด์ Alibaba มาจากจีน)
รายได้จากธุรกิจหลักของ Alibaba, โครงการใหม่ที่แตกขยายไลน์จากธุรกิจเดิม (new initiatives) ซึ่งได้แก่บริการในท้องถิ่น และบริการคลาวด์คอมพิวติ้ง มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 40% 73% และ 84% ตามลำดับ เบื้องต้น Alibaba มั่นใจว่า รายได้ในอนาคตจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ เพราะการเปิดให้บริการระบบแนะนำผู้ใช้แบบใหม่ และเครื่องมือค้นหาเวอร์ชันปรับปรุงที่ Alibaba เพิ่งเปิดตัวเมื่อไตรมาสที่แล้ว จุดนี้บริษัทไม่เปิดเผยแผนการเปิดตัวระบบใหม่ดังกล่าว แต่มั่นใจว่า การออกแบบใหม่จะเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และซื้อสินค้าในอนาคต
อย่างไรก็ตาม Alibaba ปรับลดเป้าหมายรายได้ประจำปีที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้วลง 4-6% เนื่องจากจีนเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ จุดนี้ผู้บริหาร Alibaba เรียกความมั่นใจจากนักลงทุนว่าการใช้จ่ายภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง และความตึงเครียดทางการค้านั้น ไม่ส่งผลมากนักเนื่องจากธุรกิจของ Alibaba ขึ้นอยู่กับยอดขายในบ้านเกิดเป็นหลัก
สถิติที่น่าสนใจจากผลประกอบการ Alibaba ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา คือ ลูกค้าใหม่รายเดือน 33 ล้านรายมีการซื้อสินค้าจาก Alibaba ผ่านอุปกรณ์พกพา ทำให้จำนวนลูกค้า Alibaba บนโทรศัพท์มือถือเพิ่มสูงเป็น 699 ล้านแล้ว โดยผู้ใช้ใหม่จำนวนมากมาจากเมืองรอง และพื้นที่ห่างไกล สะท้อนชัยชนะของ Alibaba ในการบุกตลาดใหม่ด้วยอินเตอร์เฟซที่ง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ครั้งแรก
