กลุ่มสามารถ มองแนวโน้มธุรกิจปี 2019 จะสามารถพลิกฟื้นขึ้นมาได้ หลังในช่วงปีที่ผ่านมา ปรับองค์กรรับยุคดิจิทัลเรียบร้อยแล้ว ภายใต้แนวคิด “สร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืน” ที่จะสามารถรักษาการเติบโตของธุรกิจได้ทุกด้าน ด้วยเป้ารายได้รวมปีนี้ 2 หมื่นล้านบาท
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มสามารถ ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี และความต้องการของผู้บริโภค
“ที่ผ่านมา ได้มีการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ๆ ที่จะสร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่องในปีนี้เป็นต้นไป ทำให้ปีนี้จะเน้นการรุกธุรกิจภายใต้แนวคิด SAMART…Strong & Sustain ที่จะพลิกฟื้นองค์กรขึ้นมาให้แข็งแกร่ง และยั่งยืน”
โดยธุรกิจใหม่ที่เริ่มในช่วงปีที่ผ่านมาอย่าง สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SDC ที่ตั้งเป้ารายได้ 4 พันล้านบาท ในปีนี้ จากธุรกิจ Digital Network ทั้งโครงข่ายวิทยุระบบ CAT DTRS รวมถึงธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น BUG EDT และ i-Sport ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
ส่วนสายธุรกิจ ICT Solutions ที่ในปีนี้มีโอกาสนำสถิติรายได้สูงสุด จากเป้าหมาย 1 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อยู่กว่า 1.4 หมื่นล้านบาท จากสัญญาโครงการต่างๆ 118 โครงการ
ไม่ว่าจะเป็นโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกว่า 7,000 ล้านบาท โครงการของกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ 6,000 ล้านบาท และโครงการของบริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กว่า 1,500 ล้านบาท
รวมถึงโครงการติดตั้งและพัฒนาระบบสารสนเทศธุรกิจหลัก หรือ Core Business Process System ให้กับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME Bank มูลค่า 579 ล้านบาท
ขณะที่สายธุรกิจ U-Trans ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 4,400 ล้านบาท หลังจากมีการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อเตรียมนำ บริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด (CATS) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พร้อมกับการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีการสร้างบริการ เพื่อรุกในตลาดใหม่ในกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ ภายใต้บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO อย่างการนำบริการ Voice AI, Chatbot มาให้บริการสอบถามข้อมูลผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ รวมถึงเป็น Strategic Partner กับบริษัท HANKOOK Corporation ผู้นำในธุรกิจ Contact Center ครบวงจรในประเทศเกาหลีใต้ ด้วยการแลกเปลี่ยนแนวคิดการบริหารงาน การพัฒนาเทคโนโลยี และจับมือกันนำเสนอบริการใหม่เข้าสู่ตลาด ด้วยเป้าหมายรายได้ราว 1,000 ล้านบาท
สำหรับ 2 ปัจจัยหลักที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโต มาจาก 1.ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ปีนี้น่าจะดีกว่าปีก่อน จากการท่องเที่ยว และการลงทุนจากต่างประเทศที่ต้องการลงทุนในไทย เพื่อเชื่อมโยงการค้าระหว่าง CLMV รวมถึงถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้น และมีรัฐบาลใหม่ ทุกอย่างจะคลี่คลาย
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ทวีความรุนแรงขึ้น อาจมีผลต่อเศรษฐกิจโลก และอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยได้ 2.การกระตุ้นของภาครัฐ ในร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงนโยบาย Thailand 4.0 ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมด้านเทคโนโลยี และดิจิทัล เพื่อการพัฒนาประเทศเป็นหลัก
“เรากำลังเข้าสู่ยุค 5G การปรับตัวให้ทันต่อกระแสความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว คือ กุญแจสำคัญของการอยู่รอดในโลกธุรกิจ กลุ่มสามารถ ได้เตรียมความพร้อม และมีการปรับตัวมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริหารธุรกิจ การพัฒนาคน และการพัฒนาเทคโนโลยี แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายเท่าไรก็ตาม บริษัทจะยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความมั่นคง และเติบโต”