ไปรษณีย์ไทยเปิดบริการเก็บเงินปลายทาง จับมือธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ผ่านระบบสมาร์ทเพย์เมนต์เก็บเงินปลายทาง สำหรับผู้ใช้บริการอีเอ็มเอสในประเทศ โดยที่ผู้ส่งจะได้รับเงินโอนภายใน 2 วัน หลังจากสิ่งของถึงผู้รับ ตลอดจนยังสามารถชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน และยังมั่นใจทุกขั้นตอนด้วยระบบเอสเอ็มเอสแจ้งเตือนผู้ส่ง และผู้รับ พร้อมเช็กสถานะสิ่งของได้ตลอดเส้นทาง คาด 3 เดือนแรก ยอดธุรกรรมทะลุ 2.5 แสนรายการ
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย ได้เปิดให้บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) สำหรับผู้ใช้บริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ในประเทศ ผ่านแอปพลิเคชัน Wallet@POST ซึ่งผู้รับสินค้าสามารถเลือกชำระได้ 3 รูปแบบ คือ เงินสด โมบายแบงกิ้ง (Mobile Banking) และชำระผ่านแอป Wallet@POST โดยกำหนดวงเงินเรียกเก็บสูงสุด 3 หมื่นบาทต่อชิ้น โดยที่ผู้ส่งจะได้รับเงินโอนผ่านแอปภายใน 2 วันห ลังจากสิ่งของส่งถึงผู้รับ และชำระเงินเรียบร้อย และจะมีเอสเอ็มเอส (SMS) แจ้งผู้ส่ง และผู้รับ เมื่อมีการชำระเงินแล้ว
“บริการเก็บเงินปลายทาง เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2561 พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมเก็บเงิน 3% ของมูลค่าสินค้า จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 โดยในช่วงเดือนแรก มีจำนวนธุรกรรมมากกว่า 1 แสนรายการ และคาดว่าตลอดช่วง 3 เดือนแรกของการเปิดให้บริการ จะมีจำนวนธุรกรรมมากกว่า 2.5 แสนรายการ”
บริการดังกล่าวได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยระบบของ 2C2P ผู้นำในการให้บริการ Online Payment แบบครบวงจรในไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อตอบสนองผู้ใช้บริการในด้านธุรกรรมทางการเงิน ให้สามารถ “เติม โอน ถอน จ่าย...ง่ายแค่ปลายนิ้ว” โดยมีพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ ธนาคารชั้นนำของประเทศ คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นธนาคารหลักในการเชื่อม Wallet@POST ไปยังบัญชีธนาคารของลูกค้า ทำให้สามารถโอนเงินจาก Wallet@POST เข้าบัญชี SCB ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ขณะที่การโอนเข้าบัญชีธนาคารอื่น หรือรับเงิน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ โดยมีค่าธรรมเนียมครั้งละ 20 บาท
ทั้งนี้ การพัฒนาบริการเก็บเงินปลายทางในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของไปรษณีย์ไทย ในฐานะผู้ให้บริการพัสดุเก็บเงินปลายทาง (พกง.) รายแรกเป็นเวลานาน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้ค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากขึ้น โดยในอนาคต ไปรษณีย์ไทย มีแผนขยายให้ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการดังกล่าว คู่กับบริการส่งประเภทอื่นได้ และภายในปี 2562 ไปรษณีย์ไทย ยังเตรียมพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ เพื่อรองรับการใช้งานในด้านอื่นๆ มากขึ้น อาทิ การชำระค่าภาษีศุลกากรสิ่งของส่งไปรษณีย์ขาเข้า ค่าสาธารณูปโภค รวมถึงค่าสินค้าและบริการจากร้านค้าที่ร่วมรายการ เป็นต้น