ซัมซุง ปรับนโยบายการทำตลาดสมาร์ทโฟนใหม่ ประเดิมด้วยการปฏิเสธเข้าใช้พื้นที่บูธแยกภายในงาน ‘ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป’ โดยระบุว่าจะกลับมาเข้าร่วมเมื่อพร้อม ส่วนพื้นที่ของซัมซุงเดิมภายในงาน Studio7 เตรียมนำผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลเข้ามาทำตลาด และเป็นการขยายพื้นที่ของหัวเว่ยแทน
นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นภายในงาน “ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2019” ที่จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 7-10 กุมภาพันธ์นี้ ที่ไบเทค บางนา ว่าจะเป็นปีแรกที่ทางซัมซุง ไม่ได้มาร่วมออกบูทแยกภายในงาน
“พื้นที่บูทแยกของซัมซุง จะถูกแทนที่ด้วย Studio 7 ที่เตรียมนำสินค้าของแอปเปิล เข้ามาจำหน่ายภายในงานแทน และบางส่วนจะเป็นการขยายพื้นที่บูทของหัวเว่ย ที่เชื่อว่าจะกลายเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนหลักภายในงานนี้”
ส่วนเหตุผลที่ทางซัมซุง ไม่มาออกงานในครั้งนี้ โอภาส ระบุว่าเกิดจากการปรับเปลี่ยนหัวเรือใหญ่ ซึ่งเป็นผู้บริหารจากเกาหลี ที่มาดูแลตลาดประเทศไทย ที่กำลังมีการปรับแนวนโยบาย และแนวทางการทำตลาดอยู่ ทำให้ยังไม่พร้อมร่วมออกงานใดๆ ในช่วงนี้ ส่วนงานในครั้งต่อๆ ไป จะตัดสินใจในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวแบรนด์ซัมซุง จะไม่ได้มาออกงาน แต่ภายในงานก็จะมีสมาร์ทโฟนของซัมซุง จำหน่าย ตามบูทตัวแทนดีลเลอร์อย่าง เจมาร์ท, ทีจีโฟน, บิ๊กซี และ พาวเวอร์ บาย อยู่เช่นเดิม และทางซัมซุง ยืนยันว่า จะมีการทำโปรโมชันพิเศษไม่ต่างจากครั้งที่ผ่านๆ มา
แหล่งข่าวจากไทย ซัมซุง ให้ข้อมูลว่า แม้ว่าทางซัมซุง จะไม่ได้เข้าร่วมเพื่อออกบูทแยกภายในงาน แต่ก็จะร่วมมือกับดีลเลอร์ทุกรายที่เข้าร่วมงาน เพื่อนำสมาร์ทโฟนเข้าไปจำหน่ายเช่นเดิม เรียกได้ว่าเหมือนเดิมทุกอย่างเพียง แต่ไม่มีบูทแยกเท่านั้น
ในอีกมุม จึงกลายเป็นความท้าทายของ เอ็ม วิชั่น ในการจัดงานครั้งนี้ นอกเหนือไปจากปัจจัยหลัก คือ การย้ายสถานที่จัดงานจากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มาเป็นศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เป็นครั้งแรก และจะใช้ต่อเนื่องไปในช่วง 3 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ เอ็ม วิชั่น ได้เริ่มการปรับภาพงาน ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป ที่เดิมจะเน้นการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก ให้กลายเป็นงานจำหน่ายสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มของสินค้า IoT และรถยนต์ EV ด้วย