xs
xsm
sm
md
lg

.life จัดกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ไอทีใหม่ ดึง IoT เป็นแกนหลัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


'.life' ปรับโฉมครั้งใหญ่ หันจับตลาดดิจิทัลไลฟ์สไตล์ รับยุค IoT เต็มตัว มั่นใจเป็นร้านค้าที่มีสินค้าไลฟ์สไตล์ เทคโนโลยีหลากหลายมากที่สุดในอาเซียน กางแผนขยายหน้าร้านเป็น 30 สาขาภายในปี 2020 หลังเห็นกำลังซื้อในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นายปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด กล่าวถึงการปรับโฉมหน้าร้าน .life (ดอตไลฟ์) จากเดิมที่เป็นร้านขายอุปกรณ์เสริมมือถือ และคอนซูเมอร์แก็ดเจ็ต ให้กลายเป็นร้านดิจิทัลไลฟ์ ด้วยการนำสินค้า IoT เข้ามาเสริม รวมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมต่างๆ

“คอนเซ็ปต์ของร้านที่เปลี่ยนเป็นดิจิทัลไลฟ์ของ .life ถือเป็นรูปแบบใหม่ของวงการ ที่ไม่ใช่แค่แห่งแรกในไทย แต่รวมถึงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย ที่มีการรวบรวมสินค้าไลฟ์สไตล์เทคโนโลยีที่หลากหลาย”

โดยทางคอปเปอร์ไวร์ด ประเดิมการปรับโฉมสู่ปีที่ 10 ของร้านค้า .life ด้วยการเปิด dotlife Flagship Store ขึ้นบริเวณชั้น 4 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 310 ตร.ม. ด้วยงบในการลงทุนกว่า 15 ล้านบาท

ภายในจะมีการแบ่งโซนใหม่อย่าง Home ที่จะรวบรวมอุปกรณ์เครือข่าย (Network) อุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ใช้สั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน เพิ่มพื้นที่ส่วนของอุปกรณ์สมาร์ทวอตช์ ตามเทรนด์สุขภาพที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ไปจนถึง Connected Toys ที่เป็นโซนรวมของเล่นไฮเทค อุปกรณ์เสริมอื่นๆ อย่างลำโพง, หูฟัง, เคส, แอ็กชันคาเมรา, เครื่องเกม PS4, อุปกรณ์ VR ที่รวมๆ กันแล้วมากกว่า 200 แบรนด์ เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่มีอยู่ราว 120 แบรนด์

สำหรับแผนในอนาคต คอปเปอร์ ไวร์ด มีแผนจะปรับโฉมร้าน .life ที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 19 สาขา ให้เปลี่ยนมาเป็นดิจิทัลไลฟ์ทั้งหมด โดยเริ่มจากที่เซ็นทรัล เวิลด์ และสาขาใหม่ที่ไอคอน สยาม ตามด้วย สยามพารากอน ในช่วงต้นปี พร้อมแผนขยายสาขาเพิ่มเติมเป็น 30 สาขาภายในปี 2020

“คอนเซ็ปต์ร้านดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในร้าน .life ตลอดช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยขนาดของร้านที่เหมาะสมจะอยู่ราว 100-300 ตร.ม. ส่วนสินค้าที่นำไปจัดแสดงให้ได้ทดลองใช้ก็จะขึ้นอยู่กับพื้นที่ และจะมีบริการให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากหน้าร้าน เพื่อจัดส่งไปที่บ้านเพิ่มเติมด้วย”

ทั้งนี้ ปรเมศร์ คาดการณ์ว่า รายได้รวมของร้าน .life ในปีนี้ น่าจะอยู่ที่ราว 800 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมามากกว่า 20% โดยเป็นผลมาจากการที่สินค้าในกลุ่มพรีเมียม จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ เพราะลูกค้าจะมองหาจากคุณภาพของสินค้า และความน่าเชื่อถือของร้านค้าเป็นหลัก



กำลังโหลดความคิดเห็น