“พล.อ.สุรพงษ์” ประธานบอร์ดทีโอที เก่งที่สุดในปฐพี!!

สุดยอดผลงานแห่งปี “พล.อ.สุรพงษ์” ประธานบอร์ดทีโอที ควงที่ปรึกษาคู่ใจ “เสธ.ต้อย-พล.อ.พัฒนพงศ์” แต่งตั้ง “อนุรุต” กลับมาเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจขายและบริการลูกค้านครหลวง ทั้งๆ ที่เคยขึ้นเวทีขับไล่ “มนต์ชัย” กรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมชักชวนพนักงานรวมพลประท้วง ที่ภาพและเสียงปรากฏบนคลิปวิดีโอสนั่นเมือง จนบอร์ดต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอด สั่งแขวน พร้อมตั้งกรรมการสอบ แต่พอเรื่องเงียบไม่ต้องสนใจผลสอบ ไม่ต้องสนใจเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ระเบียบวินัยในการทำงาน ทุบทิ้งตรรกะที่เคยยึดถือในสถาบันทหาร ทำสิ่งที่คาดไม่ถึงเหนือกว่าบอร์ดทุกชุดในอดีต พร้อมแผนบันได 3 ขั้น ยึดทีโอที

แหล่งข่าวจากบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานและผู้บริหารในทีโอที ต่างแสดงอาการนิยมชมชอบและยกย่อง พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ประธานบอร์ด พร้อม “เสธ.ต้อย” พล.อ.พัฒนพงศ์ องอาจอิทธิชัย ที่ปรึกษาคู่ใจว่ามีหลักการบริหารงาน บริหารบุคคลที่เยี่ยมยอดเหนือกว่าบอร์ดการเมืองชุดต่างๆ ที่เคยมีมา โดยเฉพาะเมื่อมีคำสั่งแต่งตั้งผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา

เนื่องจากประธานบอร์ดพร้อมที่ปรึกษาคู่ใจ ไม่หวั่นไหวกับเสียงนกเสียงกาที่ร้องอื้ออึง ยึดหลักแบ่งแยกแล้วปกครอง เพราะกล้าที่จะแต่งตั้ง “อนุรุต อุทัยรัตน์” กลับมาเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจขายและบริการลูกค้านครหลวง โดยไม่แคร์ว่า รองกรรมการผู้จัดการใหญ่คนนี้เคยขึ้นเวทีขับไล่ “มนต์ชัย หนูสง” กรรมการผู้จัดการใหญ่ รวมพลังกับสหภาพฯ ของ “พงศ์ฐิติ พงศ์ศิลามณี” นัดรวมพลพนักงานมาขับไล่ไสส่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ หลังความเห็นไม่ตรงกันอย่างรุนแรงกรณีจัดตั้งบริษัทลูก NBN หรือบริษัท โครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ จำกัด

“ตอนนั้นบอร์ดสั่งแขวนอนุรุต เป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจภาครัฐ จากเดิมที่เป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจโทรศัพท์ประจำที่และบรอดแบนด์ เพราะการขึ้นเวทีพูดขับไล่มนต์ชัย มีหลักฐานปรากฏชัดเจนในคลิปที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งบอร์ดสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า”

แต่ไม่น่าเชื่อว่าด้วยฝีไม้ลายมือในการทำงานของ “อนุรุต” ที่ส่วนตัวยังเดินหน้าฟ้อง “มนต์ชัย” ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ และขณะที่ผลสอบฟอกขาวยังไม่ปรากฏออกมาสู่สาธารณะว่ามีความผิดหรือไม่ อย่างไร ในการขับไล่กรรมการผู้จัดการใหญ่ รวมกับแรงหนุนจาก “พงศ์ฐิติ” ประธานสหภาพฯ ที่ถึงกับออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ดึงยอดฝีมืออนุรุต กลับมาครองตำแหน่งเดิม โดยไม่สนใจว่า ใครจะตั้งคำถามว่าเคยร่วมวงขับไล่กรรมการผู้จัดการใหญ่มาด้วยกัน แล้วยังกล้ามาสนับสนุนอีก

หลักการปกครองบริหารบุคคลเยี่ยงนี้ของประธานพร้อมที่ปรึกษาคู่ใจถือเป็นบรรทัดฐานที่สำคัญของทีโอที ที่ต้องปฏิบัติสืบทอดต่อไปในภายภาคหน้า หากมีคนไม่พอใจกรรมการผู้จัดการใหญ่ ก็สามารถเปิดเวทีไฮปาร์กขับไล่ ไม่ต้องกลัวถูกปลด เพราะประธานกับที่ปรึกษาคู่ใจสามารถทำให้กลับมาครองตำแหน่งได้ โดยไม่จำเป็นต้องสนใจว่าจะทำงานต่อไปได้อย่างไร เพราะยึดหลักสร้างให้เกิดความแตกแยกแล้วเลือกปกครองตามที่ถนัด

มีข้อพิสูจน์ที่ชี้ชัดให้เห็นว่า บอร์ดที่มาจากอำนาจพิเศษไม่ได้วิเศษวิโสเหนือกว่าบอร์ดการเมืองที่มักจะถูกป้ายอาจมให้แต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ยังกล้าทำสิ่งนอกขนบที่เคยปฏิบัติกันมา ไม่ว่าจะแขวนรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ทีเดียว 6-7 คน ไปนั่งตบยุงดื่มกาแฟกินเงินเดือนเป็นของว่าง การปรับโครงสร้างองค์กรยุบๆ แยกๆ แล้วกลับมาตั้งใหม่ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นสายงานฎหมาย ยุบสายงาน 3G แล้วตั้งใหม่เป็นธุรกิจสื่อสารไร้สาย หรือยุบสายงาน USO แล้วตั้งใหม่เป็นบริการโทรคมนาคมโดยทั่วถึงและอินเทอร์เน็ตภาครัฐ

ด้วยข้ออ้างทางวิชาการที่เข้มแข็ง อ้างเหตุผลต้องทำตาม คนร. หรือคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจบ้าง อ้างว่าใช้วิธีเมตรทริกซ์บ้าง อ้างว่า สถานการณ์เปลี่ยนไปบ้าง แต่เนื้อแท้จริง คือ ล้างบางเปลี่ยนขั้วอำนาจ หวังแต่งตั้งพวกพ้องที่ยอมกุมเป้าทำตามคำสั่ง ขณะที่พนักงานระดับล่างหัวหมุนกันเป็นแถว เพราะทำตัวตามบัญชาบอร์ดไม่ทัน

ในการแต่งตั้งผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ครั้งนี้ก็เช่นนั้น ว่ากันว่าเกิดการประลองกำลังกันของ 3 กลุ่ม อย่างบางมดโมเดล แจ้งวัฒนะโมเดล และศูนย์ราชการโมเดล ด้วยเป้าหมายที่แตกต่างกัน อย่างวางทายาทเชื้อสายคนของตัวเองไว้เพื่ออนาคตวันหน้า หรือพยายามหาหนังหน้าไฟ หาแพะมารับบาปโครงการที่กำลังจะถูกปรับวินาศสันตะโร แต่อย่างน้อยก็เพื่อช่วยองค์กร หรือร่วมในกระบวนการวิ่งการกุศลที่รายได้ไม่ได้สนับสนุนหน่วยงานไหนนอกจากตัวเอง และพวกพ้อง

นอกจากนี้ ในคำสั่งวันที่ 30 พ.ย. บอร์ดยังได้แต่งตั้ง มรกต เธียรมนตรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาองค์กร รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจขายและลูกค้าองค์กร เชาวน์ พันธ์รุ่งจิตติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจขายและบริการ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และรังสรรค์ จันทร์นฤกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจสื่อสารไร้สาย รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจขายและบริการภาคกลาง ภาคใต้และภาคตะวันออก

แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า เป้าหมายการแต่งตั้งครั้งนี้เพื่อรอการสรรหาระดับผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ที่มีความเหมาะสมมาเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ คำว่า “เหมาะสม” อาจหมายถึง คนที่หัวอ่อน ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ การจัดซื้อจัดหารู้ว่าต้องเลือกบริษัทไหน

แต่ที่สำคัญ หมากเกมนี้ คือ ยึดอำนาจในส่วนที่คุมกำลังทั่วประเทศ คือ อนุรุต คุมหน่วยธุรกิจขายและบริการลูกค้า นครหลวง ส่วนภูมิภาคทั่วประเทศก็จะมีรองกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่จากการสรรหา ที่ผ่านการเป่ากระหม่อมอยู่ในคอนโทรลเรียบร้อย ทั้งๆ ที่มีแผนการควบรวมกับบริษัท กสท โทรคมนาคม รออยู่เบื้องหน้า ก็เลือกที่จะไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น

ความปราดเปรื่องของบอร์ดชุดนี้ที่เห็นชัดเจน คือ ตอนแขวน 6-7 รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมยุบสายงาน อ้างว่าเป็นการปรับโครงสร้างไม่มีใครมีความผิด แต่การแต่งตั้งครั้ง 30 พ.ย. กลับตั้ง “อนุรุต” ที่มีความผิด มีชะนักติดหลังที่ไล่ผู้บังคับบัญชา แต่บอร์ดไม่สนใจ ตั้งมาคุมกำลังนครหลวง ขณะที่ตั้งอีก 3 รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ที่เคยสั่งแขวนครั้งอดีตกลับมาในสายงานที่ฟังแล้วได้แต่ยิ้มมุมปาก ไม่ว่าจะเป็นสายงานพัฒนาโครงการพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ สายงานเทคโนโลยีล้ำสมัย และสายงานบริการโทรคมนาคมโดยทั่วถึงและอินเทอร์เน็ตภาครัฐ

แทนที่จะไม่ต้องสรรหาใช้วิธีกระจายงานให้รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ประจำเหล่านั้นรับผิดชอบเพื่อรอการควบรวม แต่เลือกที่จะไม่ทำ

แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคม ยังเปิดเผยถึงเบื้องหลังโครงการเน็ตชายขอบ ที่ทีโอที ชนะประมูลจาก กสทช. ว่ามีเงื่อนงำอยู่เบื้องหลังมากมาย นอกจากเรื่องที่ส่งมอบงานไม่ได้ตามกำหนด ที่ค่าปรับเดินทุกวันจนถึงตอนนี้ อยู่ในระดับ 600-700 ล้านบาทแล้วนั้น บริษัทรับเหมา ซับคอนแทรกเตอร์ หลายรายก็มีความสัมพันธ์กับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่บางคน ที่สนิทแนบแน่นถึงระดับที่บอร์ดทีโอที ไม่เคยลงดาบโครงการนี้ ทั้งๆ ที่มีการส่งสัญญาณเตือนกัน 6-7 เดือนล่วงหน้าแล้วว่า โครงการนี้มีปัญหาแน่นอน

แต่ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ จากบอร์ด จะมีก็แต่เพียงการสร้างภาพบอร์ดบางคนไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้เห็นความทุรกันดารยากลำบากจริง ซึ่งเป็นแค่ปลายเหตุ โดยไม่สนใจแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น รวมทั้งปัญหาคงเลือกจะเกิดเฉพาะกับผู้รับเหมาของทีโอที เท่านั้น เนื่องจากเอกชนที่ชนะในพื้นที่อื่น ดำเนินการติดตั้ง และส่งมอบให้ กสทช. ได้ตามเป้าหมาย

“ทั้ง 2 เรื่องถูกโยงเข้ามาบรรจบกัน ทำให้เห็นว่า ทำไมบางคนถึงทำอะไรบางอย่างได้ กระสุนดินดำมาจากทางไหน”

สิ่งที่เกิดขึ้นกับการแต่งตั้งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ครั้งนี้ของทีโอที คนธรรมดาคงไม่สามารถทำได้ ต้องเป็นคนระดับ พล.อ. ระดับอดีต ผบ.สส. คนที่ผ่านสถาบันอันทรงเกียรติ เป็นเสาหลักของประเทศ เพราะวันนี้ได้เขียนบทใหม่ของงานบริหารบุคคลที่น่าประทับใจอย่างมาก ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ไม่ว่าเป็นวงการไหน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโทรคมนาคมอย่างทีโอที หรือสถาบันทหาร ที่ต่อไปคงไม่ขัดข้องที่มีผู้ใต้บังคับบัญชาขึ้นเวทีมาโห่ฮาขับไล่ผู้บังคับบัญชาได้ เพราะคนที่มีอำนาจสูงสุดสามารถดลบันดาลให้กลับมาครองตำแหน่งตามเดิมได้ ฝีมือของประธานบอร์ด กับที่ปรึกษาคู่ใจ ครั้งนี้ถือว่าปราดเปรื่องสุดขั้ว ไม่ธรรมดาจริงๆ