xs
xsm
sm
md
lg

Zepeto แอปฮิตโตแรง สวนทางข่าวลือ “แอบสอดแนมผู้ใช้”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เซ็ปเพ็ตโต้ (Zepeto) ขึ้นแท่นแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์กสุดฮิตช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นแอปสัญชาติเกาหลี ที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดในจีน ไทย และหลายประเทศขณะนี้ ความนิยมนี้เกิดขึ้นแม้จะมีข่าวลือว่า Zepeto แอบดักฟังหรือติดตามผู้ใช้โดยที่ไม่มีการขออนุญาต จนทำให้มีกระแสพร้อมใจลบแอปฯ ออกจากเครื่องในช่วงปลาย พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุด เชื่อว่า กระแสนี้เป็นเพียงข่าวลือ เนื่องจาก Zepeto ยังอยู่รอดดีไม่ถูกลบออกจากร้านดาวน์โหลดแอปของกูเกิล (Google)

Zepeto เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาโดยบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ชื่อสโนว์ (Snow Corporation) และเนเวอร์ (Naver Corp) ที่ผ่านมา Zepeto ได้รับความนิยมตั้งแต่ช่วงปลาย พ.ย. จนขึ้นเป็นแชมป์แอปพลิเคชันอันดับ 1 กลุ่มแอปพลิเคชันฟรีในร้าน Google Play ต่อเนื่องหลายวัน ความนิยมของ Zepeto เกิดขึ้น เพราะผู้ใช้สามารถลงชื่อใช้ Zepeto ได้สะดวกด้วยบัญชี WeChat, Facebook หรือ Twitter จากนั้น จะสามารถสร้างตัวการ์ตูน หรือ avatar ของตัวเองในรูปแบบ 3D ที่ดูน่ารัก แถมยังสามารถปรับแต่งเสื้อผ้าหน้าผมได้แบบสมใจ

กรณีของ Zepeto ถือว่าน่าสนใจมาก เพราะในช่วงแรกที่แอปฯ ได้รับความนิยม มีข่าวลือว่า Zepeto เป็นแอปพลิเคชันที่คอยสอดแนมผู้ใช้ ข่าวลือนี้แพร่กระจายไปทั่วจนผู้ใช้หลายรายกังวล และเริ่มลบแอปฯ ออกจากเครื่อง แต่ Zepeto สามารถเอาชนะข่าวแง่ลบจนขึ้นเป็นแชมป์ Top Free Chart ได้สบาย



เหตุที่ Zepeto หลุดจากข้อหาแอบสอดแนมผู้ใช้ได้ เพราะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า Zepeto เป็นแอปสอดแนมตามที่ข่าวลืออ้าง เช่น การอ้างว่า หากนำโทรศัพท์มาแนบหูขณะเปิดแอปพลิเคชัน อาจจะได้ยินเสียงบางอย่าง ซึ่งแปลว่า แอปฯ อาจการเปิดใช้ไมโครโฟนในสมาร์ทโฟน ทั้งที่แอปฯ ขออนุญาตเปิดใช้เฉพาะกล้องเท่านั้น จุดนี้ผู้ใช้ Zepeto หลายรายยืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงปริศนาอย่างที่ข่าวลือระบุ

คำกล่าวหาว่า Zepeto แอบติดตามตำแหน่งผู้ใช้ยังถูกมองว่าเป็นเพียงเรื่องโคมลอย เนื่องจาก Zepeto ไม่มีการขอเปิดระบบติดตามตำแหน่งของผู้ใช้เมื่อเข้าถึงแอปพลิเคชันครั้งแรก ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงมองว่า Zepeto ไม่มีวิธีที่จะทราบหรือติดตามตำแหน่งผู้ใช้ได้เลย

นอกจากนี้ ผู้ใช้บางรายยังย้ำว่า แม้ Zepeto จะเป็นชื่อเดียวกับไวรัสคอมพิวเตอร์ที่เคยระบาดเมื่อหลายปีก่อน แต่การสอบสวนพบว่า แอปพลิเคชัน Zepeto นั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย ทั้งหมดนี้เป็นการท้วงติงกันในกลุ่มผู้ใช้ ซึ่งต้นสังกัดของ Zepeto อย่าง Naver Corp. นั้น ไม่ได้ตอบข้อกล่าวหาใดที่เป็นประเด็นเลย

ความสำเร็จของ Zepeto ถูกมองว่าได้รับแรงผลักดันจากความนิยมใช้แอปพลิเคชันรับส่งข้อความ และแอปพลิเคชันสร้างตัวละครที่ปรับแต่งหน้าตาได้ตามใจตัวเอง รวมถึงแอปพลิเคชันวิดีโอสั้นที่ดึงดูดความสนใจของชาวเน็ตทั่วโลกได้อยู่หมัด จุดนี้มีข้อมูลว่า เฉพาะในประเทศจีน พบว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวจีน 3 ใน 4 เลือกเปิดแอปพลิเควิดีโอสั้น เพื่อสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง

ความนิยมของ Zepeto ยังเกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของยุคทองแห่งแอปพลิเคชันจดจำใบหน้าเทคโนโลยี AI เทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้กับระบบชำระเงิน การรักษาความปลอดภัย รวมถึงอีกหลายระบบที่ทำให้โลกคุ้นชิน และมองเทคโนโลยีสไตล์เดียวกับ Zepeto เป็นเรื่องใกล้ตัว ทำให้สนใจดาวน์โหลด Zepeto มาสร้างความบันเทิงบนสมาร์ทโฟน.


กำลังโหลดความคิดเห็น