xs
xsm
sm
md
lg

“Apple Store” ประเทศไทย ปัจจัยช่วยดันไทยสู่ประเทศกลุ่มแรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


การเปิดหน้าร้าน Apple Store แห่งแรกในประเทศไทย กลายเป็นความหวังให้แก่ลูกค้าคนไทยที่จะมีโอกาสเข้าถึงสินค้าและบริการระดับโลกของแอปเปิล จากที่ก่อนหน้านี้ มีเพียงโอเปอเรเตอร์ และตัวแทนร้านค้าปลีก เข้ามาเปิดหน้าร้านให้บริการในประเทศไทย

เพียงแต่ในประเด็นของการวางจำหน่ายสินค้า พร้อมกับประเทศเทียร์ 1 ทั่วโลก กว่าจะได้เห็นผลอาจจะต้องรอถึงปีหน้า เนื่องจากในปีนี้การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิลผ่านไปหมดแล้ว แม้กระทั่ง 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ทั้ง iPad Pro, Macbook Air และ Mac Mini ที่เพิ่งเปิดตัวในช่วงต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ก็เข้ามาวางจำหน่ายไม่ทันในช่วงเปิดร้าน

ทำให้ในช่วงแรก Apple Store สาขา ICONSIAM แห่งแรกในประเทศไทย จึงถูกวางให้เป็นแฟลกชิปสโตร์ ที่มีการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ กระจกทรงสูง หันหน้าเข้าสู่วิวแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมมีพื้นที่เปิดริมน้ำเป็นพื้นที่ให้ลูกค้าใช้เวลานั่งพักผ่อนกับธรรมชาติ บริเวณระเบียงหน้าร้าน

ก่อนหน้านี้ “แองเจลา อาเร้นท์” รองประธานธุรกิจค้าปลีกของแอปเปิล เคยให้สัมภาษณ์ว่า เป้าหมายของการเปิดหน้าร้าน Apple Store ในหลายๆ ประเทศ ไม่ได้ต้องการเข้ามาขายสินค้าแข่งกับพาร์ตเนอร์ แต่ต้องการสร้างประสบการณ์ในการใช้งานให้แก่ลูกค้าเป็นหลัก

“กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของภูมิภาคแถบนี้ และมีลูกค้า Apple หลายล้านคนอาศัยอยู่ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เปิดตัว Today at Apple ให้ทุกคนรู้จัก ลูกค้าจะได้ชมผลิตภัณฑ์นานาชนิด พูดคุยกับพนักงานที่เชี่ยวชาญ รวมถึงรับบริการและความช่วยเหลือที่ลูกค้าทั่วโลกชื่นชอบ”

Apple Iconsiam ตั้งอยู่เหนือ “แม่น้ำของแผ่นดิน” ณ ใจกลางกรุงเทพฯ และรายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย ตัวร้านอยู่ในศูนย์การค้า ICONSIAM และเชื่อมกับพื้นที่ดาดฟ้ากลางแจ้งอย่างลงตัว โดยดีไซน์ทรงสี่เหลี่ยมคางหมู และกระจกใสของร้านทำให้ลูกค้าได้ชมวิวธรรมชาติที่สวยงามโดยรอบ พร้อมสัมผัสบรรยากาศเย็นสบายจนไม่รู้สึกว่าอยู่ข้างนอกศูนย์การค้าเลย

แม้ว่าจะเป็นการตอบคำถามที่ดูเน้นภาพลักษณ์ให้แก่องค์กร แต่ก็แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์หลักของ Apple ที่ต้องการให้ผู้บริโภคได้เรียนรู้ และใช้งานเทคโนโลยีไปพร้อมๆ กัน พร้อมกับการหลอมรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของท้องถิ่น และทำให้ร้านค้ากลายเป็นสถานที่นัดพบของผู้บริโภค

***ยกระดับไทยขึ้นสู่เทียร์ 1

ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคมให้ข้อมูลว่า ประเทศไทยเคยมีโอกาสที่จะได้ขึ้นเป็นเทียร์ 1 หรือกลุ่มประเทศแรกที่จะวางจำหน่ายสินค้าใหม่ของ Apple มาแล้ว เพียงแต่เกิดเหตุการณ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคม ออกมาเปิดเผยข้อมูลการขออนุญาตนำเข้าไอโฟนรุ่นใหม่เข้ามาจำหน่าย

ส่งผลให้หลังจากนั้น ทาง Apple จะไม่ส่งเครื่องรุ่นใหม่ที่ยังไม่เปิดตัวเข้ามาขออนุญาตในประเทศไทยอีกเลย ดังนั้น โอกาสที่การมี Apple Store จะช่วยยกระดับประเทศไทยขึ้นสู่เทียร์ 1 จึงยังไม่ได้ขึ้นอยู่กับหน้าร้านค้า แต่อยู่ในแง่การเก็บรักษาข้อมูลความลับระหว่าง Apple และหน่วยงานกำกับดูแลมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสินค้าประเภทอื่นที่ไม่ต้องขออนุญาตใช้งานคลื่นความถี่ จะเห็นได้ว่าประเทศไทยมีการนำเข้าสต๊อกของรวดเร็วขึ้นแล้ว และมีโอกาสที่จะจำหน่ายเป็นกลุ่มประเทศแรกในช่วงหลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นแมคบุ๊ก ไอแพด (รุ่น Wi-Fi) ไอวอตช์ ที่เข้ามาทำตลาดเร็วกว่าเดิม

***เทรนด์สินค้า Apple ราคาสูงขึ้น 20-25%

แม้ว่าราคาจำหน่ายสินค้าของ Apple จะแพงขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงที่ผ่านมา แต่กลายเป็นว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังตอบรับการใช้งานอยู่เช่นเดิม เพราะจากผลประกอบการล่าสุดของ Apple พบว่า เติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 30% และสร้างรายได้ระดับ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

ระดับราคาสินค้าของ Apple ที่ทยอยปรับขึ้น เริ่มเห็นแนวโน้มมาตั้งแต่ช่วงที่มีการเปิดตัว iPhone X ออกสู่ตลาดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตามมาด้วย Macbook Pro ที่มีการปรับสเปก และพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น ทำให้ระดับราคาสูงสุดขึ้นไปอยู่ราว 2 แสนบาท ตามมาด้วยการเปิดตัว iPhone XS พร้อมกับ XS Max ที่ปรับราคา iPhone รุ่นแพงสุดขึ้นมาอยู่ที่ 57,900 บาท ไม่นับรวมกับ iPad Pro รุ่นใหม่ที่แพงสุดเกือบ 66,900 บาท ไปจนถึง Macbook Air ที่เพิ่งเปิดตัวก็ปรับระดับราคาเริ่มต้นขึ้นมาอยู่ที่ 42,900 บาท จากก่อนหน้านี้ที่อยู่ราว 39,900 บาทในรุ่นเริ่มต้น ถือว่ามีการปรับราคาขึ้นมาในระดับ 20-25%

ขณะเดียวกัน Apple ก็ออกมาประกาศชัดเจนว่า ในการแถลงผลประกอบการหลังจากนี้ จะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขยอดขายสินค้าอีกต่อไป แต่จะให้ข้อมูลในแง่ของรายได้ และกำไรจากการขายสินค้า และการให้บริการแทน

ทำให้เห็นถึงแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น คือ การจำหน่ายสินค้าจะไม่ได้เติบโตแบบก้าวกระโดดเหมือนช่วงที่ผ่านมาแล้ว แต่จะหันไปสร้างรายได้จากการให้บริการมากขึ้น ทั้งการจำหน่ายแอปพลิเคชัน การให้บริการสตรีมมิ่งเพลง และภาพยนตร์ ไปจนถึงบริการคลาวด์เก็บข้อมูล

ส่วนในแง่ของการจำหน่ายดีไวซ์ต่างๆ เมื่อระดับราคาเฉลี่ยของสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ทำให้แม้ว่า Apple จะขายสินค้าได้เท่ากับปีที่ผ่านมา แต่ด้วยระดับราคาที่สูงขึ้นก็จะทำให้ Apple สามารถสร้างรายได้ และกำไรอยู่เช่นเดิม

จุดแข็งอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการเปิด Apple Store ในครั้งนี้ คือ ลูกค้าจะมีช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าจากทางแอปเปิลโดยตรงมากขึ้น จากเดิมที่มีให้สั่งซื้อผ่านหน้าร้านค้าออนไลน์ (Apple Store Online) แต่หลังจากนี้ จะสามารถมาซื้อสินค้าที่หน้าร้านนี้ได้แล้ว หรือจะเลือกสั่งทางออนไลน์แล้วมารับสินค้าที่ Apple Store ICONSIAM ก็ได้เช่นกัน

ขณะที่ประเด็นสำคัญอย่างเรื่องการรับประกัน พนักงาน Apple ยืนยันว่า เมื่อซื้อสินค้าผ่านออนไลน์สโตร์ หรือที่ Apple Store ICONSIAM จะได้รับการรับประกันสินค้ามาตรฐานของ Apple ถ้าสินค้ามีปัญหา หรือไม่พอใจสินค้าสามารถคืน หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ภายใน 7-14 วัน






กำลังโหลดความคิดเห็น