การทำเพลง การสร้างหนัง การรายงานข่าว และการสื่อสารเป็นเครือข่ายของคนในรุ่น Gen Y Gen Z และ Gen Alpha ด้วยการใช้ Facebook และ upload ขึ้น YouTube ผ่านกระบวนการ Blockchain (ใช้ cryptocurrency เป็นตัวกลางทำธุรกรรม) ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในการตามไปลบทิ้ง การโอนเงินแบบ Peer-to-Peer ผ่านซอฟต์แวร์โดยไม่ใช้ธนาคารจนเขย่าขวัญผู้บริหารรุ่น Gen X (ที่ยังพยายามไม่ออกอาการหวาดกลัว แต่ก็ขาสั่น) ไปจนถึงการซื้อสินค้าบนร้านค้าออนไลน์ และการใช้บริการต่างๆ เช่น การเล่นหุ้น การเรียกรถแท็กซี่ จองตั๋วเครื่องบิน จองตั๋วหนัง จองห้องพัก ผ่านสมาร์ทโฟน Mobile Internet เป็นว่าเล่น จนทำให้โครงสร้างภาครัฐ วงการธุรกิจ และอาชีพดั้งเดิมที่คนรุ่น Baby boomers และ Gen X สร้างไว้ต้องสั่นสะเทือน
Gen Y Gen Z และ Gen Alpha กำลังเติบโตมากับระบบเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing economy) ซึ่งถือว่าเป็นระบบเศรษฐกิจใหม่ (New economy) ที่กำลังสร้างธุรกิจมูลค่าใหม่อันมหาศาลให้แก่เศรษฐกิจโลก เช่น cryptocurrency, Uber, Airbnb, Instagram, Pinterest, e-Sports และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งระบบเศรษฐกิจดังกล่าวเกิดจากที่พวกเขาสามารถเชื่อมต่อข้อมูลอันมหาศาลแบบ realtime และเชื่อมต่อกับเพื่อนๆ ผู้คน และธุรกิจต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกด้วยสมาร์ทโฟน พวกเขายังมีพฤติกรรมที่ต้องการตัดสินใจและรับผิดชอบกับชีวิตของพวกเขาเองอีกด้วย และสิ่งสำคัญอีกประการที่โดดเด่นคือ พวกเขาไม่ใช่เพียงคนที่สามารถใช้เทคโนโลยีได้คล่องแคล่วกว่าคนรุ่น Baby boomers และ Gen X เท่านั้น แต่พวกเขายังเป็นนักประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ (innovators) บนไซเบอร์ให้แก่โลกมากกว่าคนในยุคที่ผ่านมาทั้งหมดอีกด้วย
Gen Y, Gen Z และ Gen Alpha มักจะมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ชอบที่จะเปิดใจกว้างยอมรับสิ่งใหม่ (liberal) และมีวิธีการหาความรู้ที่เขาสนใจเป็นพิเศษด้วยตัวเองผ่านอินเทอร์เน็ต จนพวกเขาเริ่มไม่ค่อยให้ความสนใจกับรูปแบบการศึกษาแบบดั้งเดิมที่คนในรุ่น Baby boomers และ Gen X ได้สร้างไว้ให้ จนคนในรุ่น Baby boomers และ Gen X ส่วนใหญ่มองพวกเขาว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่ใฝ่การศึกษาเหมือนคนในอดีต ซึ่งอาจจะเป็นการมองโลกที่แคบเกินไปก็ได้ ทั้งนี้เพราะแท้ที่จริงแล้ว คนรุ่นใหม่กำลังสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีที่พลิกโลก (Disruptive technologies) ออกมามากมายกว่าคนในยุค Baby boomers และ Gen X ด้วยซ้ำไป
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังมีความสามารถที่เหนือชั้นในการใช้เทคโนโลยีในการผลิตสื่อ รณรงค์เพื่อขอเสียงในการสนับสนุนความคิดทาง social media จนเกิดกรณีพลิกผลการเลือกตั้งในหลายประเทศทั่วโลก ที่ต้องทำให้ Baby boomers และ Gen X ต้องพลิกตำราสู้ไม่ทัน ไม่ว่าจะเป็นในสหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอีกหลายประเทศ ให้เหล่านักการเมืองทั่วโลกต้องตั้งทีมนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data scientist) ในทีมรณรงค์หาเสียงกันจนเป็นเรื่องปกติ
การทำความเข้าใจในพฤติกรรมที่ดูเหมือนจะแปลกแยก และมีความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่อยู่บนพื้นฐานค่านิยมของพ่อแม่ปู่ย่าตายายในรุ่น Baby boomers และ Gen X นั้น มีความสำคัญอย่างมาก เพราะหาก Baby boomers และ Gen X ไม่อดทนและไม่เปิดใจกว้างพอ ก็อาจทำให้เกิดช่องว่างในความคิดระหว่างรุ่นคน ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาในการพัฒนาประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองได้
สำหรับประเทศไทยภายใน 2 ทศวรรษต่อจากนี้ไป เหล่าบรรดาคนรุ่น Baby boomers และ Gen X จำนวนมหาศาลกำลังจะเข้าสู่สังคมสูงวัย (Aging society) จนไปสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Aged society) ในปี 2021 และจะเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super-aged society) ในปี 2035 ซึ่งถือว่าเร็วมากที่สุดติดอันดับต้นๆ ของโลก ดังนั้น การเปิดรับคนรุ่น Gen Y, Gen Z และ Gen Alpha ด้วยความเข้าใจและจริงใจจากพวกเราคนรุ่น Baby boomers และ Gen X นั้น เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนรุ่นใหม่ที่มีจำนวนน้อยลงกำลังจะเข้ามาโอบอุ้มดูแลพวกเราเหล่าคนชรา สร้างเศรษฐกิจใหม่ สร้างสังคมใหม่ และบริหารประเทศให้พวกเราที่นับวันจะหมดอำนาจและหมดแรง... อย่าให้เขาทิ้งเราอย่างเดียวดาย
Reference
https://www.weforum.org/agenda/2017/06/heres-what-employers-need-to-know-about-generation-z
https://europeansting.com/2018/08/27/generation-z-will-outnumber-millennials-by-2019/
https://www.theatlantic.com/politics/archive/2016/02/the-liberal-millennial-revolution/470826/