หัวเว่ย (Huawei) เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Mate ประกอบไปด้วย Mate20, Mate20 Pro, Mate 20X และ PORSCHE DESIGN Huawei Mate20 RS ชูจุดเด่นเรื่องกล้องมุมกว้าง ที่ยังคงความร่วมมือกับไลก้า (Leica) พร้อมกับการนำเสนอนวัตกรรมจากการใช้หน่วยประมวลผล AI คู่ (Daul NPU) และระบบชาร์จไร้สายที่สามารถแชร์แบตให้เพื่อนได้
ริชาร์ด หยู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป กล่าวว่า สมาร์ทโฟนถือเป็นประตูสู่โลกดิจิทัลที่สำคัญ และ HUAWEI Mate 20 Series ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็น “เพื่อนรู้ใจ” ที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภค
ทั้งนี้ Mate 20 ซีรีส์ มีขนาดหน้าจอ FullView Display ที่ต่างกัน 3 ขนาด คือ Mate 20 หน้าจอ 6.53 นิ้ว Mate 20 Pro และ Mate20 RS 6.39 นิ้ว ส่วน Mate20 X อยู่ที่ 7.2 นิ้ว โดยให้แบตมา 4,000 mAh 4,200 mAh และ 5,000 mAh ตามลำดับ
หน่วยประมวลผลภายในที่ใช้เป็นชิปเซ็ต Kirin 980 ให้ประสิทธิภาพ CPU สูงขึ้น 75% GPU สูงขึ้น 46% และ NPU 226% ในขณะเดียวกัน CPU ใช้พลังงานน้อยลงถึง 58% GPU ใช้พลังงานน้อยลงถึง 178% และ NPU ใช้พลังงานน้อยลงถึง 182%
ขณะเดียวกัน Kirin 980 ยังเป็นชิปเซ็ตแรกของโลกที่ประกอบด้วยหน่วยประมวลผลด้าน AI แบบคู่ (Dual NPU) ส่งผลให้ AI ในอุปกรณ์มือถือมีความฉลาดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อนำมาใช้กับกล้องถ่ายภาพ
ในส่วนของการเชื่อมต่อ HUAWEI Mate 20 Pro เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่รองรับคลื่นความถี่ LTE Cat.21 ซึ่งรองรับความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดที่ 1.4 Gbps รวมถึงรองรับการผสานคลื่นความถี่แบบข้ามช่องสัญญาณ และรองรับ Wi-Fi ที่มีความเร็วสูงที่สุดในโลก ทั้งยังมีเทคโนโลยี AI GPS Satellite Selection ที่สามารถระบุพิกัดตำแหน่งที่ตั้งได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ ยังมี HUAWEI SuperCharge เป็นนวัตกรรมการชาร์จแบบเร็วที่รองรับกำลังไฟฟ้าได้ถึง 40 วัตต์ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อชาร์จ HUAWEI Mate 20 Pro ด้วย HUAWEI SuperCharge สามารถชาร์จได้ 70% ของความจุแบตเตอรี หรือประมาณ 2,940 mAh ได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที โดยเทคโนโลยีนี้ได้รับการรับรองความปลอดภัยขั้นสูงสุดจากสถาบัน TÜV Rheinland
รวมถึงการชาร์จแบบใช้สายที่ HUAWEI Mate 20 Pro ยังรองรับการชาร์จแบบไร้สายด้วย 15W HUAWEI Wireless Quick Charge โดยสามารถชาร์จได้ 30% ของความจุแบตเตอรี หรือประมาณ 1,300mAh ได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที และมี Wireless Reverse Charging ระบบชาร์จแบตเตอรีให้กับอุปกรณ์อื่นแบบไร้สาย ช่วยให้ผู้ใช้แบ่งปันพลังงานจากแบตเตอรีขนาดใหญ่ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ไปยังอุปกรณ์อื่นที่รองรับการชาร์จแบบไร้สายได้ เสมือนเป็นพาวเวอร์แบงก์
จุดเด่นของ HUAWEI Mate 20 X คือ มี HUAWEI Super Cool ระบบหล่อเย็นอันล้ำสมัยที่ใช้กราฟีน และวงจรสำหรับเปลี่ยนอากาศร้อนให้เป็นไอ (vapor chamber) ทำให้ค่าสัญญาณนาฬิกาของทั้ง CPU และ GPU ทำงานด้วยความเร็วสูงสุดเสมอ
ในส่วนของกล้อง ยังทำงานร่วมกับไลก้า ด้วยการนำ Leica Matrix Camera System มาใช้บันทึกภาพในรูปแบบใหม่ ทลายข้อจำกัดของการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน พร้อมด้วยการเพิ่มเลนส์ Ultra Wide ขนาด 16 มม. จาก Leica สำหรับการถ่ายภาพมุมกว้างโดยเฉพาะ
โดยกล้องของ HUAWEI Mate 20Pro ประกอบด้วยเลนส์หลักความละเอียด 40 ล้านพิกเซล เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และเลนส์เทเลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งทั้งสามเลนส์ประกอบกัน สามารถให้ภาพระยะเทียบเท่าเลนส์ซูม 16-270 มม.
HUAWEI Mate 20 Series ยังมีโหมด AI Portrait Color สำหรับการถ่ายวิดีโอ โดย AI สามารถตรวจจับว่าจุดใดคือมนุษย์และปรับแต่งแสง เพื่อไฮไลต์บุคคลนั้นๆ ในคลิปวิดีโอได้ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ AI Spotlight Reel สำหรับตรวจจับคลิปที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน และสร้างคลิปไฮไลต์สั้นๆ ให้โดยอัตโนมัติได้
ทั้ง HUAWEI Mate 20 Pro และ PORSCHE DESIGN HUAWEI Mate 20 RS มีระบบปลดล็อกด้วยการจับภาพใบหน้าผู้ใช้งานแบบ 3 มิติ หรือ 3D Face Unlock อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 0.6 วินาทีเท่านั้น อีกทั้งยังมีความแม่นยำสูง ช่วยให้ข้อมูลภายในเครื่องปลอดภัย มีโอกาสปลดล็อกผิดพลาดต่ำกว่า 1 ในล้านเท่านั้น
โดยทั้งสองรุ่นนี้มีระบบกล้องแบบสามมิติ หรือ 3D Depth Sensing Camera System ด้านหน้า สามารถสแกนใบหน้าได้อย่างแม่นยำ จดจำได้แม้รายละเอียดยิบย่อย โดยระบบกล้องนี้ไม่เพียงช่วยตรวจสอบผู้จะใช้งานเครื่องเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มเอฟเฟกซ์ในการถ่ายภาพโดยตกแต่งให้ภาพคนดูสวยงามในแบบสมจริงยิ่งขึ้น
คาดว่า Huawei Mate20 ซีรีส์ จะเริ่มทำตลาดในประเทศไทยในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ โดยรุ่นที่จะเข้ามาทำตลาดก่อน คือ Mate20 และ Mate20 Pro และตามมาด้วย Mate20 X และ Mate20 RS ภายในสิ้นปีนี้
