แกร็บ ลุยเพิ่มมาตรการความปลอดภัยบนระบบ หวังสร้างมาตรฐานใหม่ในการขนส่งผู้โดยสาร ระบุ ใช้เงินลงทุนทางด้านความปลอดภัยเพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พร้อมเตรียมเสริมฟีเจอร์ใหม่อย่างการแจ้งเตือนคนขับเมื่อขับขี่นานเกินเวลาที่กำหนด ป้องกันการหลับใน
นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวถึงธุรกิจของแกร็บในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา ว่า ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องของการส่งคน ส่งอาหาร และส่งของ โดยธุรกิจที่เติบโตมากที่สุด คือ การส่งของที่เติบโตกว่า 20 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงที่เปิดตัวต้นปีที่ผ่านมา
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจทั่วภูมิภาค ทางแกร็บ เพิ่งประกาศว่าได้มีการรับส่งไปแล้วกว่า 2.5 พันล้านครั้ง มียอดผู้ดาวน์โหลดใช้งานแอปพลิเคชันกว่า 109 ล้านครั้ง และสร้างรายได้ให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 8 ล้านราย
โดยปัจจุบัน แกร็บให้บริการในประเทศไทยครอบคลุม 16 จังหวัด 17 เมือง สถานที่ล่าสุดที่เปิดให้บริการคือ ในช่วงงาน MotoGP ที่จังหวัดบุรีรัมย์ที่ผ่านมา แกร็บได้เข้าไปให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 15,000 คน ในเมืองที่มีแกร็บรับส่ง 600 คัน จากเดิมมีแท็กซี่ให้บริการ 15 คัน
ล่าสุด แกร็บ ได้มีการลงทุนในแง่ของการทำระบบรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยมีการลงทุนเพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ด้วยการเพิ่มปุ่ม แชร์การโดยสาร (Share my ride) เพื่อส่งพิกัดที่อยู่ให้แก่เพื่อนสนิท หรือครอบครัว เพื่อให้รับรู้ว่าปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งใด และโดยสารรถคันใดอยู่ รวมถึงการเพิ่มปุ่มฉุกเฉินที่ให้กรอกข้อมูลผู้ติดต่อฉุกเฉินไว้ให้สามารถติดต่อได้ทันที
ขณะที่ก่อนหน้านี้ แกร็บ ได้มีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ที่ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่มีการทำประกันที่ครอบคลุมทั้งคนขับ และคนนั่ง โดยมีเป้าหมายหลัก คือ ทำอย่างไรให้ป้องกันอุบัติเหตุให้ไม่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังเริ่มมีการนำระบบ Telematics มาช่วยตรวจสอบการขับขี่ของผู้ขับ ด้วยการนำเทคโนโลยี GPS มาช่วยในการตรวจสอบเรื่องของความเร็วในการขับขี่ การเบรกในระยะกระชั้นชิด ที่สามารถใช้เทคโนโลยีมาช่วยตรวจสอบได้
ส่วนในอนาคต แกร็บ มีแผนที่จะเพิ่มระบบตรวจสอบเวลาการขับขี่ (เวลาออนไลน์ระบบ) เพื่อป้องกันการหลับในของผู้ขับขี่ โดยเบื้องต้น กำลังอยู่ระหว่างการดูความเหมาะสมในการแจ้งเตือนเมื่อมีการใช้งานติดต่อกัน 8 ชั่วโมง หรือจะใช้วิธีการคำนวณเวลาระหว่างเกิดการขนส่ง
“ด้วยการที่เป็นระบบใหม่ ทำให้ต้องดูความเหมาะสม และแฟร์กับคนขับด้วย เพราะในมุมของแกร็บ เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าไปเรื่อยๆ แกร็บก็ต้องสามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยในการเพิ่มความปลอดภัยในการนั่งให้ได้”
ส่วนในประเด็นเรื่องของการร้องเรียนการขับขี่ หรือการปฏิเสธผู้โดยสารต่างๆ ทางแกร็บ แนะนำให้ผู้โดยสารแจ้งเรื่องผ่านทางคอลเซ็นเตอร์ ที่ปัจจุบันเปิดให้บริการแบบ 24 ชั่วโมงแล้ว ด้วยจำนวนผู้ให้บริการกว่า 150 ราย และมีแผนที่จะขยายเพิ่มเติมต่อไป