xs
xsm
sm
md
lg

YouTube Kids ไทยเปิดทางการ แนะนำวิดีโอบน 3 ระบบ อัลกอริทึม-คนคัดกรอง-พฤติกรรมการชม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ดอน แอนเดอร์สัน Head of Family & Learning Partnerships ของ YouTube เอเชียแปซิฟิก
ยูทูป (YouTube) จุดพลุแอปพลิเคชันยูทูปคิดส์ (YouTube Kids) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ย้ำเปิดกว้างให้พ่อแม่มีสิทธิขาดเลือกช่องติดตาม หรือปิดการเสิร์ช รวมถึงตั้งเวลาปิดแอปได้ จัด 3 ระบบแนะนำเนื้อหาทั้งใช้ระบบอัลกอริทึมอัตโนมัติ ทีมงานคนคัดกรองเนื้อหา พฤติกรรมการชมของแต่ละคน ช่วงแรกแสดงโฆษณาเฉพาะวิดีโอโปรโมตช่อง และครีเอเตอร์ ย้ำไม่หวังเจาะตลาดเด็ก แต่ตั้งใจพัฒนาแหล่งเรียนรู้ที่ปลอดภัยสำหรับเยาวชน

ดอน แอนเดอร์สัน หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรเนื้อหาเพื่อครอบครัวและการศึกษา (Head of Family & Learning Partnerships) ของ YouTube เอเชียแปซิฟิก กล่าวในงานเปิดแอปพลิเคชันใหม่ YouTube Kids ว่าเป็นแอปพลิเคชันเฉพาะที่เปิดให้บริการแล้ว 41 ประเทศ โดยในช่วง 2 ปีที่เปิดให้บริการ YouTube Kids มียอดชมเกิน 7 หมื่นล้านครั้ง จำนวนผู้เข้าชมเกิน 14 ล้านคนต่อสัปดาห์ ยอดดาวน์โหลดรวมถึงขณะนี้ คือ 10 ล้านครั้ง และถูกยกให้เป็น 1 ใน 5 แอปพลิเคชันที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก

“ภารกิจหลักของยูทูป คือ การมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ครอบครัว และเยาวชน สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่เหมาะสม และปลอดภัย เราไม่ได้หวังเจาะกลุ่มตลาดเด็ก เพราะต้องการให้คุณค่าแก่ผู้ใช้ทุกกลุ่ม รวมถึงครอบครัว YouTube Kids เกิดขึ้นมา เพราะทีมงาน YouTube ที่เป็นพ่อแม่ และมีครอบครัว จึงพัฒนา YouTube Kids ให้เป็นทางเลือกแก่พ่อแม่ที่ต้องการให้ YouTube เป็นแหล่งเรียนรู้”

ไทยเป็น 1 ใน 12 ภาษาที่มีบน YouTube Kids เฉพาะในเอเชียมีภาษาเกาหลี, ญี่ปุ่น, ไทย และอินโดนีเชียแล้ว จุดนี้ YouTube ไม่เปิดเผยสัดส่วนผู้ชมที่เป็นเด็กไทย โดยระบุเพียงว่า ทั่วโลกมีการชมวิดีโอการศึกษามากกว่า 1 พันล้านชั่วโมงต่อวัน ซึ่งแม้ใน 1 พันล้านชั่วโมงนี้ จะไม่มีแบ่งตัวเลขในแต่ละประเทศรวมถึงประเทศไทย แต่สถิติพบว่า การชมวิดีโอด้านการศึกษาในไทยเติบโตขึ้น 2 เท่าจากปีที่แล้ว สถิตินี้ไม่ระบุตัวเลข แต่เป็นกราฟที่แสดงถึงแนวโน้มการเติบโตชัดเจน
มุกพิม อนันตชัย หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ YouTube ประเทศไทย
จุดเด่นของ YouTube Kids คือ เนื้อหาที่หลายวิดีโอปรับแต่งเป็นภาษาไทย เช่น Pinkfong ที่จัดเพลง “ลูกฉลาม” ออกมาให้เด็กไทยร้องตาม ความพิเศษของแอป คือ ผู้ปกครองสามารถเลือกช่องที่อนุญาตให้บุตรหลานชม, สามารถปิดการค้นหาได้, สามารถสร้างโปรไฟล์สำหรับทุกคนในครอบครัว เพื่อให้วิดีโอที่แนะนำเหมาะสมกับแต่ละคน, มีระบบตั้งรหัสผ่านที่เด็กตั้งเองสำหรับเด็กรักความอิสระ ที่สำคัญ คือ มีระบบจับเวลา เพื่อจำกัดเวลาชมโดยไม่ต้องดุเด็กน้อย

แม้แพลตฟอร์มหลักของ YouTube จะแนะนำให้ผู้ชมมีอายุ 13 ปีขึ้นไป แต่เพราะความอยากให้เป็นแพลตฟอร์มแหล่งเรียนรู้ที่ตอบโจทย์เด็กสำหรับครอบครัว แอป YouTube Kids จึงวางกลุ่มผู้ใช้ไว้ที่ 2-13 ปี แต่ผู้บริหาร YouTube คาดว่าที่จะใช้งานจริง คือ กลุ่มผู้ชมอายุ 2-10 ปี

อีกจุดสำคัญใน YouTube Kids คือ วิดีโอแนะนำจะถูกคัดเลือกมาแสดงจาก 3 ระบบ คือ อัลกอริทึม ทีมงานคน และพฤติกรรมการชม เบื้องต้น ยังไม่มีให้เลือกตัดระบบอัลกอริทึมออกไป แต่ผู้บริหารย้ำว่า พ่อแม่จะมีสิทธิควบคุมเต็มที่อยู่แล้ว เนื่องจากสามารถเลือกติดตามให้วิดีโอแนะนำแสดงเฉพาะช่องที่เลือกไว้เท่านั้น

คาดว่าผลจากการเปิดตัว YouTube Kids ในประเทศไทย คือ ครีเอเตอร์เนื้อหาเด็ก และการศึกษาของไทย จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นชัดเจน จุดนี้ มุกพิม อนันตชัย หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ YouTube ประเทศไทย ระบุว่าหากมองเฉพาะกลุ่มช่องไทยที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน (Gold) ราว 150 ช่องในขณะนี้ พบว่าเป็นช่องครอบครัว และการศึกษา 23 ช่อง คิดเป็น 15% จากช่องที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน YouTube

“นี่เป็นเพียงก้าวเล็กๆ ของ YouTube ประเทศไทย แต่เป็นก้าวที่สำคัญมากในการทำให้มั่นใจว่า เด็กไทยจะเรียนรู้นอกห้องเรียนได้อย่างปลอดภัย และสร้างสรรค์”
หน้าตาของ YouTube Kids
ปัจจุบัน ช่องเพื่อครอบครัว และการศึกษาของครีเอเตอร์ไทย มีทั้งเนื้อหาการสอนภาษา การสอนงานประดิษฐ์ดีไอวาย และวิธีการเล่านิทานที่สร้างสรรค์ กลุ่มวิดีโอที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การ์ตูน และแอนิเมชัน โดยอนาคต YouTube Kids อาจจะมีฟีเจอร์ใหม่ เช่น ระบบชมออฟไลน์ และฟีเจอร์อื่นที่ยังต้องรอดูแนวโน้มตลาดต่อไป

สำหรับการแสดงโฆษณาในแอป YouTube Kids ผู้บริหารย้ำว่าจะไม่มีแบบคลิก (click through) เพื่อตัดปัญหาเด็กเผลอคลิก แต่จะอยู่ในรูปแบบวิดีโอเล่นซ้อน ระยะแรกจะเป็นวิดีโอโปรโมตครีเอเตอร์ และช่อง ซึ่งผู้ชมสามารถกดข้ามได้ โดยแบรนด์ที่จะมีโอกาสเข้ามาโฆษณาบน YouTube Kids จะต้องผ่านเงื่อนไขหรือไกด์ไลน์ที่แตกต่างจากแอป YouTube ปกติ ซึ่งจะถูกพิจารณาด้วยคนและระบบคู่กัน

“ที่อยากฝาก คือ อยากให้พ่อแม่ตรวจสอบบน YouTube Kids ว่า เนื้อหาที่บุตรหลานชมเหมาะสมหรือไม่ รวมถึงอาจกำหนดเวลา ทั้งหมดนี้ YouTube จะประชาสัมพันธ์ให้พ่อแม่ทราบผ่านพันธมิตร ครีเอเตอร์ และเว็บไซต์อย่างจริงจัง”

ผู้สนใจ สามารถดาวน์โหลด YouTube Kids ได้ที่ Google Play และ App Storeใช้ได้ทั้งบนมือถือ แท็บเล็ต และชุดอุปกรณ์ต่อพ่วงทีวี


กำลังโหลดความคิดเห็น