เฟซบุ๊ก (Facebook) เจ้าพ่อเครือข่ายสังคมชื่อดังกำลังเผชิญปัญหาสูญเสียผู้บริหารหลัก 6 คนรวดในช่วงปีที่ผ่านมา 2 รายล่าสุด คือ ผู้ร่วมก่อตั้งอินสตาแกรม (Instagram) ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำปัญหาโครงสร้างภายในอาณาจักรของมาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก ส่งให้มูลค่าหุ้นร่วงทันที 2%
ผู้ก่อตั้ง Instagram ที่ประกาศลาออกจากชายคา Facebook คือ เควิน ซิสตรอม (Kevin Systrom) และไมค์ ไกรเกอร์ (Mike Krieger) การแยกทางของ 2 ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์แชร์รูปภาพชื่อดัง ทำให้ซีอีโอคนหนุ่มอย่างมาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ถูกมองว่า ไม่สามารถดึงดูดบุคลากรพรสวรรค์ให้อยู่กับบริษัทในช่วงเวลาที่ Facebook ต้องพยายามยืนหยัดให้ได้ในยุคดิจิทัล
การแยกทางของ 2 ผู้ก่อตั้ง Instagram เกิดขึ้นหลังจากที่ Facebook ซื้อกิจการ Instagram ไปในปี 2012 ด้วยเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตลอดระยะเวลา 6 ปี Instagram เติบโตจนโดดเด่นในฐานะเครือข่ายสังคมที่สามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ดีกว่า Facebook ทำให้การประกาศลาออกของ 2 ผู้ก่อตั้งถูกมองว่า Instagram กำลังจะถึงจุดเปลี่ยน และ Instagram ในอนาคตจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
รายงานระบุว่า Kevin Systrom และ Mike Krieger ตัดสินใจลาออกเพื่อหาความท้าทายใหม่ ขณะที่ข่าววงในระบุว่า การลาออกอย่างกะทันหันนี้เกิดขึ้นเพราะความขัดแย้งกับบอร์ดบริหาร ซึ่งประเด็นนี้ไม่มีความชัดเจนใดๆ
สิ่งเดียวที่ชัดเจน คือ Facebook จะสูญกำลังคนในแง่ผู้บริหารที่มีความสำคัญกับรากฐานบริษัทในช่วงแรก โดย Kevin Systrom และ Mike Krieger ถือเป็นผู้บริหารรายที่ 5 และ 6 ที่ลาออกจาก Facebook ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
สำนักข่าวบิสิเนสอินไซเดอร์ รวบรวมว่า เมื่อกันยายน 2017 ผู้บริหารว็อตสแอป (WhatsApp) ซึ่งร่วมก่อตั้งบริการมาอย่างไบรอัน แอคตัน (Brian Acton) ประกาศลาออกจากบริษัท ก่อนที่ แจน กวม (Jan Koum) ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsApp อีกรายที่ลาออกไปเมื่อเมษายน 2018 ถัดมาในช่วงมิถุนายน รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะและการสื่อสารของ Facebook อย่างอีเลียต ชราจ (Elliot Schrage) ก็ประกาศลาออกล่วงหน้าไปก่อนอเล็กซ์ สตามอส (Alex Stamos) หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่โบกมือลาเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งหมดนี้ถือเป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นก่อนที่ผู้ก่อตั้ง Instagram ทั้ง 2 รายประกาศลาออกในเดือนกันยายน 2018 การลาออกนี้ถือเป็นรอยด่างพร้อย เพราะก่อนหน้านี้ Facebook มีภาพการเป็นบริษัทที่มีวงจรการเปลี่ยนผู้บริหารกินเวลานานกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทไอทีรายใหญ่ในทำเนียบ S&P 500 สะท้อนว่าในช่วงก่อนหน้านี้ ผู้บริหารที่ตัดสินใจลาออกจาก Facebook มีจำนวนน้อย
ไม่ว่าเหตุผลที่ทำให้ผู้บริหารลาออกคืออะไร แต่ภาวะนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่รุมเร้า Zuckerberg ซึ่งตกที่นั่งผู้ต้องรับผิดชอบที่ Facebook มีปัญหาละเมิด ข่าวปลอม ข้อความแสดงความเกลียดชัง เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และการแทรกแซงการเลือกตั้ง ทุกปัญหาเป็นส่วนหนึ่งในไตรมาส 2 ที่ทำให้หุ้น Facebook ร่วงกระฉูด ส่งให้มูลค่าตลาดของ Facebook ลดลงหลายพันล้านเหรียญในวันเดียว
สำหรับ Instagram ที่ไร้ผู้นำในขณะนี้ คาดว่า Facebook จะต้องมองหามือดีมาบริหาร เพื่อให้สามารถชนช้างกับคู่แข่งที่มาแรงขึ้น ไม่เช่นนั้น Instagram อาจจะก้าวพลาด ในวันที่ต้องเร่งเครื่องปลุกปั้นบริการทีวีชื่อ ไอจีทีวี (IGTV) ให้ติดตลาดให้ได้
นักลงทุนหวั่นใจกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้หุ้นของ Facebook ร่วงลง 2.4% แตะที่ 161.51 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นในช่วงเช้า 25 กันยายน ตามเวลาสหรัฐฯ ส่งให้มูลค่าตลาดบริษัทลดลงมากกว่า 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากราคาตลาดเดิม