อินเทลมุ่งให้ความสำคัญวงการอีสปอร์ต หลังฉลองครบรอบ 50 ปี เร่งผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางอีสปอร์ตในภูมิภาคอาเซียน ระบุอินเทลยังมีการลงทุนในไทยต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นทุกปี ด้วยการทำงานร่วมกับพันธมิตรในประเทศไทย
นายสนธิญา หนูจีนเส้ง ผู้อำนวยการฝ่ายขาย CCG Distribution เอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น อินเทล เทคโนโลยี เอเชีย กล่าวถึงทิศทางของอินเทลในการทำตลาดหลังจากครบรอบ 50 ปี ว่าจะยังคงมุ่งมั่นในการเดินหน้ากลยุทธ์ดาต้า เซ็นทริกซ์ เป็นสำคัญ เนื่องจากเป็นส่วนที่มีการเติบโตต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในตลาดของเกมเมอร์ พีซีแบบ 2-1 และคอมพิวเตอร์ยุคใหม่ (NUC) กลายเป็น 3 ตลาดที่มีการเติบโตสูง เช่นเดียวกับในส่วนของอุปกรณ์คลาวด์ IoT และ AI ที่ถือเป็นตลาดใหม่ของอินเทลในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
“จุดที่คอนซูเมอร์ในประเทศไทยให้ความสนใจมากๆ คือ เกมมิ่ง ซึ่งอินเทล เห็นข้อมูลว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเก็บข้อมูลบนคลาวด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วโลกมีเกมเมอร์ประมาณ 2 พันล้านคน จากประชากรทั่วโลก 7 พันล้านคน ขณะเดียวกัน ผู้ที่เป็นเกมเมอร์เริ่มเข้ามาเป็นนักกีฬาอีสปอร์ต”
ส่วนในประเทศไทยมีประชากร 68 ล้านคน เกือบ 40% หรือราว 27.47 ล้านคน มีการดู เล่นเกม ผ่านพีซี มือถือ และเครื่องเล่นเกมคอนโซล ในจำนวนนี้ 16.3 ล้านคนเล่นเกมบนพีซี โดย 1 ใน 3 เป็นผู้หญิง และกลุ่มเหล่านี้มีผู้ติดตามประมาณ 2.6 ล้านคน
ในแง่ของการแข่งขันในตลาดชิปเซ็ต ทางอินเทล ก็พยามทำให้ดีที่สุด มีการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง เข้ามาลงทุนในการจัดการแข่งขันอีสปอร์ตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศไทยถือเป็น 1 ใน 4 เอเชียแปซิฟิก และเป็นประเทศที่อินเทลให้ความสำคัญที่สุดในอาเซียน
สำหรับเป้าหมายต่อไปของอินเทล คือ การร่วมกับพันธมิตรในประเทศไทย ผลักดันให้วงการอีสปอร์ตในประเทศไทยแข็งแรงขึ้น พร้อมไปกับการก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางอีสปอร์ตของภูมิภาคอาเซียน และอินเทล เชื่อว่า ไทยมีศักยภาพพอ
ทั้งนี้ หนึ่งในประเด็นสำคัญที่อินเทล และแบรนด์ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์หลายๆ ราย ให้ความสำคัญกับตลาดเกม เนื่องจากมีการสำรวจพบว่า ผู้ที่เป็นเกมเมอร์จะมีการเปลี่ยนพีซีทุก 3-4 ปี จากเฉลี่ยคอนซูเมอร์ทั่วไปที่อยู่ราว 5 ปี เช่นเดียวกับมูลค่าตลาดเกม โดยเฉพาะในส่วนของซอฟต์แวร์เกม มีมูลค่าประมาณ 597.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.9 หมื่นล้านบาท ที่ปัจจุบัน ไทยอยู่ราวอันดับ 20 ของโลก ถือว่าเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง และผู้บริโภคพร้อมที่จะจ่ายเงิน