ดีแทค ประกาศ 5 ทีมได้รับรางวัลจาก dtac accelerate batch 6 พร้อมเดินหน้าจัดโครงการต่อเนื่องในปีต่อไป บนความเข้มข้นที่มากกว่าเดิม ส่วนความเคลื่อนไหวในแวดวงสตาร์ทอัปที่คาดยังมีโอกาสได้รับความนิยมในไทยคือ เรื่องของฟินเทค เกษตรกรรม และสุขภาพ ที่ยังต้องการผู้มีความรู้มาช่วยกันพัฒนาต่อไป
นายปานเทพย์ นิลสินธพ รักษาการรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มดิจิทัล กล่าวถึงทีมที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ว่า หลายๆ ทีมมีความพร้อมและประสบการณ์มากขึ้น หลายๆ ทีมมีการสร้างธุรกิจให้เกิดขึ้นจริงแล้ว และเข้ามาร่วมในโครงการเพื่อให้เกิดการต่อยอด และช่วยขยายตลาดไปในต่างประเทศ
"หลักสูตรในปีนี้จะเน้นไปที่การสเกลอัป ของบรรดาสตาร์ทอัปที่เข้ามาร่วมโครงการให้สามารถเติบโตออกไปในตลาดโลกได้มากขึ้น ไม่เหมือนกับในช่วงปีแรกๆ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นการเริ่มสร้างธุรกิจใหม่จากไอเดีย หรือแนวคิดที่มีโอกาสเติบโตในตลาดได้ และเชื่อว่าในปีต่อๆ ไปจะมีความเข้มข้นขึ้นอีก"
ขณะเดียวกัน ด้วยการที่ดีแทคมีพันธมิตรเข้ามาร่วมมากขึ้น ก็ช่วยส่งเสริมให้สตาร์ทอัปสามารถเข้าถึงเครือข่ายในแวดวงสตาร์ทอัป เพื่อพัฒนาธุรกิจได้ต่อเนื่อง รวมถึงการที่มีรุ่นพี่อีก 45 ทีมที่เปรียบเสมือนเป็นครอบครัวคอยช่วยเหลือกันและกัน จึงทำให้โครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัปของดีแทค ได้รับความนิยมมากที่สุด
นายสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ dtac accelerate ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาผู้ที่เข้าร่วมโครงการ dtac accelerate 45 ทีม สามารถสร้างมูลค่าได้กว่า 5 พันล้านบาท และที่น่าสนใจคือ 70% ของสตาร์ทอัปที่อยู่ในโครงการมีนักลงทุนมาร่วมลงทุน เมื่อเทียบกับอัตราเฉลี่ยในท้องตลาดจะอยู่ที่ราว 20%
"ในปีนี้ทีมที่เข้าร่วมโครงการ 5 ใน 11 ทีมได้รับเงินลงทุนไปแล้วเรียบร้อย และคาดว่าหลังจากงานในวันนี้จะมีนักลงทุนเข้ามาร่วมลงทุนเป็น 10 ทีมอย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน ยังมีความน่าสนใจว่าผู้ก่อตั้งของสตาร์ทอัปในปีนี้กว่าครึ่งเป็นผู้หญิง"
การที่มีผู้หญิงเข้ามาในวงการสตาร์ทอัป ถือเป็นแนวโน้มที่ดี เพราะจะช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้แก่อุตสาหกรรม เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัปทั้งหลายมีแต่ผู้ชาย ทำให้อาจจะมีบางแง่มุมที่ผู้หญิงให้ความสนใจ และช่วยผลักดันให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้ต่อไป
ส่วนเทรนด์ของสตาร์ทอัปที่เห็นได้ชัดขึ้นในปีนี้ คือ การมาของทีมที่ให้บริการทางด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับฟินเทค ที่หลายๆ ทีมมีแนวคิดที่น่าสนใจมากขึ้น แต่ที่ยังมองหาอยู่คือทีมที่จะมาผลักดันอุตสาหกรรมการเกษตรในบ้านเราให้พัฒนาขึ้นไปอีก
นายสมโภชน์ กล่าวต่อว่า เชื่อว่าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า สตาร์ทอัปไทยจะมีโอกาสก้าวขึ้นเป็นยูนิคอร์น หรือบริษัทที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านเหรียญ หรือกว่า 3 หมื่นล้านบาทได้แน่นอน โดยจะมาจากบรรดาสตาร์ทอัปรุ่นพี่ในประเทศไทยอย่าง เคลมดิ อุ๊คบี วงใน หรือแม้แต่น้องใหม่อย่างฟินโนมิน่า ก็มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นไปได้
นอกจากนี้ ภายในงานดีแทค ยังได้มีการประกาศทีมที่ได้ Global Expansion Track เข้ามาร่วมอยู่ภายใน dtac accelerate จากแวดวงบล็อกเชนอย่างทีม Blockchain Capital และความร่วมมือระหว่าง Hangar กับโกลเด้นแลนด์ ที่จะจัดพื้นที่บริเวณสามย่าน มิตรทาวน์ ให้ทีมจาก dtac accelerate ไปใช้งาน
สำหรับ 5 ทีมที่ได้รับรางวัลในโครงการ dtac accelerate batch 6 ประกอบไปด้วย ทีม Ooca รับรางวัล TechCrunch Disrupt 2018 ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งได้เยี่ยมชมบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google, Facebook, Airbnb และ Uber
ถัดมาคือ ทีม Somjai Home loan และ Gowabi ได้รางวัล Web Summit 2018 ที่เมืองลิสบอน โปรตุเกส Tech conference ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีผู้ร่วมงานกว่า 60,000 คนในปีที่แล้ว สตาร์ทอัปจะได้โชว์ผลงานเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และพบกับนักลงทุนระดับโลกมากมาย ส่วนทีม Noburo รับรางวัล Line Dev Day เพื่อชมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากไลน์ ที่ประเทศญี่ปุ่น และทีม Doctor A-Z รับรางวัลขวัญใจมหาชน Popular vote
ทั้งนี้ รายละเอียดของทีมที่ชนะรางวัลทั้ง 5 คือ 1.อูก้า Ooca https://www.ooca.co/ เป็นแพลตฟอร์มให้คำปรึกษา ที่มีทั้งนักจิตวิทยาและจิตแพทย์อยู่บนระบบรวมกันมากกว่า 30 ท่าน 2.โกวาบิ GoWabi https://www.gowabi.com/th แอปพลิเคชันสำหรับจองสปาและบริการความสวยงาม พร้อมส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ใช้
3.สมใจโฮมโลน Somjai Home Loan https://somjai.co/ เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการจัดหาสินเชื่อบ้าน ครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม และอาคารพาณิชย์ 4.โนบุโระ Noburo www.noburo.co เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการทางการเงินและสินเชื่อเพื่อเป็นสวัสดิการบริษัทให้แก่พนักงานกลุ่มที่มีรายได้น้อยหรือรายได้รายวัน และ 5.ด็อกเตอร์เอทูซี Doctor A-Z https://doctorsa2z.com/ เว็บแพลตฟอร์มช่วยแนะนำคนไข้ต่างชาติให้ได้พบกับหมอที่เก่งที่สุดในโรคนั้นๆ
