อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเทสลา (Tesla) อธิบายเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจลบบัญชีอินสตาแกรม (Instagram) ของตัวเองเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยใช้คำว่า “Instagram is so thirsty” เปรียบเปรยอ้างอิงบทกวีอมตะสะท้อนว่า Instagram คือ สิ่งอันตรายที่ต้องระวัง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากนักร้องแร็ปอเมริกันกล่าวหา Musk บน Instagram ว่า เศรษฐีอเมริกันรายนี้ยึดโทรศัพท์ของเธอไป
รายงานระบุว่า บัญชี Instagram ของ Elon Musk หัวเรือใหญ่ Tesla นั้น หายไปตั้งแต่ช่วงเช้าวันอังคารที่ 21 สิงหาคม 2018 ตามเวลาสหรัฐฯ จุดนี้สื่ออเมริกันรายงานว่า Musk ไม่แคร์กับยอดผู้ติดตาม หรือ Follower บน Instagram ที่เพิ่มขึ้นตลอดช่วงเวลาหลายปีจนมีมากกว่า 8 ล้านคน
ล่าสุด Elon Musk ออกมาเปิดเผยเหตุผลที่ตัดสินใจปิดการใช้งาน Instagram ผ่านเครือข่ายทวิตเตอร์ (Twitter) โดยระบุว่า “Instagram is so thirsty, yet gives you Death by Water,” ทวีตดังกล่าวอ้างอิงบทกวีของ T.S. Eliot มีความหมายว่า “Instagram กระหายน้ำมากนัก แต่ยังทำให้คุณเสียชีวิตด้วยน้ำ”
Instagram is so thirsty, yet gives you Death by Water
— Elon Musk (@elonmusk) 21 สิงหาคม 2561
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่า Elon Musk เลิกใช้ Instagram เพราะเหตุการณ์วันจันทร์ (20 ส.ค.) ที่ผ่านมา วันดังกล่าวนักร้องแร็ปเปอร์ “อะซีเลีย แบงค์ส” (Azealia Banks) ติดแท็กชื่อ elonMusk ผ่านบริการ Instagram story กล่าวหาว่า Elon Musk ยึดโทรศัพท์ของเธอไป หลังจากที่เธอเดินทางไปพบมหาเศรษฐีระดับโลกช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แร็ปเปอร์ Banks พยายามเรียกร้องให้ Elon Musk คืนโทรศัพท์ของเธอ พร้อมกับขู่ว่า จะแจ้งตำรวจ ทั้งหมดนี้สื่ออเมริกันเชื่อว่า ข้อกล่าวหานี้มีต้นเหตุเกี่ยวข้องกับความลับทางธุรกิจ โดย Azealia Banks เคยตกเป็นข่าวใหญ่เมื่อต้นสิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากได้เดินทางไปที่บ้านของ Musk ที่แอลเอ เวลานั้น ซีอีโอของ Tesla ประกาศว่า บริษัทได้รับเงินทุนเพื่อปรับให้ Tesla เป็นบริษัทเอกชน แต่ Banks กลับระบุว่า เธอได้ยิน Musk พูดถึงเรื่องนี้โดยใช้คำว่า “scrounging for investors” ซึ่งมีความหมายแง่ลบว่าการขโมย
เบื้องต้น โฆษกของ Musk ยืนยันว่า มหาเศรษฐี Elon Musk ไม่รู้จัก Azealia Banks ยืนยันว่า Elon Musk ไม่ได้ยึดโทรศัพท์ของแร็ปเปอร์รายนี้ เช่นเดียวกับทนายของ Elon Musk ที่ไม่ได้ยึดโทรศัพท์ไปตามที่แร็ปเปอร์กล่าวหา
สถานการณ์อีนุงตุงนังนี้ คาดว่าจะมีการรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมต่อไป