ถูกจับผิดเต็มที่สำหรับหัวเว่ย (Huawei) ในโฆษณาชุดใหม่ โดยชาวเน็ตอเมริกันพร้อมใจส่งต่อความจริงว่า Huawei พยายามใช้ภาพจากกล้องมือโปรดีเอสแอลอาร์ (DSLR) มาทำให้ผู้ชมโฆษณาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นภาพเซลฟี่จากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ เรียกเสียงวิจารณ์ร้อนแรง เพราะความลับนี้หลุดออกมาจากโพสต์อินสตาแกรม (Instagram) ของนางแบบโฆษณาเอง
การเปิดโปงนี้จุดประกายให้ผู้บริโภคทุกคนอย่าเชื่อทุกอย่างที่โฆษณานำเสนอ กรณีล่าสุด คือ โฆษณาโนวาทรีไอ (Nova 3i) ของ Huawei ซึ่งแสดงภาพเซลฟี่จากกล้องที่ดูดีกว่าความเป็นจริง
ภาพต้นเหตุ คือ ภาพที่ Huawei ตั้งใจนำเสนอว่า ถ่ายโดยกล้องหน้าของ Nova 3i ภาพนี้มีเจตนาทำให้ผู้ใช้เข้าใจว่า กล้องถ่ายรูปของ Nova 3i หันหน้าไปทางนางแบบหญิง ซึ่งกำลังแต่งหน้า โดยมีชายคนหนึ่งถือโทรศัพท์ Nova 3i พร้อมกับเอนตัวเพื่อถ่ายภาพเซลฟี่
แต่ภาพเบื้องหลังที่โพสต์โดยซารา เอลชามี (Sarah Elshamy) นักแสดงหญิงในโฆษณาของหัวเว่ย ประเทศอียิปต์ (Huawei Mobile Egypt) โพสต์ดังกล่าวสะท้อนว่า นายแบบโฆษณาไม่ได้ถือ Nova 3i และมีการใช้กล้อง DSLR ถ่ายภาพจริง
ผู้ใช้บริการเรดดิต (Reddit) ชื่อ AbdullahSab3 จึงออกมาเปิดโปง โดยโพสต์ที่เผยแพร่เบื้องหลังการถ่ายทำโฆษณาซึ่งลงวันที่โพสต์วันจันทร์ 20 สิงหาคม 2018 ถูกนักแสดงหญิงลบภาพไปเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม หัวเว่ย (Huawei) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเน็ต (CNET) ว่า บริษัทมีการระบุ disclaimer หรือคำประกาศความรับผิดชอบในตอนท้ายของวิดีโอว่า ภาพและเนื้อหาที่แสดงในโฆษณานั้นเป็นข้อมูล “สำหรับอ้างอิง” เท่านั้น
สำหรับข้อความภาษาอาหรับที่แสดงในวิดีโอ ไม่ได้ให้ข้อมูลที่หวังให้ผู้ชมเข้าใจว่า ภาพนี้ไม่ได้ถ่ายโดย Nova 3i รายงานจาก CNET ระบุว่า ข้อความดังกล่าวแปลว่า ลักษณะผลิตภัณฑ์ และข้อกำหนดที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไป (เช่น สี และขนาด) รวมทั้งเนื้อหาในการนำเสนอ ทั้งส่วนติดต่อผู้ใช้ และตัวควบคุม
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Huawei ใช้ภาพจากกล้อง DSLR แทนภาพเซลฟี่ของสมาร์ทโฟนตัวเอง ย้อนไปเมื่อปี 2016 บริษัทมังกรใช้กล้อง Canon EOS 5D Mark III ราคากว่า 4,500 เหรียญสหรัฐ เพื่อถ่ายภาพที่ถูกยกว่าเป็นภาพจากสมาร์ทโฟน P9 ซึ่งครั้งนั้น Huawei ออกแถลงการณ์ยอมรับความผิดพลาด และลบภาพดังกล่าวออกไป
ครั้งนั้น Huawei ย้ำถึงความตระหนักดีว่าควรมีคำอธิบายภาพที่ชัดเจนกว่านี้ ขณะเดียวกัน ก็ยืนยันว่าบริษัทไม่เคยตั้งใจที่จะทำให้ใครเข้าใจผิด คาดว่าความผิดพลาดครั้งนี้ Huawei ก็จะขออภัย และออกแถลงการณ์ในสไตล์เดียวกัน
