กลุ่มทรู ประกาศลงทุน 3.6 พันล้านบาท ในระยะเวลา 15 ปี สร้างเครือข่ายสายเคเบิลใต้น้ำ ในโครงการ “Southeast Asia - Japan 2 consortium” (SJC2) เชื่อมอาเซียนสู่เอเชียเหนือ คาดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 2020
นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของกลุ่มทรูที่มีการลงทุนในเคเบิลใต้น้ำอย่างเป็นทางการ โดยจุดประสงค์หลักเพื่อนำมาให้ลูกค้าภายในกลุ่มทรูใช้บริการอินเทอร์เน็ตต่างประเทศ
โดยรูปแบบของการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นการลงทุนร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นบริษัทชั้นนำทางด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น China Mobile International จากประเทศจีน, Chunghwa Telecom จากไต้หวัน, Chuan Wei ฮ่องกง, Facebook, KDDI ญี่ปุ่น, Singtel สิงคโปร์, SK Broadband เกาหลี, กลุ่มทรู และ VNPT เวียดนาม
เพื่อเชื่อมการใช้งาน International Internet Gateway (IIG) ระหว่างสิงคโปร์ ไทย กัมพูชา เวียดนาม ฮ่องกง ไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยโครงการสายเคเบิลใต้น้ำดังกล่าวมีความยาวกว่า 10,500 กิโลเมตร มีจุดการเชื่อมต่อทั้งหมด 11 จุดในภูมิภาค คาดจะสามารถดำเนินการเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020
“กลุ่มทรูใช้เงินลงทุนในโครงการนี้เพื่อเชื่อมเคเบิลใต้น้ำเส้นดังกล่าวเข้ามาสู่ประเทศไทยราว 3.6 พันล้านบาท โดยจะเป็นการลงทุนต่อเนื่องในช่วง 15 ปีข้างหน้า ในขณะที่เคเบิลใต้น้ำเส้นดังกล่าวจะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องไปอีก 25 ปี”
ทั้งนี้ ในการเข้าร่วมโครงการเคเบิลใต้น้ำ SJC2 จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างประเทศทั้งของบริษัท และของประเทศ เพื่อรองรับการใช้งานดาต้า และวิดีโอ สตรีมมิ่ง ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด และจะช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำในฐานะเป็นผู้ให้บริการบรอดแบนด์อันดับ 1 และผู้นำตลาดบรอดแบนด์ดาต้าไร้สาย ที่จะช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมด้านการเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างประเทศของไทย