เผยเหตุผล “เอไอเอส” ดึง “เบลล่า” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุด

จับกระแสให้ทัน คอนเทนต์ต้องตรงใจ ตรงเวลา และตรงกับความสนุก จึงทำให้ “เอไอเอส” ตัดสินใจดึง “เบลล่า ราณี” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุด โดยเป็นการทำงานร่วมกับทั้งทีมงานผลิต เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่มาจากทีมงานต้นฉบับ

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ระบุว่า จากการที่เอไอเอสมีแผนที่จะพัฒนาแพลตฟอร์ม Play 365 ขึ้นมาให้บริการร่วมกับพาร์ตเนอร์ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ถูกใจ และโดนใจกับผู้บริโภค

“ผลงานชิ้นนี้จึงถือเป็นตัวอย่างที่สำคัญของความร่วมมือกับดารา และผู้ผลิต ที่ผลิตชิ้นงานออกมาเสมือนเป็นละครที่ถูกเขียนบทขึ้นมาจากทางผู้สร้าง ที่ได้สามารถเข้าถึงผลตอบรับได้แบบเรียลไทม์ ทำให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เกิดขึ้น ซึ่งแสดงว่า ละครเรื่องดังกล่าวตอบโจทย์กลุ่มคนทุกช่วงอายุ และตั้งแต่ในเมือง ไปถึงนอกเมือง”

ขณะเดียวกัน ก็ถือเป็นแนวทางที่ชัดเจนในการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่ได้รับความร่วมมือจากทั้งผู้ผลิต คือ บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น และทีมของช่อง 3 ในการนำเนื้อหามาสร้างความต่อเนื่อง และผลิตออกมาจากทีมงานต้นฉบับ

“รูปแบบของโฆษณาชุดนี้เป็นการผสมผสานในเชิงละคร และการสื่อสารทางการตลาดออกไปยังลูกค้า ในช่วงที่ตรงใจ ตรงเวลา และตรงกับความสนุกในช่วงนี้ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะทยอยเห็น เบลล่า ทำงานร่วมกับเอไอเอส มากขึ้น”

ทำให้ปัจจุบัน เอไอเอส มีพรีเซ็นเตอร์ที่มาอยู่ในครอบครัว ไล่ตั้งแต่ เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข, แต้ว-ณัฐพร เตมีรักษ์, มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน, เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ, เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร, ทอม room39 ก้อง ห้วยไร่ และล่าสุดคือ เบลล่า-ราณี แคมเปน

“จะเห็นได้ว่าพรีเซ็นเตอร์แต่ละรายมีความหลากหลาย ซึ่งก็จะช่วยทำให้เกิดการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์หลากหลายเซกเมนต์ ในการส่งข้อมูลสื่อสารออกไปยังกลุ่มลูกค้าของเอไอเอสเพื่อตอบรับกับลูกค้ากว่า 40 ล้านคน”

โดยสถิติจากละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ที่เรตติ้งตอนล่าสุดในคืนวันพุธที่ 21 มีนาคม 2560 ในเขตกรุงเทพฯ อยู่ที่ 23.4 และทั่วประเทศ 16.0 รวมถึงกระแสในโซเชียลมีเดีย ที่การมีส่วนร่วม (Engagement) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เช่นเดียวกับยอดรับชมบน AIS Play ที่เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า

“ความเร็ว และทำให้ถูกที่ถูกทางจะทำให้คนรู้สึกดีกับเอไอเอส เกิดขึ้นได้ เพราะทีมงานการตลาด และทีมงานสื่อสารของเอไอเอสที่ศึกษาว่า อะไรคือสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ และทีมทำงานได้รวดเร็ว การจ้างผลิต จ้างทำ เขียนเรื่อง อาจจะไม่ทำให้เกิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมาได้ ขณะเดียวกัน ก็ทำให้ระยะเวลาในการทำโปรดักชันสั้นลง จากเดิม 6-8 สัปดาห์ เหลือไม่กี่สัปดาห์” นายปรัธนา กล่าวปิดท้าย