คนไทยพร้อมใช้ดิจิทัล กูเกิลระบุไทยไม่ได้ล้าหลังในแง่เศรษฐกิจดิจิทัล

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา กูเกิล และเทมาเส็ก ได้เคยออกมาเผยผลสำรวจรายงานเรื่องกูเกิล-เทมาเส็ก อีโคโนมี ซี สปอตไลต์ 2017 (Google-Temasek e-Conomy SEA Spotlight 2017) ถึงโอกาสของธุรกิจดิจิทัลที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาค

ภายในรายงานดังกล่าว ได้มีการพูดถึงธุรกิจออนไลน์ในประเทศไทยที่มีโอกาสเติบโตระดับ 3.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2025 โดยเฉพาะจาก 2 ธุรกิจ คือ อีคอมเมิร์ซ และบริการร่วมเดินทาง (Ride-Hailing) ที่เข้ามาให้บริการในประเทศไทย ถือเป็น 2 ส่วนที่เติบโตสูงที่สุด

เบน คิง ผู้อำนวยการ ประจำประเทศไทย กูเกิล ประเทศไทย ระบุว่า ตอนนี้ในประเทศไทยถือว่าในส่วนของผู้บริโภคเริ่มก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลแล้ว จากทั้งจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 45 ล้านราย โดยในจำนวนนี้ กว่า 20 ล้านรายเป็นลูกค้าที่ใช้บริการโทรศัพท์มือถือแบบรายเดือน และคาดว่าจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะเพิ่มเป็น 59 ล้านรายในปี 2025

“คนไทยมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือถึง 4.2 ชั่วโมงต่อวัน” เบน คิง ระบุ “เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในภูมิภาคจะอยู่ที่ราว 3.9 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น จึงเห็นได้ว่าคนไทยมีการใช้งานสูงที่สุดในโลก แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยพร้อมแล้วกับดิจิทัล”

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการให้บริการดิจิทัล จำเป็นต้องมีผู้ประกอบการ หรือผู้ให้บริการที่มีความรู้ความเข้าใจในบริการดิจิทัลด้วย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ให้บริการเหล่านี้จะปรับตัว และนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่ดิจิทัล

ทั้งนี้ ในรายละเอียดของงานวิจัยดังกล่าว เมื่อมองถึง 4 ธุรกิจดิจิทัลที่สำคัญมีอัตราการเติบโตจะประกอบไปด้วยธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ (บริการจองโรงแรมผ่านช่องทางออนไลน์ และสายการบิน) ธุรกิจออนไลน์มีเดีย และบริการร่วมเดินทาง

ถ้าเทียบการเติบโตระหว่างปี 2015 กับปี 2017 ในส่วนของธุรกิจอีคอมเมิร์ซจากที่มีมูลค่าการซื้อขายรวม 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์จากมูลค่า 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 6.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ออนไลน์มีเดียจากมูลค่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และบริการร่วมเดินทางจากที่มีมูลค่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

“อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 43% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจนถึงปี 2025 จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 29% ส่วนในธุรกิจบริการร่วมเดินทางในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 40% และจนถึงปี 2025 จะเติบโตเฉลี่ยราว 25%”

นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีโอกาสเติบโตถึง 12 เท่าในช่วง 10 ปี เมื่อนับจากปี 2015-2025 ที่มูลค่าการซื้อขายรวมจาก 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จะทะลุไปอยู่ในระดับ 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นโอกาสเติบโตเป็นอย่างมาก