ในวันที่ธุรกิจสถาบันการเงินมองหาแนวทางประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการปิดสาขากันอยู่นี้ ในสหรัฐอเมริกาเองก็มีการศึกษาที่สะท้อนภาพบางอย่างออกมาให้เราได้เห็นกัน นั่นคือ ชาวอเมริกันประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ที่ตอบแบบสอบถามมองว่า การไปเปิดบัญชีที่ธนาคารนั้น ให้ความรู้สึกจริงจังมากกว่าการเปิดบัญชีผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป
แนวคิดเรื่องการปรับตัวของธนาคารให้ขึ้นไปอยู่บนโลกออนไลน์อย่างเดียว และเข้าถึงได้ทุกหนทุกแห่งตราบเท่าที่มีสมาร์ทโฟนในมือนั้นดูท่าจะเจอความท้าทายครั้งใหม่ เมื่อมีผลสำรวจจากบริษัทที่ปรึกษาชื่อโนแวนทัส (Novantas) พบว่า ลูกค้าธนาคารกว่าครึ่งรู้สึกว่า ธนาคารที่เข้าถึงได้ผ่านออนไลน์เพียงช่องทางเดียวนั้น มีความน่าเชื่อถือน้อยกว่าธนาคารที่มีสาขาให้เห็น และการไปทำธุรกรรมบางอย่างที่ธนาคารสาขาก็เป็นสิ่งที่ลูกค้าอยากไปมากกว่าจะทำผ่านออนไลน์แบงกิ้ง
“ผู้คนยังรู้สึกสบายใจที่มีธนาคารสาขาอยู่ใกล้ ๆ และสามารถไปใช้บริการได้เมื่อต้องการ แม้ว่าพวกเขาจะเดินทางไปที่ธนาคารสาขาน้อยลงกว่าเมื่อก่อนก็ตาม” แมทธิว ชาร์ป (Matthew Sharp) จากโนแวนทัส กล่าว
สำหรับการสำรวจนี้จัดทำขึ้นเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา และมีผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถาม 4,352 คน โดยเป็นการทำแบบสอบถามออนไลน์ และพบว่า หากธนาคารยังพอจะเจียดเงินเพื่อเปิดธนาคารสาขาเอาไว้ จะเป็นผลดีต่อธุรกิจมากกว่าการย้ายไปอยู่บนโลกออนไลน์แต่เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะเวลาที่ลูกค้าใหม่มาเปิดบัญชี
การสำรวจนี้ยังสอดคล้องกับทิศทางของหลาย ๆ ธนาคาร เช่น JPMorgan Chase & Co และ Bank of America Corp ที่บอกว่าจะเปิดสาขาเพิ่มในอีกหลายเมือง เช่น พิตส์เบิร์ก หรือ JPMorgan ที่บอกว่าอยากเปิดสาขาเพิ่มอีกประมาณ 400 สาขาในอีก 5 ปีข้างหน้า ในเมืองอย่างบอสตัน หรือวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วย
อย่างไรก็ตาม รูปแบบของสาขาอาจเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน เช่น อาจมีพื้นที่เล็กลง หรือปรากฏอยู่ในรูปแบบของคีออสตู้เอทีเอ็ม เพราะอย่าลืมว่า คนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นคนเจเนอเรชันใหม่นั้น หันมาทำธุรกรรมผ่านออนไลน์กันมากขึ้น ซึ่งการเปิดสาขาในพื้นที่ที่กว้างขวางอาจเป็นการสิ้นเปลืองเกินไปก็เป็นได้