เป็นเวลากว่า 10 ปี นับจากวันแรกที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม ได้ทดลองนำ iPad เข้ามาใช้ในการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่ได้มีโครงการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรครู
รวมไปถึงการบูรณาการนำ iPad มาเป็นสื่อการเรียนการสอนหลักในกลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาไทย เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าถึงองค์ความรู้ได้ง่ายขึ้น และสนุกไปกับการเรียนการสอนมากยิ่งขึ้น โดยหลังจากที่ได้ทดลองใช้งานมาเกือบ 10 ปี จนทำให้ได้รับการยอมรับในปัจจุบัน
ครูคือหัวใจสำคัญอันดับแรก
อาจารย์พรรณงาม ใจรักษ์ศักดิ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยถึงเป้าหมายของโครงการในการนำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพของบุคลากรครู และนักเรียน รวมไปถึงพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพหลักสูตรการเรียนการสอน
โดยเริ่มจากการสร้างครูให้เป็น iTeachers ที่ไม่เป็นเพียงแค่ผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจ และมีความเชี่ยวชาญในการใช้อุปกรณ์ด้านเทคโนโลยี แต่ยังสามารถเป็นผู้ออกแบบหลักสูตร พัฒนาสื่อการเรียนการสอน และนำเทคโนโลยีมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการคัดสรรแอป อุปกรณ์ และวิธีการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับเนื้อหาวิชาและนักเรียนในแต่ละระดับชั้นได้
ปัจจุบัน โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม มีนักเรียนทั้งหมดประมาณ 1,500 คน และมีบุคลากรครูประมาณ 110 คน ในเบื้องต้น ทางโรงเรียนได้จัดฝึกอบรมครูต้นแบบประมาณ 40 คน จากทุกกลุ่มสาระวิชาในทุกระดับชั้นเรียน เพื่อเรียนรู้ ฝึกฝน และฝึกออกแบบสื่อการสอนด้วย iPad และแอปพลิเคชันที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนการสอนโดยมี iPad Air 2 และ iPad Pro จำนวน 40 เครื่องสำหรับให้ครูใช้ในการพัฒนาหลักสูตร และอีก 80 เครื่องสำหรับนักเรียนให้หมุนเวียนใช้ในคาบเรียน
ประสิทธิภาพการเรียนการสอนที่วัดผลได้
ครูต้นแบบทั้ง 40 คนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการแบ่งกลุ่มเป็นกลุ่มย่อยเพื่อเข้าอบรมและฝึกฝนทักษะในช่วงเย็นหลังเสร็จสิ้นการสอนในแต่ละวัน โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่มีประสบการณ์และความเข้าใจด้านการเรียนการสอนมาช่วยดูแลและฝึกอบรมให้อย่างใกล้ชิด
กลุ่มครูต้นแบบ จะมีการแบ่งปันความรู้ เทคนิค และผลตอบรับจากนักเรียนต่อหลักสูตรของตนให้แก่กัน รวมไปถึงกระจายความรู้และประสบการณ์ที่ได้ให้กับครูคนอื่น ๆ ในโรงเรียน ทำให้มีการพัฒนาศักยภาพของตัวผู้สอนและหลักสูตรการเรียนอยู่ตลอดเวลา
ในช่วงแรกของโครงการ ทางโรงเรียนได้มีการจัดห้องเรียนทดลอง 1 ห้องที่เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองของนักเรียนได้เข้ามาเยี่ยมชมการเรียนการสอนด้วย iPad เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยประเมินและพัฒนาหลักสูตร และผู้ปกครองยังสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละหลักสูตรวิชาได้ผ่านระบบ E-learning ใน iTunes U เมื่อได้รับอนุญาตจากอาจารย์ผู้สอนวิชานั้น ๆ
นอกจากนี้ทางโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม ยังได้จัดให้มีวัน Teacher Showcase เพื่อให้ครูต้นแบบแต่ละท่านได้นำเสนอหลักสูตรที่ตนเองคิดค้นในการบูรณาการการเรียนการสอนด้วย iPad มาเผยแพร่และแบ่งปันให้กับครู สมาคมผู้ปกครอง และตัวแทนจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม และในทุกๆ วันพุธ ทางโรงเรียนจะมีคลีนิกพิเศษเพื่อคอยตอบคำถามและให้ความช่วยเหลือครูในกรณีที่มีปัญหา ต้องการคำแนะนำหรือการสนับสนุนเพิ่มเติมด้านการใช้งาน iPad แอพพลิเคชั่น หรือเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีอื่นๆ
ทั้งนี้ รูปแบบของการนำแอปพลิเคชันมาใช้งาน จะมีอย่างการใช้ Keynote ในสร้างพรีเซนเทชันแบบมืออาชีพ นำ iMovie มาสร้างวิดีโอภาพยนตร์จากไฟล์วิดีโอ และรูปภาพ เพื่อนำเสนอและถ่ายทอดเรื่องราว iTunes U ช่วยให้ครูครูวางแผน ออกแบบ และจัดการหลักสูตรการเรียนการสอนได้ตามที่ต้องการ
Swift Playground เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้วิธีการเขียนโค้ดอย่างสนุกสนานผ่านโปรแกรมการสอนแบบอินเทอร์แอ็กทีฟ Kahoot วิถีใหม่แห่งการเรียนรู้ผ่านเกมส์และควิซที่น่าสนใจ และ Book Creator - สร้างเนื้อหาในหนังสือ e-book ของตัวเองอย่างสร้างสรรค์ และน่าสนใจ
พร้อมยกตัวอย่างการเรียนการสอนมีรูปแบบที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น ในวิชาภาษาไทย จากการอ่านวรรณคดีจากตัวหนังสือและภาพนิ่งในหนังสือ ก็สามารถอ่านแบบมีเสียงอ่าน หรือมีภาพเคลื่อนไหวประกอบได้ หรือการฝึกอ่านทำนองเสนาะ นักเรียนก็สามารถฟังเสียงตัวอย่าง ฝึกซ้อม และอัดเสียงของตัวเอง เพื่อฟังและพัฒนาการอ่านได้ดียิ่งขึ้น
อาจารย์ณัฐชนา มณีพฤกษ์ อาจารย์กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี แบ่งปันประสบการณ์การออกแบบหลักสูตรด้วย Keynote และ Kahoot ในการสอนนักเรียนถึงที่มาและวิธีการทำเครื่องดักฝัน (Dream Catcher)
โดยเริ่มจากการให้ดูการ์ตูนถึงที่มาของเครื่องดักฝัน ต่อด้วยภาพการ์ตูนอธิบายวิธีการทำในแต่ละขั้นตอนก่อนให้ชุดคำถามเพื่อทบทวนเนื้อหากับนักเรียน และเปิดโอกาสให้นักเรียนได้โชว์และแชร์ผลงานของตนในระบบออนไลน์
อย่างการสอนวิชาการเขียนโค้ดที่มีความซับซ้อนและอาจจะเข้าใจได้ยากสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา ก็นำ Swift Playground มาใช้ควบคู่กับการสอนแบบดั้งเดิม โดยให้นักเรียนได้ดูวิดีโอการฝึกเขียนโค้ด และให้ฝักสังเกตรูปแบบการเขียนโค้ดต่าง ๆ
จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในการดึงความสนใจ สร้างปฏิสัมพันธ์ และพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนมากขึ้น ผู้สอนเองก็สามารถประเมินการรับรู้ข้อดีและสิ่งที่ควรปรับปรุงผ่านการปฏิสัมพันธ์กับนักเรียนในชั้นเรียนได้ดียิ่งขึ้น ทำให้สามารถกลับไปพัฒนาหลักสูตรและรูปแบบการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน การบูรณาการหลักสูตรด้วยเทคโนโลยีและกิจกรรมที่หลากหลายแต่ครอบคลุมทุกการพัฒนาทักษะและกระบวนการเรียนรู้ในแต่ละวิชานี้ นอกจากจะทำให้ทั้งผู้เรียน และผู้สอน รู้สึกสนุก มีชีวิตชีวา และให้ความสนใจกับการเรียนการสอนอย่างเต็มที่แล้ว ยังเป็นการต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ และสร้างความสุขในชั้นเรียนให้กับครู และนักเรียน ได้เป็นอย่างดี