xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อทุกสิ่งเชื่อมต่อและพูดคุยกันเองด้วย True IoT มาสัมผัสกับโลกอนาคตที่เกิดขึ้นจริงแล้วว่าเป็นอย่างไร?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ณ เวลานี้เราเห็นการเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ของเทคโนโลยี Augmented Reality และ Virtual Reality (ความเป็นจริงเสมือน) เทคโนโลยีที่นำโลกดิจิทัลมาทาบทับอยู่บนการรับรู้ของมนุษย์ นั่นหมายถึงข้อมูลข่าวสาร ที่เข้าสู่ตา และหูของคุณเมื่อคุณต้องการมัน แล้วคุณจะถือมือถืออยู่ทำไมถ้า เน็ตฟลิกซ์ และวอตซ์แอปฯ นั้นสามารถแสดงข้อมูลได้ต่อหน้าต่อตาคุณ ทันทีเมื่อคุณต้องการ?” --- แมตต์ ไวน์เบอร์เกอร์ นักข่าวด้านเทคโนโลยีแห่ง Business Insider

ตัวเลขเมื่อปี 2560 ระบุว่า พฤติกรรมในการใช้สมาร์ทโฟนของคนไทยนั้นอยู่ที่ราว 4 ชั่วโมงต่อวัน (230 นาที) โดยกิจรรมที่ผู้บริโภคนิยมใช้ผ่านสมาร์ทโฟนมากที่สุด คือการสื่อสาร ซึ่งใช้เวลาต่อวันไปทั้งหมด 78 นาที โดยในจำนวน 78 นาทีนี้ ประเภทของการสื่อสารที่ผู้บริโภคนิยมใช้งานมากที่สุดคือ การสนทนา คิดเป็น 66 นาทีต่อวัน ส่วนกิจกรรมที่นิยมรองลงมา คือ การใช้งานแอปพลิเคชัน 66 นาที, การใช้งานเพื่อความบันเทิง 42 นาที และการบริการจัดการ 27 นาที

แต่ทราบหรือไม่ว่าสมาร์ทโฟนที่ปัจจุบันพวกเรานิยมใช้ รู้สึกขาดไม่ได้ จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นอวัยวะอีกชิ้นของเรานี้ กำลังจะค่อย ๆ ลดความสำคัญลง และในที่สุดอาจจะไม่มีความจำเป็นเลยก็ได้ เพราะโลกกำลังพัฒนาไปสู่ยุคสมัยแห่งอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง หรือ IoT

IoT ย่อมาจาก Internet of Things คือเทคโนโลยีที่ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถแลกเปลี่ยน ถ่ายโอนข้อมูลระหว่างกันโดยผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์ธรรมดา ๆ ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้เมื่อเชื่อมต่อหรือมี Internet of Things เข้ามาจะกลายเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะทันที

IoT มีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน เช่นช่วยอำนวยความสะดวก ช่วยลดขั้นตอนบางอย่างในชีวิตประจำวัน ช่วยเรื่องความปลอดภัย ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม สุดท้ายคือช่วยให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมากขึ้นโดยเราสามารถควบคุมการทำงานของสิ่งของต่าง ๆ ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เรียกได้ว่าเราสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส

แล้วตัวอย่างของ IoT ที่จับต้องได้มีอะไรบ้างล่ะ? ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น

• นาฬิกาเด็กอัจฉริยะ (Kidz Watch) อุปกรณ์โทรได้ ถ่ายรูปได้ พร้อมระบุตำแหน่งของผู้ใส่และเชื่อมต่อข้อมูลกับสมาร์ทโฟนผ่านแอพ ให้ผู้ปกครองอุ่นใจไร้กังวลถึงความปลอดภัยของบุตรหลาน

• ตู้เย็นอัจฉริยะ ที่มีตัวตรวจจับจำนวนสิ่งของต่าง ๆ ในตู้ เมื่ออาหารในตู้เย็นใกล้จะหมดอายุจะมีข้อความแจ้งเตือนไปยังสมาร์ทโฟนให้เราสั่งซื้อของได้

• เครื่องซักผ้าและราวตากผ้าอัจฉริยะ ที่สามารถสั่งให้เครื่องซักผ้าเริ่มซักและปั่นได้ล่วงหน้าผ่านมือถือ เมื่อซักเสร็จจะรายงานบอกเรา และส่งข้อมูลหาราวตากผ้าให้เคลื่อนตัวออกมากลางแดดโดยอัตโนมัติ พอถึงบ้าน เราก็เอาผ้าจากเครื่องไปตากได้ทันที หรือถ้าระหว่างที่ผ้าตากอยู่แล้วราวตากผ้าเกิดรับข้อมูลจากพยากรณ์อากาศว่าฝนกำลังจะตก ราวตากผ้าก็สามารถขยับเข้ามาหลบในร่มเองได้

• กล้องอัจฉริยะ Cloud CCTV กล้องนิรภัยที่ติดตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ ในเมือง เมือมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นจะส่งข้อมูลภาพไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อควบคุมภัย อาทิสถานีตำรวจ เป็นต้น

• หุ่นยนต์อัจฉริยะ จากTrue Robotics หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ตัวจิ๋ว Robotis MINI ที่เป็นทั้งเพื่อนเล่น เพื่อนสนิทช่วยสร้างทักษะในการเรียนรู้ของเด็ก เยาวชน นอกจากนี้ ยังมีหุ่นยนต์นาโอะ (Nao) ที่เป็นเพื่อนคู่ใจทางธุรกิจอีกด้วย

ทั้งหมดเป็นจุดเริ่มต้นของ IoT ในประเทศไทยที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ของคนไทยให้สมาร์ทขึ้นและก้าวสู่ยุคThailand 4.0 อย่างแท้จริง

ติดตามข่าวสาร IoT จากทรูเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : True IoT และ www.trueiot.com



กำลังโหลดความคิดเห็น