ขณะที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างรับคนเป็นว่าเล่น แต่ในฟากของยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอย่างแอมะซอน (Amazon) กลับสวนทาง เมื่อมีสื่อในสหรัฐอเมริกาออกมารายงานว่า แอมะซอนมีการประกาศลดคนงานเสียแล้ว
การปรับลดพนักงานในองค์กรครั้งนี้ คาดว่าจะมีคนที่ถูกเลย์ออฟหลายร้อยตำแหน่ง ซึ่งมีทั้งพนักงานในสำนักงานใหญ่ และส่วนงานอื่น ๆ ทั่วโลก โดยผู้รายงานอย่างซีแอตเทิลไทม์สเผยว่า ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยเลยสำหรับแอมะซอน ที่มีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ขณะที่แอมะซอน อธิบายว่า บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเสนอตำแหน่งหน้าที่ใหม่ให้กับพนักงาน และบริษัทยังมีแผนจ้างงานเพิ่มอีกหลายตำแหน่ง โดยในตอนนี้ หากเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทจะพบว่ามีการประกาศรับสมัครงานไว้นับพันตำแหน่ง
ตัวเลขเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แอมะซอนมีพนักงานมากกว่า 560,000 คน (ทั้งฟูลไทม์ และพาร์ตไทม์) ทั่วโลก โดยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 65 เปอร์เซ็นต์ในปีที่ผ่านมา
ส่วนตำแหน่งงานใหม่ที่บริษัทต้องการนั้น เป็นงานเกี่ยวกับคลาวด์, รวมถึงการพัฒนาผู้ช่วยอัจฉริยะอเล็กซ่า และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ตอนนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างสร้างทีมให้แข็งแกร่งขึ้น
หันมาดูทางด้านฐานะทางการเงินของบริษัท พบว่าแข็งแกร่งไม่น้อย กับผลประกอบการสวยหรู มีกำไร 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ บนยอดขายกว่า 178,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อปีที่ผ่านมา เฉพาะในไตรมาส 4 ไตรมาสเดียว แอมะซอนสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้น 38 เปอร์เซ็นต์ แตะที่ 60.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีกำไรถึง 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า การปิดธุรกิจบางอย่างที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของอนาคต รวมถึงการลดคนงานนั้นยังเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ในบริษัทแห่งนี้ ยกตัวอย่างเช่น การปิดตัว Diapers.com ไปเมื่อปีที่ผ่านมา รวมถึงเว็บไซต์อื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของ Quidsi ที่บริษัทควบกิจการมาเมื่อปี 2010 ในราคาประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และทำให้ต้องมีคนตกงาน 260 คนในนิวเจอร์ซีย์ด้วย
ในจุดนี้จึงเป็นวัฒนธรรมที่ค่อนข้างแตกต่างจากธุรกิจยักษ์ใหญ่หลาย ๆ รายในบ้านเราที่ออกมายืนยันหนักแน่นว่ารายได้ที่มียังเพียงพอต่อการดูแลทีมงานทั้งหมด และจะไม่มีการประกาศลดคนงานแต่อย่างใด