เอไอเอส เร่งขยายสาขา Serenade Club เป็น 20 สาขา ภายใต้งบลงทุน 680 ล้านบาท เพื่อรองรับลูกค้าเซเรเนดที่คาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้น 40% เป็น 6.3 ล้านราย จากฐานลูกค้าทั้งหมด 40.1 ล้านราย ชี้ศูนย์บริการยังจำเป็นสำหรับลูกค้าค่ายมือถือในการซื้อเครื่อง และปรึกษาการใช้งาน
นางบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและการบริการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวถึงแนวทางในการดูแลลูกค้าของเอไอเอส เซเรเนด ปีนี้ว่า จะมีการเพิ่มงบประมาณ 680 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยาย Serenade Club เพิ่มเป็น 20 สาขา ให้รองรับลูกค้าเซเรเนดที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้
โดยปริมาณลูกค้าเซเรเนดที่เพิ่มขึ้นจะมาจากทั้งในแง่ของบริการที่เพิ่มขึ้นอย่าง AIS Fibre การรวมบริการของลูกค้าที่อยู่ภายใต้เลขบัตรประชาชนเดียวกัน รวมถึงระยะเวลาการใช้งานของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายต่อคนต่อเดือนที่เพิ่มขึ้น
“เอไอเอสมั่นใจว่า การขยาย Serenade Club เป็น 20 สาขาในปีนี้จะสามารถรองรับความต้องการใช้บริการของลูกค้าเซเรเนดที่เพิ่มมากขึ้น และการปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้จะเป็นมิติใหม่ของงานบริการที่จะสร้างความประทับใจให้ลูกค้าในทุกครั้งที่เข้าไปใช้บริการ”
โดย Serenade Club จะครอบคลุมพื้นที่ให้บริการในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง และหาดใหญ่ ที่จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 นอกจากนี้ ก็จะมี Serenade Room ที่อยู่ภายใน AIS Shop เมื่อรวมกันแล้วจะมีพื้นที่เอ็กซ์คลูซีฟ ที่พร้อมให้บริการสำหรับลูกค้าเซเรเนดกว่า 40 สาขาทั่วประเทศ
“ผู้บริโภคยังมีความต้องการศูนย์บริการเพื่อให้ได้สัมผัสเครื่องสมาร์ทโฟน การขอคำแนะนำจากพนักงาน ไม่เหมือนกับธุรกิจธนาคารที่หลายๆ บริการสามารถทดแทนด้วยการบริการดิจิทัล ทำให้เชื่อว่าในอุตสาหกรรมนี้ยังไม่มีการปรับลดสาขาแต่อย่างใด”
ทั้งนี้ ปัจจุบัน เอไอเอส มีฐานลูกค้าในระบบ 40.1 ล้านราย เป็นลูกค้าเซเรเนด 4.5 ล้านราย โดยแบ่งเป็นระดับแพลทินัม 2 แสนราย โกลด์ 1.2 ล้านราย และเอมเมอรัล 3.1 ล้านราย และคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 40% เป็น 6.3 ล้านราย
สำหรับการให้บริการใน Serenade Club ที่ปรับปรุงใหม่จะอยู่ภายใต้แนวคิด “The Ultimate Service Experience - ที่สุดของบริการเหนือระดับ” ด้วย5-Sense Experience ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ใหม่ รสชาติทั้งของว่าง และน้ำที่ใช้วัตถุดิบเฉพาะ กลิ่นที่มีการนำเครื่องหอมจาก PANPURI ในกลิ่นเฉพาะ “Serendipity” มาใช้งาน
รวมถึงเสียงดนตรีสไตล์ Groove Jazz จาก Hitman Jazz ค่ายเพลงแจ๊ซรายแรกของไทย สัมผัส จากบริการของ Serenade Ambassador ที่ได้รับการอบรมด้วยหลักสูตรการให้บริการ และชุดที่ออกแบบเฉพาะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ให้บริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า
