ซีอีโอ เฟซบุ๊ก (Facebook) มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ถือโอกาสใช้วันครบรอบวันเกิด 14 ปีของเฟซบุ๊ก บอกเล่าประสบการณ์ความผิดพลาดของตัวเองในอดีต ทั้งความพลาดในด้านเทคนิคไปจนถึงการไว้ใจคนผิด
ผ่านเพจส่วนตัว
โดยสิ่งที่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กระบุว่าตนเองได้ทำพลาดไปตลอดระยะเวลา 14 ปีนั้น มีตั้งแต่การไว้ใจคนผิด, การเจรจาที่ไม่ประสบความสำเร็จ, การใช้คนไม่ถูกกับงาน, ความผิดพลาดในเรื่องของการมองเทรนด์, การออกตัวช้ากว่าคนอื่นในเรื่องของฟีเจอร์ใหม่ ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม ซีอีโอเฟซบุ๊กระบุว่า ในช่วงเริ่มต้นสร้างแพลตฟอร์มนี้ เขาเพิ่งอายุ 19 ปี และเพิ่งออกจากดอร์มของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด อีกทั้งยังไม่รู้เรื่องการตั้งบริษัท และการให้บริการอินเทอร์เน็ตใด ๆ แต่การที่คอมมูนิตีนี้ยังอยู่มาจนถึงวันนี้ ไม่ใช่เพราะการที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด แต่เป็นเพราะคนในเฟซบุ๊กให้ความสำคัญ และเชื่อว่า สิ่งที่ทำอยู่นั้น มีความหมายมากพอที่จะทำต่อไป
“การล้มครั้งแล้วครั้งเล่า คือ หนทางเดียวที่จะทำให้เราพัฒนาขึ้น” มร.ซักเคอร์เบิร์ก กล่าว
ทั้งนี้ เขายังได้บอกด้วยว่า ทุกคนในเฟซบุ๊กจะยังคงพัฒนางานของตัวเองต่อไป รวมถึงภารกิจที่จะทำให้ครอบครัว และเพื่อนนั้น มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น
แน่นอนว่า คำกล่าวของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ย่อมเป็นที่สนใจ เพราะทำให้เกิดการสืบหาความผิดพลาดที่เขาเคยทำไว้ เช่น กรณีของความผิดพลาดทางเทคนิค, การใช้คนผิดงาน, การไว้ใจผิดคน หรือการเจรจาที่ไม่ประสบความสำเร็จ เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
สำหรับเฟซบุ๊ก ปัจจุบันเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานแล้วกว่า 2 พันล้านคน (ล็อกอินเข้ามาอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง) รวมถึงมีรายได้ในไตรมาสที่ผ่านมา 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อีกด้วย แต่สิ่งที่เฟซบุ๊กในวันนี้ต้องเผชิญก็คือ การถูกตรวจสอบจากรัฐบาล รวมถึงเพื่อนร่วมอาชีพอย่างกูเกิล (Google) และทวิตเตอร์ (Twitter) ว่ามีระบบหลังบ้านอย่างไร จึงปล่อยให้เอเยนต์จากรัสเซียเข้ามาซื้อโฆษณาที่สร้างความสับสนให้เกิดขึ้นภายในสังคมได้เป็นเวลานาน ด้วยเหตุนี้ เมื่อมาพิจารณาจากสิ่งที่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก โพสต์แล้ว เป็นไปได้ว่า ปีนี้จะเป็นปีที่เฟซบุ๊กมีการปรับตัวครั้งใหญ่เลยก็เป็นได้