อีกขั้นตอนผ่าตัดหน้าฟีดข่าว หรือ News Feed ล่าสุดของเฟซบุ๊ก (Facebook) หวังตอบโจทย์ผู้ใช้ทั่วโลก คือ การให้ความสำคัญกับข่าวคราวในท้องถิ่น หรือ local news เหนือข่าวกลุ่มอื่น โดย Facebook ย้ำในโพสต์บล็อกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มต้นแล้ว เท่ากับเป็นการจัดให้ชนิดผู้ใช้ไม่ต้องขอ
Facebook ระบุว่า นอกจากการยกระดับหน้าฟีดข่าวของทุกคนด้วยการดึงเนื้อหาจากเพื่อนขึ้นมาแสดงก่อน วันนี้ Facebook จะแสดงข่าวท้องถิ่นเป็นหลักด้วย การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามของ Facebook ในการให้ความสำคัญกับพื้นที่ภูมิศาสตร์ที่มีการเปิด Facebook ใช้งาน การเจาะกลุ่มที่เล็กลงนี้จะทำให้ Facebook วิเคราะห์ผู้ใช้ได้ง่ายกว่าการเหมาพื้นที่เป็นประเทศ
เบื้องต้น รายงานชี้ว่าฟีเจอร์ใหม่ Facebook จะช่วยยกระดับให้ผู้ใช้รู้สึกว่าข่าวมีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะข่าวจะถูกเลือกตามข้อมูลพื้นที่ภูมิศาสตร์ที่ใช้งาน และสถานที่สำคัญรวมถึงร้านค้าในพื้นที่นั้น โดยเนื้อหาจะได้รับการจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง ตามที่ผู้ใช้รายนั้นคลิกติดตาม หรือเคยแชร์เรื่องราวจากสื่อเฉพาะราย
ทั้งหมดนี้ มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงนี้บนเพจของตัวเอง โดยระบุว่าได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางพบปะผู้คนทั่วสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว
“หลายคนบอกผมว่า ถ้าเราเลิกโหมไฟพูดถึงประเด็นที่แตกแยก และมุ่งเน้นไปที่ปัญหาในท้องถิ่นแทน เราทุกคนจะสามารถจัดการความแตกแยกนั้นได้ดีขึ้น” ผู้ก่อตั้ง Facebook ยังระบุด้วยว่า ข่าวท้องถิ่นจะช่วยสร้างชุมชนเข้มแข็งทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เป็นส่วนสำคัญในการทำให้เวลาที่ทุกคนใช้ไปบน Facebook เป็นเวลาที่มีค่า”
ฟีเจอร์นี้จะประเดิมในสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรก โดยเป็นโครงการที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ส่วนหนึ่ง คือ การปรับระบบใหม่แบบยกแผง จุดนี้ Facebook ชี้ว่า การอัปเดตนี้อาจครอบคลุมสื่อท้องถิ่นรายเล็ก หรือเจาะกลุ่มนิชในช่วงแรก แต่บริษัทกำลังดำเนินการเพื่อปรับปรุงความถูกต้องและความครอบคลุมตลอดเวลา
ที่สำคัญ Facebook ไม่ลืมที่จะย้ำว่า ภารกิจเรื่องฆ่าตัดตอนข่าวปลอม, ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง, clickbait, ข่าวเน้นความตื่นเต้น และบัญชีที่ไม่ถูกต้อง ก็ยังคงเป็นนโยบายหลักที่ Facebook จะทำคู่กันไป
ผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากฟีดข่าวเวอร์ชันใหม่ที่ถูกมองว่าเป็นรูปแบบไม่รวมศูนย์ (decentralized) คือ สื่อผู้รายงานข่าวในระดับประเทศ ที่ไม่เสนอข่าวท้องถิ่นให้สมดุล อย่างไรก็ตาม เรื่องข่าวท้องถิ่นนั้นถือเป็นเทรนด์ที่คู่แข่งอย่างกูเกิล (Google) ก็สนใจเช่นกัน โดยได้ทดสอบบริการข่าวท้องถิ่นของตัวเองด้วยการโชว์แอปพลิเคชันชื่อ Bulletin เพื่อรวบรวมข่าวท้องถิ่นให้ชาวอเมริกันได้ใช้งาน