xs
xsm
sm
md
lg

ฟอร์ด ลุยธุรกิจเดลิเวอรีสู่การจัดส่งสินค้าแบบ “ไร้คนขับ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ฟอร์ด (Ford) ที่ระยะหลังประกาศว่า ตนเองเป็นบริษัทเทคโนโลยี (Tech Company) จับมือสตาร์ทอัป โพสต์เมตส์ (Postmates) นำเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติมาสู่บริการเดลิเวอรีสินค้าแล้ว หวังสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภคในการจัดส่งสินค้าแบบไร้พนักงานขับรถ

โครงการดังกล่าวยังเป็นโครงการนำร่อง จึงยังมีพนักงานขับรถที่เป็นมนุษย์นั่งอยู่ในการทดสอบด้วย แต่จากการทดสอบนี้ จะช่วยให้ฟอร์ดสามารถเข้าใจและเห็นภาพได้มากขึ้นว่า ระบบเดลิเวอรี่อัตโนมัตินั้น ควรจะมีรูปแบบการทำงานอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่ลูกค้าเดินออกมารับสินค้าด้วยตัวเอง

เชอร์รีฟ มารักบี้ (Sherif Marakby) รองประธานด้านยานยนต์อัตโนมัติของฟอร์ด กล่าวว่า ในอนาคต เมื่อลูกค้าใช้บริการของ โพสต์เมตส์ ในการจัดส่งสินค้า ไม่ว่าจะเป็นของชำ หรือสินค้าอื่นใด ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง จะเป็นผู้นำออเดอร์ของลูกค้ามาจัดส่งให้

“เราได้ศึกษาทั้งในฝั่งผู้ค้าและฝั่งผู้ซื้อว่า ประสบการณ์แบบไหนที่พวกเขาจำเป็นต้องมีที่จุดจัดส่งสินค้า”

การประกาศของฟอร์ดว่าจะลงมาเล่นในตลาดเดลิเวอรีนี้ เกิดขึ้นในงาน CES 2018 ซึ่งไม่เพียงแต่ฟอร์ดเท่านั้น แต่บริษัทอย่างเจเนรัล มอเตอร์ส์ (General Motors) ก็ยังมีแผนจะส่งรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติเข้าสู่บริการร่วมเดินทางในปี 2019 เช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของบริษัทรถยนต์ในการที่จะลดบทบาทของคนขับรถออกจากธุรกิจของตนเองมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของ IHS Markit ระบุว่า ในช่วงปี 2020 จะถือเป็นยุคแรกของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยคาดว่าจะมียอดขายประมาณ 8,000 คัน และทั้งหมดจะเกิดขึ้นแค่ในสหรัฐอเมริกา

แต่ในปี 2030 ยอดขายรถอัตโนมัติจะเติบโตมากขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และอาจมียอดขายรวมกันประมาณ 4 ล้านคัน ก่อนจะมาเติบโตสุด ๆ ในปี 2040 ที่คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์อัตโนมัติอาจแตะที่ 34 ล้านคัน และเกินครึ่งเป็นยอดขายที่มาจากเอเชียแปซิฟิกด้วย

ก่อนหน้านี้ ฟอร์ด เคยจับมือกับโดมิโน่พิซซ่า (Domino Pizza) เพื่อทดสอบการจัดส่งพิซซ่ามาแล้วเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2017 ที่ผ่านมา และการทดสอบครั้งนั้น ก็ทำให้ฟอร์ด ได้พบหัวใจสำคัญ นั่นคือ รถยนต์อัตโนมัติควรมีรูปแบบการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย ระบบนี้จึงจะไปรอด เช่น การสื่อสารกับลูกค้า หรือมีคำอธิบายว่า ลูกค้าจะต้องทำอย่างไรบ้าง จึงจะรับอาหารออกจากรถได้

นอกจากนั้น ฟอร์ด ยังพบว่า ลูกค้าบางรายก็บอกว่า “บาย” (Bye) กับรถไร้คนขับด้วยเช่นกัน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้ถูกนำไปปรับใช้เป็นโมเดลในการสร้างประสบการณ์ในการส่งสินค้าที่ไม่มุ่งเฉพาะการส่งของแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีการโต้ตอบกับลูกค้าได้ด้วย จึงจะเป็นบริการที่สมบูรณ์

ผู้บริหารของฟอร์ด ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับสตาร์ทอัปอีกรายหนึ่งในซิลิคอนวัลเลย์ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มคลาวด์ชื่อ Transportation Mobility Cloud สำหรับเป็นที่บริหารจัดการข้อมูลต่าง ๆ ระหว่างรถยนต์, มอเตอร์ไซค์, คนเดินถนน, ระบบขนส่งสาธารณะ และโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ

เหตุผลหนึ่งที่ฟอร์ดโฟกัสไปที่บริการเดลิเวอรีแบบไร้คนส่งนั้น เพื่อต้องการลดความแออัดของเมือง โดยระบุว่า หนึ่งในห้าของสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาจราจรคับคั่งในเมืองนั้น มาจากบริการจัดส่งสินค้า

นอกจากนี้ ฟอร์ดยังร่วมมือกับควอลคอมม์ (Qualcomm) ในการพัฒนาเทคโนโลยี C-V2X หรือ cellular vehicle-to-everything ที่จะช่วยให้รถยนต์และเมืองอัจฉริยะสื่อสารถึงกันได้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการสร้างระบบคมนาคมขนส่งแบบไร้คนขับในอนาคตอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น