เปิดประเด็นกรณีหุ้นบริษัทอีสต์แมน โกดัก (Eastman Kodak) พุ่งกระฉูด 120% หลังจากเปิดแผนธุรกิจใหม่ลุยออกเหรียญเงินดิจิทัลของตัวเองในชื่อ “โกดักคอยน์” (KodakCoin) เบื้องต้น ระบุจะจับมือกับบริษัทสัญชาติลอนดอน ระดมทุนแบบ ICO เพื่อให้บริการบริหารลิขสิทธิ์ภาพของช่างภาพ ขณะเดียวกัน ก็จะติดตั้งอุปกรณ์โครงข่ายเพื่อขุดบิตคอยน์ (Bitcoin) ที่สำนักงานใหญ่ในนิวยอร์กด้วย
1 กำเนิดแบรนด์ Kodak KashMiner บริการเช่าฮาร์ดแวร์ขุดบิตคอยน์
จากธุรกิจค้าฟิลม์ถ่ายรูป ธุรกิจใหม่ที่ Kodak ให้รายละเอียดที่งาน CES 2018 นั้น จะมีชื่อว่า โกดัก แคชไมเนอร์ (Kodak KashMiner) บริการนี้จะเปิดให้ลูกค้าชำระค่าเช่าระบบขุดเงินดิจิทัล หรือ mining capacity แผนธุรกิจใหม่นี้โดนใจนักลงทุน เพราะ Kodak เป็นหนึ่งในบริษัทหลายแห่งที่มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นทันทีที่เปิดเผยแผนธุรกิจใหม่เกี่ยวกับกิจกรรมที่มีเทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) อยู่เบื้องหลัง
2 ผลจากธุรกิจลิขสิทธิ์แบรนด์ Kodak
แม้ชื่อของ Kodak จะโดดเด่นเรื่องการเป็นแบรนด์ที่ปรับตัวสู่โลกดิจิทัลได้ช้า แต่วันนี้ Kodak เปลี่ยนไปแล้ว เพราะ Kodak กำลังจะทิ้งอดีตของตัวเอง แล้วกลับมามีชีวิตใหม่ในยุคเงินดิจิทัล โดยตั้งแต่ปี 2012 ตัว Kodak ขายสิทธิชื่อแบรนด์ให้กับผู้ผลิตหลายกลุ่ม ทำให้ชื่อ Kodak ปรากฏบนแบตเตอรี, เครื่องพิมพ์, โดรน, คอมพิวเตอร์ และกล้องดิจิทัลหลายรุ่น
กรณีของ KashMiner รายงานชี้ว่าเป็นผลจากการร่วมมือกับบริษัทสปอตไลต์ (Spotlite) ผู้ซื้อลิขสิทธิ์แบรนด์ Kodak ที่เคยติดแบรนด์ Kodak ในตลาดหลอดไฟแอลอีดี (LED) มาก่อนหน้านี้
สำหรับธุรกิจขุดบิตคอยน์นั้น หมายถึงการอุทิศคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงของตัวเองเพื่อเปิดซอฟต์แวร์ของบิตคอยน์ให้ทำงานตลอดเวลา การอุทิศนี้จะได้รับบิตคอยน์กลับมาเป็นการตอบแทน จุดนี้เงินบิตคอยน์ที่ได้รับจาก Kodak KashMiner จะถูกแบ่งปันกันระหว่างลูกค้า และธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจขุดเงินดิจิทัลนี้มีความเสี่ยง เพราะโครงข่ายขุดเงินเหล่านี้จะต้องใช้กองทัพหน่วยประมวลผลคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง และไพร่พลพัดลมระบบระบายความร้อนเพื่อให้ระบบทำงานได้ราบรื่น ทั้งหมดนี้จะเผาผลาญพลังไฟสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อมูลค่าเงินดิจิทัลยิ่งสูงขึ้น จำนวนผู้สนใจที่นำคอมพิวเตอร์เข้ามาร่วมกันประมวลผลมีมากขึ้น การเข้ารหัสจึงซับซ้อนมากขึ้น ส่งผลให้การเผาผลาญพลังไฟต่อการทำธุรกรรมแต่ละครั้งสูงขึ้นต่อเนื่อง
3 ที่สำนักงานใหญ่ Kodak มีโรงงานไฟฟ้า
แม้จะมีความเสี่ยง แต่โครงการนี้จะสามารถใช้ประโยชน์จากโรงงานผลิตไฟฟ้าของ Kodak ได้เต็มที่ ซึ่งโรงงานนี้มีกำลังการผลิตว่างอยู่นับตั้งแต่ยุคที่ Kodak ยังมั่งคั่ง จุดนี้รายงานย้ำว่า ธุรกิจขุดบิตคอยน์ของ Kodak จะมีฐานที่มั่นที่สำนักงานใหญ่ในเมืองโรเชสเตอร์
Kodak มั่นใจมากว่าจะไปได้สวยในธุรกิจนี้ เพราะ Kodak สามารถอัดฉีดพลังงานในแต่ละหน่วยประมวลผลในต้นทุนต่ำ 4 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าการที่บุคคลทั่วไปจะซื้ออุปกรณ์มาติดตั้งในบ้านเพื่อขุดเงินดิจิทัลด้วยตัวเอง
จากมูลค่าปัจจุบันของ Bitcoin การประเมินล่าสุดพบว่า เงินลงทุนล่วงหน้าในวงการนี้อยู่ที่ประมาณ 4,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 128,418 บาท สำหรับการทำเหมืองขุดเงินดิจิทัล 24 เดือน ซึ่งอาจให้รายได้ 500 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน หรือประมาณ 16,050 บาท
4 ร่วมขุดแล้ว 80 ราย
ปัจจุบัน Kodak ระบุว่ามีลูกค้าผู้ลงทุนขุดเงินดิจิทัลแล้ว 80 ราย คาดว่าจะเพิ่มอีก 300 รายในไม่ช้า เพราะตลาดเงินดิจิทัลมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น แม้วันนี้บิตคอยน์มีความผันผวนอย่างผิดปกติ และนักวิเคราะห์หลายคนหวั่นใจว่า ค่าของมันจะพังทลายลงจนส่งผลให้เกิดความสูญเสียสำหรับผู้ที่ต้องจ่ายต้นทุนล่วงหน้า
5 โยกระบบไปทำงานอื่นได้หาก Bitcoin ล่ม
Halston Mikail ผู้บริหารบริษัท Spotlite พันธมิตรของ Kodak ระบุว่า แม้บิตคอยน์อาจเป็นฟองสบู่ได้ แต่อุตสาหกรรม “บล็อกเชน” ไม่ใช่ฟองสบู่ เนื่องจาก blockchain เป็นแพลตฟอร์มที่มั่นคงบนพื้นฐานของคณิตศาสตร์ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว blockchain จะอยู่รอดแน่นอน
6 “สกุลเงิน Kodak” ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ
โครงการ KodakCoin ของ Kodak กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อสร้างเป็นระบบที่ช่างภาพสามารถอัปโหลดภาพใหม่เข้ามาในระบบ แล้วบริหารจัดการสิทธิต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มได้โดยตรง สามารถป้องกันปัญหาลิขสิทธิ์ได้ดี ทั้งหมดนี้จะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ KodakOne ที่จะถูกใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลบนเว็บ และค้นหาภาพที่ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
Kodak บอกว่า โครงการนี้กำลังอยู่ในขั้น “จัดการขั้นตอนการออกใบอนุญาต” เพื่อให้ช่างภาพจะได้รับค่าตอบแทนใน KodakCoin
7 ทุกอย่างเพื่อช่างภาพ
Jeff Clarke ซีอีโอ Kodak กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงตามแนวคิดดั้งเดิมของ Kodak เรื่องความพยายามทำให้การถ่ายภาพมีความเท่าเทียม และทำให้การออกใบอนุญาตเป็นไปอย่างยุติธรรมต่อศิลปิน โดยบอกว่า เทคโนโลยีเหล่านี้เอื้อให้ชุมชนการถ่ายรูปมีวิธีที่สร้างสรรค์และง่ายในการจัดการ
แผนธุรกิจเหล่านี้โดนใจนักลงทุนจนทำให้ราคาหุ้นของ Kodak มีการซื้อขายสูงกว่าราคาเปิดตลาด 130% ก่อนที่จะลดลงเล็กน้อยหลังปิดตลาด เบ็ดเสร็จแล้วหุ้น Kodak บวก 119.4%