กสทช. ลงมตินำร่างประกาศโดรนประกาศราชกิจจานุเบกษา ใครจะนำเข้าโดรนต้องขออนุญาตกับ กสทช. ส่วนคนที่มีก่อนวันที่ 9 ม.ค. แล้ว ยังไม่แจ้งลงทะเบียน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนโดรนที่ครบกำหนด 90 วัน เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2561 นั้น ที่ประชุม กสทช. ได้มีมติเห็นชอบประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับอากาศยาน ซึ่งไม่มีนักบินสำหรับการใช้งานเป็นการทั่วไป (ฉบับแก้ไขปรับปรุง) และมอบหมายให้นำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
นั่นคือ หลังจากที่ประกาศนี้มีผลบังคับใช้ ผู้ใช้โดรนที่มีคลื่นความถี่ 433.05-434.79MHz กำลังส่งไม่เกิน 10 มิลลิวัตต์ คลื่นความถี่ 2400-2500 MHz กำลังส่งไม่เกิน 100 มิลลิวัตต์ และคลื่นความถี่ 5725-5850MHz กำลังส่งไม่เกิน 1000 มิลลิวัตต์ ไม่จำเป็นต้องมาขออนุญาตใช้ แต่ต้องมาขึ้นทะเบียนกับสำนักงาน กสทช.
ส่วนผู้นำเข้าโดรนต้องขอนำเข้าทุกกรณี ไม่ว่าจะมีกำลังส่งเท่าใด และสำหรับผู้ค้าต้องขอใบอนุญาตค้าวิทยุคมนาคม และต้องแจ้งบัญชีเครื่องว่ามีเครื่องรุ่นไหนที่อยู่ที่ร้านบ้าง สำหรับผู้ที่ซื้อโดรนมาใช้ เมื่อซื้อมาแล้ว ถ้าคลื่นความถี่ กำลังส่งไม่สูงเกินที่กำหนดไว้ข้างต้น ไม่ต้องขออนุญาตใช้คลื่นความถี่ แต่ถ้าเกิน ต้องแก้ไขกำลังส่งให้เป็นไปตามที่กำหนด
ในส่วนของผู้ที่มีโดรนอยู่ในครอบครองหรือใช้งานก่อนประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้ และไม่ได้มาขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 9 ม.ค. 2561 ตามคำสั่ง กสทช. เรื่อง การขึ้นทะเบียนเครื่องวิทยุคมนาคมที่ใช้ในอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ถือว่ามีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 23 แห่ง พ.ร.บ. วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ยอดขึ้นทะเบียนโดรนทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. 2560 ถึงวันที่ 9 ม.ค. 2561 มียอดขึ้นทะเบียนโดรนรวมทั้งสิ้น 8,943 เครื่อง แยกเป็นขึ้นทะเบียนที่สำนักงาน กสทช. 8,219 เครื่อง และขึ้นทะเบียนที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จำนวน 706 เครื่อง และขึ้นทะเบียน ณ สถานีตำรวจ 18 เครื่อง